Drill Bit Snow Wakkanai – นินทาสาวนานาชาติ – ชีวิตวิศวกรสนาม – เรื่องนี้เขียนเอาไว้นานมากแล้ว เขียนไว้ในรูปแบบของจดหมายบันทึกการเดินทาง เล่าให้คนๆหนึ่ง(ที่ไม่มีตัวตน)ฟัง
เขียนไว้นานมากแล้ว (สังเกตุจากเหตุการณ์และข่าวที่โดนอ้างอิง) ถ้าจำไม่ผิดก็ราวๆปี 2000 นั่นแหละครับ ข้อมูลอะไรต่างๆก็นะ 20 ปีล่วงมาแล้ว คิดเสียว่าอ่านเรื่องเล่าเก่าๆก็แล้วกัน หลายอย่างที่เกิดขึ้นและเป็ฯไปก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นอีกแล้ว
ตอนต้นเป็นภาษาอังกฤษเพราะเขียนที่ล๊อบบี้สนามบินฮาเนดะ โน้ตบุ๊คเครื่องนั้นไม่มีคีย์บอร์ดภาษาไทย คีย์บอร์ดภาษาไทยเอายัดเข้าใต้ท้องเครื่องบินไปแล้ว กลางๆเรื่องก็จะเป็นภาษาไทย เพราะไปเขียนต่อที่แท่นขุดเจาะฯ
ตามเคย รูปประกอบก็โหลดๆเอา แทรกๆพักสายตา อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องแต่อย่างใดครับ
Drill Bit Snow Wakkanai
นินทาสาวนานาชาติ – ชีวิตวิศวกรสนาม
ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล
Bare with me please, I don’t have Thai keyboard with me. Actually, I have it but it is in the luggage that has been already checked in. There is no Thai version for this one. Get up and bring your dictionary. Come on, brush up your English a bit. Don’t worry. I am gonna use M3 English level. Actually, that is all I know. Ha Ha.
The funny here, to me, is the announcing in the airport. There is no announcing in English. Yes, it is a domestic airport but there are many non-Japanese using this airport, too. What I have to listen is the word “Wakkanai” and observe the crowd behavior.
-------------------------------------------------------
ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ
กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น
If they smile, it means there is some possibility to fly. If they start bitching, believe me you know when people bitch though different language, means negative. If they move their buds, means the flight is cancelled. What I have to do is following them. I heard from my colleague here that this flight is cancelled pretty often. If it happens to me, I may have to take another one to Sapporo then take a 5 hours train to Wakkanai. I hope it won’t happen to me.
There are a lot of X-Mas decoration around and inside airports but I doubt if X-Mas spirit is there since Japanese absorb the surface of western culture pretty easy but the true meaning usually get dropped somewhere.
They are available in grocery stores, foot path bookshops, everywhere. People flip over it as if they are reading a newspaper. Japanese smokes like chimney and drink like fish. Liquor and cigarette are in vending machine everywhere, too.
เหลือ L สองชุด M 1 ชุด นะคร๊าบ
Out there, the sun rises at 7 and set at 3 in the afternoon. By 4, it darks as if 9 in Bangkok. At night it is –10 to –15 degrees C. Day is 0. If you were there you will understand when they say “Today is a nice sunny day”. We, in Thailand, take it for grant of having sun every day, 365 days a years. Other parts of the world, sun means life to them.
….. 2 วันผ่านไป ….. จิ้มที่ในโรงแรม มีแป้นภาษาไทยแล้ว ชอบล่ะซิ จะได้ไม่ต้องเปิดดิก
หาบ้านให้น้องหน่อยครับ :)
ขาวจั๊วะ กอดได้ อิงได้ วางประดับได้
ปาหัวคนข้างๆก็ได้ (เวลาใช้ให้ไปล้างจานแล้วไม่ยอมไป)
ถึงที่วาคาไนแล้วล่ะ แต่ถึงแบบทุลักทุเล เพราะเครื่องบินมันบินวนๆๆๆๆๆอยู่เหนือสนามบินวาคาไนชั่วโมงกว่า แล้วกัปตันก็บอกว่า “เสียใจหมู่เฮา ลงบ่ได้ พายุหิมะจมหูเลย งั้นเฮาจะพาสูไปลงที่เซนโตเซ่ล่ะกัน” อันนี้แปลเอง เพราะฟังไม่ออก เป็นคนที่ไม่ใช่ญี่ปุ่นคนเดียวบนลำ
แอร์ฯก็ดี๊ดีอุตส่าห์พยายามมาแปลให้ฟังทุกครั้งที่กัปตันประกาศ และที่สำคัญเธอสวยจัง แต่ภาษาอังกฤษเธอพอๆกับเด็ก ป.6 แต่ก็พอรู้เรื่อง เอาเป็นว่าลาวต้องมาลงที่เซนโตเซ่ ซึ่งก็บินย้อนกลับทางเก่าแหละ
บินย้อนกลับมาสัก 50 นาที แต่ต้องจับรถไฟจากเซนโตเซ่ ไป วาคาไนถึง 6 ชม. ไม่นับเวลารอๆหลงๆอยู่ตามสถานีต่อรถนะ เพราะมันไม่ใช้ขบวนเดียวถึง ล่อมัน 3 ขบวนเลย สะใจพี่ยุ่นแก กระเป๋าก็หนัก ทางก็ไม่รู้ มาคนเดียว อ่านภาษายุ่นก็ไม่ออก แล้วพี่ยุ่นมันโปรฯฝรั่ง ดมก้นฝรั่งเหมือนพี่ไทยซะที่ไหน บ้านมันก็ภาษามันทั้งนั้น
มารู้ตอนหลังว่า มันคือ วาคาไนใต้ ซึ่งมันจะถึงก่อน สถานีวาคาไนที่ซื้อตั๋วมาลง ประมาณ 3 นาที “อ้ายหอยหลอดเอ๋ย” ลาวอุทานในใจ เพราะตอนจอดที่ มินิมิ วาคาไน ก็ว่ามันคุ้นๆตาชอบกล และ มันก็ 4 ทุ่ม ครึ่งแล้ว มืดมาก ถ้าเป็นกลางวันล่ะ ไม่พลาด ลาวโดดแผล้วลงไปแล้ว แต่ก็มั่นใจว่าต้องไปอีก 1 สถานี
แล้วลาวก็ผิดจนได้พอลงมา ฮ่วย มันคนล่ะที่นี่หว่า ลาวผิดอีกแล้ว ก็เลยต้องจับแทกซี่ย้อนมาอีก 1070 เยน ราวๆ 428 บาท ถึงได้มาจบลงที่โรงแรมได้สมใจนึกลาวหลวงพระบาง(ระก๊ำระกำ … ฮ่วย)
แบบว่าเป็นเมืองขาวๆด้วยหิมะ ในม่านหมอกตลอดปีตลอดชาติ ผู้หญิงที่นี่ถึงผิวขาวจั๋วน่าเจี๊ยะ เพราะไม่ได้โดนแดดให้เป็นฝ้าเป็นผื่นอย่างพี่ไทย ที่ว่าขาวน่ะเดาเอาไม่ได้เห็นหรอกเพราะที่นี่หนาวมาก ถ้าวันไหน -5 ก็ว่าอุ่นแล้ว อย่างตอนนี้ 2 ทุ่ม ข้างนอก -15 แน่ะ ทั้งสาวทั้งไม่สาวนุ่งกันมิดเห็นแต่ตาเป็นแขกมุสลิมอัฟกันเลย
จบแล้ว ไปนอนก่อน พรุ่งนี้ต้องทำงาน
วันที่ 19 … แล้วก็เป็นยั่งคาด เจ็ดโมงก่าๆก็มีเสียงพวกยุ่นมาปลุก กำลังฝันถึงลูกเกดอยู่พอดี คล้ายๆกะบอกว่า ไปทำงานได้แล้วไอ้หน้าเหลือง ฮ่าๆ แปลเอาเอง จริงๆคงจะสุภาพกว่านี้ แต่แหม นอนไปได้จิ๊ดเดียวตอนตี4 ก็นอนแบบติดพัน มีใครมาปลุกก็พาลไว้ก่อนล่ะ ตื่นขึ้นมาก็ทำงานนั้นแหละ
ไม่รู้จะเล่าอย่างไรว่าทำอะไร เอาเป็นว่าใส่ชุดหมีหนาหนักๆสัก 10 โลได้มั้ง เพราะมันหนาวน่ะ ชุดหมีเป็นชุดที่ออกแบบมาเฉพาะใช้งานกับอากาศอย่างงี้ วันนี้อากาศดีเพราะแค่ 0 องศา มีแดดอ่อนๆ มีหิมะลงเบาๆช่วงเช้า แต่ตอนที่มานั่งจิ้มนี้บ่าย 4 โมง พระอาทิตย์ตกไปแล้ว ข้างนอกลมแรง หิมะปลิวว่อนเลย ออกไปทีก็หน้าชาไปหมด หูแข็งแป็กเลยล่ะ กลัวหูหลุดจัง ฮ่า
ไม่รู้จะเล่าเรื่องที่ทำงานอย่างไร กลายเป็นเล่าเรื่องลมฟ้าอากาศไปฉิบ วันนี้คงไม่ได้นอนอีก 1 คืน และคงไม่ใช่คืนสุดท้าย เอ คงได้นอน ก็นอนบนไอ้ม้านั่งยาวๆตัวเดิมแหละ ฝึกสมาธิดีด้วย เรียกว่านอนสมาธิไง เคยได้ยินไหม ฮ่าๆ ห้ามนอนดิ้นเพราะมันจะตกลงมาให้ได้ตื่นเป็นรางวัล งง ตัวเองว่ะ ….
อยากเล่าจังว่าทำอะไรแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง เอาเป็นว่ามานั่งเฝ้าเขาใช้หัวขุดของเราเจาะเปลือกโลกใบนี้ในฐานะที่เป็นผู้ที่น่าจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุดในแถบนี้
เคยดูเรื่องอามาเกดอนไหม ประมาณนั้นแหละ แต่อยู่บนฝั่ง ถ้าไม่มีอะไรเขาก็ไม่เรียกไม่ถามแต่ถ้าใช้หัวขุดของเราแล้ว ม่ายล่ายลั่งจาย ก็จะต้องโดนจิก โดนถาม โดนถอง (ด้วยคำพูด) โดนโขกเป็นน้ำพริก โดนสับเป็นบะช่อ ก็ไอ้หัวเจาะหัวหนึ่งมันราคาถูกซะที่ไหนล่ะ ไหน ค่าเครื่องบิน ค่ากิน ค่า โรงแรมของไอ้ลาวหน้าเหลืองๆตัวนี้ที่มานั้งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ที่ฐานเจาะ ทำทรงภูมิว่ามาช่วยให้คำแนะนำ ดังนั้นระบายอารมณ์กะมันนี่แหละ สมประโยชน์นักแล …
ว่างน่ะก็เลยจิ้มไว้เรื่อยๆเผื่อมีคนเรียกร้องให้เล่าว่าไปทำอะไรมามั่งจะได้ไม่ต้องมานั่งท้าวคางนึกย้อน เพราะคนแก่ความจำ(เท่านั้นที่)สั้น ไม่เสียเวลาด้วย เดี๋ยวโดนต่อว่า ถ้าได้อ่านก็แสดงว่าขอมา ไม่ได้ขอมาแล้วได้อ่านก็แสดงว่าส่งผิด เอ๊ย ไม่ใช่ อยากอวดเอง กลัวจิ้มแล้วเสียเวลาเปล่า ฮิๆ
พวกแรกเป็นระดับล่าง ทำงานเป็นกะๆล่ะ 12 ชม. พวกที่สอง เป็นพวก วิศวกร ทำงาน 8 ชม. เฉพาะตอนกลางวัน ตอนกลางคืนกลับโรงแรมไปดวดเหล้า แล้ว standby ถ้ามีเรื่องมีปัญหาก็จะโดนจิกมาทันที หลับได้ไม่สนิท ว่างั้นเหอะ แต่ก็ยังได้หลับ
นี่พอดีงานนี้ค่อนข้างราบรื่นชื่นมื่นใจลูกค้า ก็เลยได้ไปเช็ดก้น ล้างตัวที่โรงแรมคืนนึง ไม่งั้นก็ต้องดองเป็นกิมจิไว้จนกว่าจะเสร็จ ตั้ง 5 วัน มั้ง … แต่ถ้าเป็นฐานเจาะที่อยู่กลางทะเลหรือตามทะเลทรายตามป่าตามเขา ทั้งหมดนี่จะอยู่ในแคมป์ใกล้ๆกับฐานเจาะนั้นแหละ แต่ก็ทำงานแบ่งเป็น 3 พวกเหมือนเดิม
ไม่รู้จะเล่าอะไรแล้ว …. จบมันง่ายๆงี้ที่เวลา ทุ่ม 10 นาที ของวันที่ 19 ….
วันที่ 21 ….. เหมือนเมื่อวานเด๊ะ ….จบมันง่ายๆงี้แหละที่ เก้าโมงเช้าพอดี …. ขี้เกียจแล้ว
คืนนี้คงต้องถ่างตาเฝ้ามันอีกจนถึงเช้า ก็ดีที่ใช้ของบริษัทฯ เพราะ 1 ของเราขุดได้เร็วกว่า จะได้เสร็จงานเร็วๆ 2 บริษัทฯขายของได้ก็สบายไปด้วย สมประโยชน์ด้วยกันทั้ง2ฝ่าย ดีกว่ามาให้ห้อยตุ้มรออยู่อย่างนี้ …. จบที่ บ่าย 4 โมงเย็นเฉียบ
… จริงๆแล้วอยู่ที่นี่ก็ดีกว่าหลายๆที่ๆไปทำงานมานะ ไม่มีอะไรน่าบ่นมาก เป็นที่เดียวที่มีโรงแรมอยู่ใกล้ฐานเจาะ ปกติจะต้องอยู่ในแคมป์ ซึ่งห้อนนอนจะเป็นตู้ๆ ห้องอาหารก็เป็นตู้ๆ นึกถึงตู้คอนเทนเนอร์ที่พวกก่อสร้างถนน สะพานใช้เป็นที่ทำงานตามข้างทาง คล้ายๆอย่างนั้น
ภาษาพวกเราเรียกว่า “ด๊อกเฮ้าส์” ไม่ต้องตกใจ แปลว่าบ้านหมาจริงๆนั้นแหละ จะมีแคมป์เต็มไปด้วยด๊อกเฮ้าส์ มีหน้าที่ต่างๆกัน เป็นห้องนอน ครัว อาหาร ที่ทำงาน ส้วม ห้องน้ำ ดูทีวี ฯลฯ วางเรียงกันกลางป่า กลางเขาเลยล่ะ
แต่ที่นี่มันตั้งฐานเจาะติดเมืองเลยมีโรงแรม สบายไป มีรถบัสเป็นเที่ยวๆตามตารางพลัดทำงาน วิ่งก็แค่ 15 นาที ที่หน้างานก็สะอาดสะอ้าน ห้องน้ำก็โคตรสะอาดสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งกะทำงานมาไม่เคยเห็นห้องส้วม ห้องน้ำที่หน้างานที่ไหนสะอาดน่าใช้เท่าที่นี่ ดีก่าของบ้านเราอีก
ไม่น่าเชื่อว่าอยู่หน้างาน ต่างกับหน้างานที่จีนยังกับฟ้ากะเหว อยู่โรงแรมก็มีโทรศัพท์ให้ต่อเน็ทเม้าส์กะทางบ้าน โทรทางไกลก็ได้ น้ำอุ่นก็มีอาบ แถมมีอาหารญี่ปุ่นขนานแท้ให้กินลดน้ำหนักอีก (ไม่รวมถึงการอดนอนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานอยู่แล้ว)
แต่ที่เห็นว่าไม่เหมือนหนังโป๊ที่ไหนคือตอนจบ ที่อื่นจบแล้วก็จบเลย (จบอย่างไรคงไม่ต้องเล่า เดี๋ยวกบว.เซ็นเซอร์) แต่ของที่นี่มีการลุกขึ้นมา(ทั้งยังเปลือยๆ เลอะเทอะๆ (อะไรคงไม่ต้องบอก) อย่างนั้นแหละ) โค้งคำนับ พูดจาอะไรกันอีกตั้งนาน ประมาณว่า ขอบคุณ ดีใจที่ได้เกียรติมาเล่นหนังด้วยกัน อะไรคล้ายๆอย่างงี้แหละ
ตบท้ายด้วยกันยืนกอดคอกันถ่ายรูป(หมู่)อีก คล้ายๆกับจะย้ำว่าเมื่อกี้เล่นละครนะอย่าคิดมาก เออ แปลกดี … ฮ่วย บ่ต้องย้ำดอก ข่อยฮู้แล่ว … เล่าซะน่ามาทำงานใช่ไหม
แต่ญี่ปุ่นถือว่าต้องให้ความสำคัญกับกิจการของลูกค้า เกี่ยวไม่เกี่ยวก็ขอให้ได้เห็นหน้าไว้ก่อนสบายใจประมาณนั้น ไม่เหมือนที่อื่น เขาจะประชุมกันเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ไม่เอาหน้าเหลืองๆที่ไม่เกี่ยวอย่างเราเข้าไปจุ้นเด็ดขาด
จิ้มไปเรื่อยๆเปื่อยๆ รอคิวทำงาน ได้เรื่องบ้างไม่ได้เรื่องบ้างก็อย่าถือเอาไว้เลย มันหนัก วางๆบ้างก็ได้ แล้วมันอะไรกันหว่านี่ … คืนนี้คงไม่ได้อาบน้ำเพราะค้างที่นี่ แต่ไม่ค่อยเท่าไรเพราะอากาศหนาวมากเหงื่อไม่ออกเลย ..
อย่างที่ตอนอยู่ทำงานที่อินตาระเดียตั้งหลายปี มันส์เหมือนกัน แบ็กเพ็คข้ามชมพูทวีปนี่ก็เขียนได้อีกตอนใหญ่ๆเลย จำได้ว่าจดเป็นไดอารี่ไว้ตอนเดินทางเที่ยวนั้น จดละเอียดเลยละ ถ่ายวีดีโอไว้ด้วย แต่ต้องกลับไปคุ้ยดูก่อน สมัยอยู่ที่ไอ้ยิปต์ เอ๊ย อียิปต์ก็สนุกไปอีกแบบ และก็อีกหลายๆประเทศที่ได้ไปทำงานมา กลัวเขียนแล้วจบไม่ลงเหมือนกัน มันไม่ต่อยังไงก็ไม่รู้ ไว้เปิดเป็นเรื่องใหม่ต่างหากดีก่าจะได้ไม่งง … พักยก
ท่าทางจะไปได้ด้วยดี 1 ชม. ขุดได้ 8 เมตร ไม่ดีมากแต่ก็พอใช้ได้ เหลืออีก 475 เมตร ก็อีกราวๆ 60 ชม. ก็ 2 วัน ครึ่ง น่าจะจบ ถ้าไม่เกิดอาการทื่อก่อนกำหนด (ไม่ใช่ท้องก่อนกำหนดอย่างดาราบ้านเราหลายๆคน
… ที่แวะไปแซวนี่ไม่ใช่อะไรหรอก อิฉาคนที่ทำให้ดาราท้องน่ะ .. ฮ่วย) ถ้าเกิดทื่อก่อนกำหนดจริงๆ ก็ยิ่งเสร็จเร็วใหญ่ โดนด่าเสร็จถีบส่งขึ้นเครื่องกลับบ้านเลย เพราะไม่มีหัวสำรองหัวที่สามแล้ว
พอร้างลาวงการมาเรียนต่อที่สารขัณฑ์ประเทศเมื่อปี 97 เลยต้องงดเพราะมันทำให้ความจำไม่ดีโด๊บตำราไม่เข้า กอปรกับเซลสมองตายไปหลายล้านเซลแล้วด้วย จากนั้นมาก็ไม่ได้ดื่มอีกเลย ก็ยกเว้นมานี่แหละ ระลึกความหลังซักหน่อย
มันค่อนข้างไร้สาระแล้วล่ะ ถ้าจะหยุดอ่านตอนนี้ก็ได้นะไม่ว่ากัน สมองมันหยุดทำงานไปนานแล้ว แต่นิ้วมันยังไม่หยุด จิ้มๆๆๆๆอะไรก็ไม่รู้ออกมาเรื่อยๆ ตัวเองยังไม่รู้เลยว่าไอ้นิ้วสองสามนิ้วของมือขวามันจิ้มอะไรออกมา สงสารคนอ่านเป็นที่สุดใจขาดดิ้นกระเด่วๆ
…. ฮ่าๆ ไงล่ะไร้สาระสุดๆดีไหม รู้งี้เลิกคบมันไปตั้งนานแล้ว คิดงี้ใช่ไหมล่ะ รู้ทันหรอกน่า เอาว่ะถ้ายังหน้าด้านอ่านก็จะหน้าด้านจิ้มกันไปให้ถึงเช้ากันเลยดีไหม
วิศกรที่มาขออาศัยห้องพักพิงเป็นนักธรณีวิทยา ทำงานเป็นกะ กะล่ะ 12 ชม. ดังนั้นจึงมี 2 คน ผลักกลางวันกับผลัดการคืน นิทาคนผลัดกลางวันก่อนดีกว่าเพราะมีให้นิทามากว่าคนผลัดกลางคืน เพราะเป็นคนอังกฤษที่มาเอาเมีย เอ๊ย ภาษาสุภาพเขาว่ามาได้ภรรยาเป็นชาวญี่ปุ่น มาอยู่ที่ญี่ปุ่นได้ 4 ปีแล้ว มีลูก 1 คน อายุ 6 เดือน เป็นตัวเมีย เอ๊อ เอาอีกแล้วจิ้มผิด เป็นผู้หญิง
ต่างกันที่ผมออกมาทำงานออฟฟิตแล้วแต่เขายังอยู่ในงานสนาม ภรรยาชาวญี่ปุ่นของเขามีธุรกิจครอบครัว เปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่ในช็อปปิ้งพลาซ่า ที่เมืองนากาโอกะ
แต่เขาก็ดูเหมือนว่าไม่ชอบอะไรหลายๆอย่างที่ญี่ปุ่น บ่นเสมอว่าอยากย้ายกลับไปอังกฤษ แต่ติดที่ภรรยาจะไม่ชอบย้ายไปด้วย เนื่องจากคนญี่ปุ่นเข้ากับสังคมใหม่ได้ยาก ไม่เหมือนกับคนไทยเข้าไหนก็เข้าได้ (หมายถึงเข้าสังคมนะ อย่าคิดลงเรทอาร์ซิหนู … ฮ่า)
คนนี้เก่งมากอะไรเสียพี่แกซ่อมได้หมด อายุอานามไล่เลี่ยกัน แต่รอบเอวยังห่างชั้นอยู่อีกมาก มีลูกแล้ว 2 คน จำอายุไม่ได้แล้ว ไม่ค่อยได้เม้าส์กับคนนี้มาก แต่เป็นคนที่ให้ความช่วยเหลือดีมาก โดยเฉพาะช่วยแปลภาษาญี่ปุ่นเป็นอังกฤษเวลาที่ต้องการบอกอะไรคนที่นี่ที่มันซับซ้อนๆก็ได้คนนี้ช่วย เขาชื่อ อิชิฮ่าร่า
เอานิยายอีโรติกไหม ฮ่าๆๆ ถามไปงั้นแหละ ไงล่ะ ตาสว่างหูผึ่งเลยซิท่า ฮิๆ จิ้มไม่เป็นหรอก ฝีมือยังไม่ถึงขั้น
งั้นเอางี้นินทาสาวๆประเทศต่างๆดีไหมว่าชาติไหนเป็นอย่างไรกันบ้าง ชอบล่ะซิเรื่องนินทานี่ ฮ่ะฮ่าอ้อ ไม่รับประกันความถูกต้องด้วยนะ ว่ากันตามที่เห็น กับได้ฟังเขาเล่ามา บอกก่อนน่ะว่าไม่รวมเรื่องเซ็กส์ ขอเก็บไว้เป็นประสบการณ์ส่วนตั้วส่วนตัว นั่นไงทำท่าผิดหวังเล็กๆล่ะซิ รู้ทันนะ
สาวๆที่นี่แบ่งได้เป็น 2 พวก คือกลุ่มหลังวัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน กับ วัยรุ่น ส่วนพวกเด็ก กับ วัยกลางคนขึ้นไปไม่ขอกล่าวถึงเนื่องจากอยู่นอกเหนือกลุ่มเป้าหมาย
วัยรุ่นที่นี่เท่าที่ได้ฟังมาพบว่ากล้าหาญชาญชัยอย่างน่าใจหาย แต่ก็รู้จักป้องกันตัวเองได้เป็นอย่างดี จะไม่แปลกใจเลยที่เปิดกระเป๋าเด็กกลุ่มนี้แล้วจะพบถุงยางอนามัย นิยมตะวันตก แต่ก็ทำตัวน่ารักๆแบบตะวันออก สื่อสิ่งพิมพ์ และ ภาพต่างๆมีอย่างแพร่หลายตามข้างถนนอย่างถูกกฏหมาย
อีกกลุ่มเป็นหลังวัยรุ่น คือเรียนจบแล้วมีงานทำ พวกนี้จะทำแต่งานดูแลลูก กะ สามีอย่างดี ทีเดียว ประมาณว่าเหมือนคนใช้กลายๆ เพราะที่นี่ค่าแรงแพงมาก ภรรยาต้องทำงานบ้านเองทุกอย่าง ผู้ชายญี่ปุ่นไม่ช่วยเลย หาเงินอย่างเดียว
ถึงได้มีคำพูดที่ว่า “บ้านสเปน เมียญี่ปุ่น อาหารจีน” ไงเคยได้ยินไหม แต่พอได้เงินมาแล้วจะมอบให้ภรรยาจัดการหมดเลย แล้วภรรยาจึงค่อยจ่ายเงินให้สามีไปทำงานอีกที คล้ายๆ พวกเราสมัยเด็กๆ นั้นแหละ ส่วนภรรยาจะเอาเงินไปทำอะไรอย่างไรนั้นสามีจะไม่ค่อยได้รู้เลย นี่ฟังจากต้นฉบับมาเลยนะนี่ พูดง่ายๆสามีนำทุกอย่างยกเว้นเรื่องเงิน
พอจะแจงได้ว่าสาวเมืองนี้สวยสุดสวาทขาดใจจริงๆเพียงไร โดยเฉพาะตาที่คมมาก ถึงมีสำนวนชมว่า “ผิวพม่า นัยตาแขก” โดยเฉลี่ยหุ่นก็ดี อ้อ ปีนี้สาวแขกฟาดเรียบเลยนะ ที่เวทีประกวดขาอ่อนระดับโลก 2 เวทีเลย
เป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์วงการขาอ่อนเลยที่เดียวที่สาวอินเดียได้ 2 เวทีในปีเดียวกัน แค่นี้ก็รับประกันซ่อมฟรีได้ว่าสวยจริงๆ แต่เสียอย่างเดียวเวลาแต่งงานแล้วค่านิยมเปลี่ยนเป็นว่ายิ่งอ้วนยิ่งดี แสดงว่าสามีเลี้ยงดี ไม่ทิ้งขว้าง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เห็นผู้หญิงแขกที่แต่งงานแล้วบวม
พูดง่ายๆ คือตั้งราคากันตามใจนั้นแหละ ขายออกแน่ๆ เพราะมีผู้หญิงมากว่าผู้ชายถึงเกือบ 2 ต่อ 1 อ้าๆๆ อยากเกิดเป็นหนุ่มแขกอีกแล้ว
แฮ่ๆๆ ผู้หญิงแขกจะสวยมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะแขกขาวทางตอนเหนือ เพราะอากาศเย็นแบบยุโรปเลย เดินมาสิบงี้สวยซะแปดอะไรทำนองนี้ เดี๋ยวขอพัก เช็ดน้ำลายก่อน …. แจ๊บๆๆๆ
แต่อย่างใด มีดีกรีของท่านย่าคลีโอพัตรา แปะโป้งรับประกันไว้แล้วว่างามหยดติ๋งๆแน่นอน ไม่งั้นอาณาจักรโรมันไม่มาสยบพระนางหรอก
สาวๆที่นั้นตากลมโตอย่าบอกใครเชียว ลงลายเนอร์ขอบตาซะหน่อย มองงี้ลืมเวลาไปเลย ถ้าเอาลักษณะเส้นผมมาแบ่งกัน ก็จะมีสองประเภทคือยักโศก กับ เหยียดตรง ชอบแบบเหยียดตรงมาตั้งแต่เกิด ไงๆ ก็ไม่เปลี่ยนใจจ๊ะ
พามาชมสาวอียิปห์แล้วไม่กล่าวถึงระบำหน้าท้อง (belly dancing) ก็กระไรอยู่ เหมือนสั่งส้มตำแล้วไม่มีข้าวเหนียวแกล้ม
นักเต้นจะขึ้มมาเต้นบนโต๊ะอาหารที่มีลักษณะยาวๆ ถ้าเขายืนตาเราจะอยู่ระดับหน้าแข้ง แต่ถ้าเขาคุกเข่า แล้ว ยื่นพุงมาแกว่งๆ ตาก็จะชนพุงพอดี หน้าตานักเต้นก็ประมาณไปวัดไปวาได้เท่านั้น แต่หน้าท้องหล่อนต้องระดับอินเตอร์ ดูๆ แล้วเหมือนหน้าท้องเต้นระบำได้จริงๆ
จำได้เลาๆว่าเด็กที่นั้นโตเร็วมา แค่ 9-10 ขวบก็มีอะไรๆ (เออ น่า อะไรๆ ก็คืออะไรๆ ที่คิดไว้ในใจนั้นแหละ ถูกแล้ว จะให้แจงออกมา เดี๋ยว กบว. เซ็นต์เซอร์) เหมือนสาวๆบ้านเราเลย เผลอๆเจริญหูเจริญตาลุงๆกว่าด้วย แต่พฤติกรรมยังเป็นเด็ก ทำให้บางทีก็ทำอะไรๆ ดูแล้วขัดหูขัดตาได้เหมือนกัน
… เรื่องเซ็กส์หรือ … บอกแล้วว่าจะไม่กล่าวถึง เซ้าซี้อยู่ได้ เราตกลงกันตั้งแต่ต้นแล้วนะ ไว้จะขอไปเขียนเป็นอีกเรื่องต่างหากแต่จะให้อ่านหรือ เปล่าต้องขอดูความประพฤติ และ ความเป็นผู้ใหญ่ของเราอีกที เข้าใจไหม … ฮิๆ โดนดุเลย
ได้ไปเยี่ยมไปเยือนเฮือนสาวเจ้าบ่อยๆช่วงปี 89-90 ประทับใจความมีน้ำใจของพวกเธอมาก คงไม่ต้องวิจัยวิจารณ์ชมเชยรูปพรรณสันฐานกันมาก เพราะหน้าตาท่างทางก็ประมาณสาวปักใต้บ้านเรานี่แหละ
อัธยาสัยใจคอมีน้ำใจดีมาก อารีอารอบใช้ได้ ยิ่งถ้ารู้ว่าเป็นชาวต่างชาติยิ่งช่วยเหลือดี ไปที่เมดานนะ อ้อ เมดานเป็นเมืองใหญ่ของเกาะสุมาตราเหนือ ไม่ค่อยได้ไปที่จาร์กาต้าเท่าไร คงต่างกัน เพราะที่เมดานเป็นเมืองไม่ค่อยใหญ่ คนคงนิสัยไม่เหมือนคนในเมืองใหญ่
ปิดท้ายกันที่อาหรับราตรี ขอเหมารวมหมดเลยทั้งอ่าวเปอร์เซียล่ะ ได้ไปขายแรงงานจนพ่วงพีราวๆปี 92-94 เข้าๆออกๆเป็นมือปืนรับจ้างเฉพาะกิจตอนที่บริษัทฯขาดคน ก็ได้ไปหลายๆประเทศ เรียกว่าเกือบครบทั้งอ่าว ขาดก็แต่ อิรัก อิหร่าน กะ อัฟกานิสถาน ล่ะมัง
พูดได้คำเดียวว่าสงสาร พวกเธอถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพเป็นอย่างมาก รูปพรรณสันฐาน ไม่ค่อยได้เห็นเพราะเธอปกปิดมิดชิด
จึงได้แต่สัณนิฐานเอาว่าคงขาวจั๋วแน่ๆเพราะเล่นปิดกันขนาดนั้น ส่วนกลิ่นนั้นมิอาจทราบได้ ไม่บังอาจเอาสมบัติของพ่อไปเสี่ยงปังตออาหรับ ขอบายสำหรับที่นี่ จำได้ว่าแค่ผิวปากยังถูกตำรวจศาสนาเรียกไปเตือนเลย ดีที่มีเพื่อนชาวอาหรับไปด้วย เลยช่วยพูดให้เลยรอดมาจิ้มให้ฟังนี่แหละ
เมื่อคืนได้งับ เอ๊ย งีบ เล็กๆ ตอนราวๆตี 3 กว่าๆ ถึงหกโมงเช้า ก็พอได้ทนอยู่ต่อวันนี้ไปอีก 1 วัน ตอนเช้าน่ะ ไม่ค่อยเท่าไรหรอก
ตอนบ่ายมาน่ะซิ สัปปะหงก เป็นนกหัวขวานเลย … หัวเจาะก็โอเคนะ เฉลี่ย 9 เมตร ต่อ ชั่วโมง อีก 381 เมตร เย่ๆๆ จะเสร็จแล้วถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุแบบหัวที่แล้วซะก่อน … มาเม้าส์ต่อดีก่า ถึงไหนแล้วล่ะ …
ฐานเจาะมันทุกกันดารมาก มหาโหดสิ้นดี สาธารณูปโภคพื้นฐานนี้เรียกว่าย้อนเวลาหาอดีตไปสัก 30-40 ปีจากบ้านเราเลยทีเดียว
มีเรื่องให้เล่ามาก ถึงแม้ว่าจะไปไม่กี่เที่ยว เพราะมันแตกต่างกะบ้านเราอย่างสิ้นเชิง แต่อรรถนี้จะขอสารวน วนๆเวียนๆอยู่แถวๆนารีหมีขาว เพื่อให้สอดคล้องต้องกันกับบริบทข้างต้น
บังเอิญไปหน้าหนาวทุกที รูปร่างสูงใหญ่ บึกบึนไม่อ้อนแอ้นแอ่นด๊อกแด๊กไปมาเหมือนสาวเอเชีย เดินเหินคล่องแคล่วว่องไว คงเป็นเพราะอากาศหนาว แมวสาวที่ไหมมันจะมายุรยาตรให้ลมหนาวๆมาเลียจมูกให้แดงเล่นๆ ไม่ใช่แฟนชั่นโบโซ่ละคอนสัตว์ซะหน่อย
ใต้เสื้อโค้ดสาวเจ้านั้น ก็จะมีแจ็คเก็ตอีกชั้น คอก็พันซะด้วยผ้ามิดไปหมด พยายามเล็งอย่างไรๆ ก็ไม่อาจเดาสัดส่วนของพวกเจ้าหล่อนได้เลย นอกเสียจากจะถอดออกให้หมด (ซึ่งไม่อาจเล่าได้ในที่นี้เพราะว่าได้ตกลงกันไว้แล้วแต่ต้น ฮิๆ)
ว้าวเห็นหุ่นนางเองหมีขาวแล้วจิตนาการพรึงเพริด ฮ่าๆ ว่าแล้วกลับไปจะหาเช่าวีดีโอปู่แกมาดูอีกซักรอบ อยากเป็น 007 จัง ภาษานี่ก็เป็นอุปสรรคอันหนึ่ง แต่ส่วนมากแล้วสาวชาวรัสเซียจะไม่ค่อยได้พูดภาษาอังกฤษนัก โดยเฉพาะรุ่นเก่าๆ ประมาณ 25 ขึ้นนี้พูดไม่ได้เท่าไร เพราะเป็นพวกเกิดก่อนเปิดประเทศ
ถ้าเอ๊าะๆ 25 ขวบ ลงมาจะพูดได้บ้าง และ ยินดีที่จะพูดภาษาอังกฤษกับคนต่างชาติ ทำให้หนุ่มแห่งสารขัณฑ์ประเทศได้มีโอกาสอ้อล้อเกาะแกะแทะโลม(ด้วยวาจา)ได้ตามแต่สมควรพอได้หายคิดถึงบ้าน
ที่นี่จะแบ่งคนเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ มาเลย์มาเลย์ หรือ เบอมิพุตรา ซึ่งคือมุสลิมนั้นเอง พวกนี้จะเคร่งครัดต่อศาสนามาก รวมไปถึงสาวๆด้วย แต่งเข้าอย่างเดียว ไม่มีแต่งออก ถ้าจะชอบจะรักเอาจริงๆต้องขลิบแน่นอน รูปพรรณก็ราวๆปักใต้บ้านเฮานั้นแหละ ใกล้เคียงที่สุด
ค่านิยมประเพณีต่างๆ ก็ยังเหนียวแน่นหนึบกับของจีน ผิวขาว หมวยๆ น่ารักๆ ดีออก จริงๆเรื่องความแตกต่างของคน 2 กลุ่มนี้มีให้เล่าเยอะมาก แต่เนื่องจากไม่เข้าบริบทอันว่าด้วยการเยี่ยมยลและแทะโลมนารีในฉบับจึงต้องขัดออกไปต่างหาก
ได้ไปๆมาๆจีนแผ่นดินใหญ่ อยู่บ่อยๆ ในช่วงปี 99 ตลอดปี ขอเล่าถึงหมวยชนบทก็แล้วกันนะ เพราะหมวยเมืองก็เครือๆกันกับบ้านเรา จะเป็นฝรั่งกันหมดแล้ว ใส่สายเดี่ยวเที่ยวบาร์ เที่ยวเทค เป็นว่าเล่น
อ้อ ไหนๆ ก็เล่าแล้ว แวะเมืองปักกิ่งซะหน่อย กระนั้นก็ตามที่ฮาร์ดร๊อดคาเฟ่ก็ยังไม่อนุญาติให้หมวยเข้าไปโดยไม่มีผู้ชายไปด้วย ถามไถ่คนที่นั้นดูได้ความว่า มีผู้หญิงขายบริการอยู่มากที่แฝงตัวเข้าไปหาลูกค้า ร้านต้องการยกระดับ ก็เลยห้าม ดูๆไม่ยุติธรรมเลยเนอะ
หมวยที่ไม่ขายบริการก็มีเยอะแยะ ที่รู้นี่เพราะมีคืนหนึ่งจะไปกินอาหารเย็นที่นี่กับเพื่อนๆ 2-3 คน มีหมวย 2-3 คนมาขอให้พาเข้าไปด้วย สอบถามดูแล้วว่าไม่ใช่แน่ๆ เลยพาเข้าไป แล้วก็แยกโต๊ะกันนั่งนะ
เท่าที่คุยดูน่ะ ตื่นก็เช้าราวๆตี 4 ตี 5 หาบน้ำ (ไม่มีน้ำประปา) จุดไฟหุงข้าว (ไม่มีไฟฟ้า) เลี้ยงลูก บริการสามี สารพัด สายหน่อยก็เอาผ้าไปซักริมแม่น้ำ หรือ ไม่ก็บ่อน้ำกลางหมู่บ้าน เสร็จงานบ้านแล้วก็ออกไปทำงานในนาช่วยสามี อาจจะปลูก ไถ ดำ หว่าน เกี่ยว ก็แล้วแต่ช่วงของปี
ตกเย็นมาก็ดูแลบ้านต่อ แล้วถามว่าไอ้ตัวผู้ เอ๊ย สามีมันไปซุก(หัว)อยู่ไหน ส่วนมากตอนเช้าก็เม้าส์ จิบชากับข้างบ้าน แล้วก็ออกไปทำงานบ้าง ไม่งั้นก็ทำนาเหมือนกัน พูดง่ายๆคือหน้าที่หลักของสามีคือทำงานนอกบ้านอย่างเดียว กับเป็นผู้นำ การตัดสินใจทุกอย่างภายในบ้าน
… ฮั่นแน่ จะทวงเรื่องที่ค้างไว้ล่ะซิท่า อิๆ ยังไม่จิ้มหรอกอุบไว้ก่อน เดี๋ยวจะหาว่าเฮาเป็นเด็กดี(ที่)เสียแล้ว
… ตอนนี้ ห้าโมงครึ่งเช้า ข้างนอกก็มีหิมะตามปกติ ลงมาเหมือนคนโรยแป้ง ไม่หนักหน่วงสาดไปมาเหมือนเมื่อคืน ข้างนอกคงราวๆ 0 องศามั้ง … บ่าย2ก่าๆ … ไปดูหัวเจาะดีก่าว่าปายถึงไหนแล้ว ….
ไปก่อนล่ะ ต้องทำรายงานยาวเหยียดแน่ๆ …. แว็บ …. บ่าย 5 โมง ไม่ตรงนัก …. จบแต่เพียงเท่านี้จะดีกว่า เตรียมตัวทำหน้าเจี๋ยมเจี่ยม ไปให้ลูกค้าระบายอารมณ์สักหน่อย … บาย
จบแย้ว ….
keyword : Drill Bit Snow Wakkanai
Drill Bit Snow Wakkanai
Drill Bit Snow Wakkanai
Drill Bit Snow Wakkanai
Drill Bit Snow Wakkanai
ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ
(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)
https://raka.is/r/qlzXR | https://raka.is/r/gP7GV |