ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

A step at a time … มันก็แค่ก้าวออกมาทีล่ะก้าว …

A step at a time … มันก็แค่ก้าวออกมาทีล่ะก้าว

มันก็แค่ก้าวออกมาทีล่ะก้าว … เก็บมาฝากครับ …

เก็บมาจาก ขวัญเรือน เล่มที่ 940 เดือน มกราคม 2554 ครับ

A step at a time

… มันก็แค่ก้าวออกมาทีล่ะก้าว …

เด็กชายรู้สึกตกใจ เมื่อคุณพ่อบอกให้เขาช่วยเดินไปเติมน้ำ ให้ม้าในโรงนาซึ่งอยู่ไม่ใกลจากตัวบ้านมากนัก แต่เนื่องจากขณะนั้น เป็นเวลาพลบค่ำและเด็กชายกลัวความมืด เขาจึงอิดเอื้อนไม่กล้าไป

ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล

คุณพ่อรู้ดี เลยจุดตะเกียงให้เขา

“ลูก ไม่ต้องกลัวหรอก เอาตะเกียงนี้ไปด้วย”

เด็กชายถือตะเกียง เดินลงบันไดบ้านไป เขาตะโกนบอกพ่อว่า

“พ่อครับ ผมมองเห็นแค่ครึ่งทางเองครับ”

-------------------------------------------------------

ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ

กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น

จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ … อ้อ … อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น แล้วอย่าลืม mark as not junk or spam ด้วยนะครับ เวลาส่งเตือนคราวหน้า จะได้ไปอยู่ใน in box :)

“ถ้าอย่างนั้น ก็ไปแค่ครึ่งทาง” คุณพ่อบอก

เมื่อเด็กชายเดินไปถึงครึ่งทาง คุณพ่อตะโกนถาม

“ตอนนี้ ลูกมองเห็นได้ไกลแค่ไหน”

“ผมเห็นโรงนาแล้วครับ” เด็กชายตอบ

“ดีมาก เดินต่อไปให้ถึงประตูโรงนาสิ”

เด็กชายตะโกนบอกอีกครั้งเมื่อเขาไปถึงประตูโรงนา คุณพ่อ

บอกให้เปิดประตูเข้าไป เด็กชายเริ่มลังเล เขาทราบดีว่าภายในโรงนนั้นมืดสนิท แต่เมื่อตัดสินใจ เปิดเข้าไป เขากลับพบว่ามันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย เพราะแสงตะเกียงส่องสว่างให้เขาเห็นทั่วทั้งโรงนา

เด็กชายยิ้มอย่างโล่งใจ

“พ่อครับ ผมเห็นม้าในคอกแล้วครับ!!”

บนถนนแห่งชีวิตของเรา ก็เป็นเช่นนั้น หลายครั้ง เรากลัวความมืด เรามองไม่เห็น เส้นทางข้างหน้าที่กำลังเดินไป เราไม่รู้ว่ามันจะนำเราไปสู่จุดหมายที่ปลายทางไหน เราไม่แน่ใจว่ามันจะราบรื่นหรือขรุขระเพียงใด เราจึงชะงักฝีเท้าไว้ ไม่กล้าตัดสินใจให้ก้าวแรกได้เริ่มต้น

เราเลยจดจ่อรีรออยู่ที่เดิม แต่ในความเป็นจริง ไม่มีใครในโลกนี้รู้ได้ แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเส้นทางที่เขาจะเดินไป นั้นเป็นอย่างไร ไกลเพียงไหน หรือสิ้นสุดลงที่ใด

หาบ้านให้น้องหน่อยครับ :)

ขาวจั๊วะ กอดได้ อิงได้ วางประดับได้

ปาหัวคนข้างๆก็ได้ (เวลาใช้ให้ไปล้างจานแล้วไม่ยอมไป)

https://raka.is/r/XBBPp

สิ่งที่ทำได้ก็คือจุดตเกียง แล้วตัดสินใจเดินออกไปเท่านั้นเอง

ไม่มีแสงตะเกียงไหนที่สามารถส่องให้เรา เห็นได้ไกลไปถึงจุดหมาย… นอกจากว่า เราต้องเริ่มก้าวแรกออกไปเสียก่อน

แต่ละก้าว แต่ละคืบ ที่พาเราเดินไปนั้น จะทำให้แสงตะเกียงส่องทางให้เราไปได้ไกลมากขึ้นอีกก้าว … อีกคืบ

… ความมืดมิดแม้จะดำสนิทแค่ไหน ก็หายไปได้ในทันทีด้วยแสงตะเกียงดวงน้อย

แต่หากเราหยุดนิ่ง ไม่กล้าก้าวเดิน โลกของเราก็จำกัดอยู่แค่นั้น แล้วเราต้องมานั่งบ่นเสียดายในภายหลังเหมือนอย่างชายแปลกหน้าริมทะเลสาบ —

จำไว้ว่า เมื่อเดินออกไป 1 ฟุต เราก็เข้าใกล้จุดหมาย 1 ฟุตเช่นกัน

เวลาไหลไปเหมือนสายน้ำในลำธาร ไม่ใช่นอนนิ่งเหมือนแอ่งน้ำในทะเลสาบ…รีบทำหนังสือสัญญากับตัวเองเสียแต่วันนี้ เซ็นต์ชื่อลงบนเส้นประนั้น

จุดตะเกียงถือไว้ในมือ แล้วเริ่ม ก้าวแรกออกไป

มองเห็นไกลแค่ไหน ก็ไปแค่นั้น…


หลายๆครั้ง ชีวิตเราก็เป็นแบบเด็กคนนี้ ใช่ไหมครับ ทำให้ถึงถึงวาทะกำปั้นทุบดินของอดีตนายกฯสายฮาร์ดคอร์ดกับการใช้ชีวิตของท่าน หนึ่งที่ท่านมักจะบอกว่า “ไม่มีปัญหา” เคยมีคนไปถามท่านว่า ทำไมท่านถึงบอกว่า ไม่มีปัญหา ทั้งๆที่เห็นปัญหาอยู่จะๆต่อหน้า

ท่านตอบแบบกวนๆในทำนองว่า (ผมจำคำตอบท่านไม่ได้เป๊ะๆ แต่ประมาณๆนี้) มีปัญหาอยู่ 2 พวก พวกแรก ปัญหาที่แก้ไม่ได้ กับพวกหลัง ปัญหาที่แก้ได้ สำหรับพวกแรก เมื่อแก้ไม่ได้ มันก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะแก้อย่างไรก็แก้ไม่ได้ (อย่างน้อยก็ในปัจจุบันที่มองปัญหานั้นอยู่) ส่วนพวกหลัง ปัญหาที่แก้ได้ ก็แก้มันไป ถ้ามันแก้ได้ มันก็ไม่ใช่ปัญหา

สรุป ก็คือไม่มีปัญหานั่นแหละ …

เออ … เอากะท่านซิ มันก็จริงของท่าน …

อีกประเด็นที่อยากจะชวนคุยก็คือ ปัญหาก็ไม่ต่างกับทุกอย่างบนโลกใบนี้ มันเป็นอนิจจัง มันเกิด คงอยู่ แปรสภาพ และ ดับไป แปลเป็นภาษาตะวันตกให้เท่ห์ๆคือ มันมีความเป็นพลวัต (dynamic) มันเปลี่ยนไปตลอดเวลา

ปัญหาที่แก้ไม่ได้วันนี้ พรุ่งนี้เมื่อปัจจัยต่างๆเปลี่ยนไป มันอาจจะแก้ได้ก็ได้

ปัญหาที่แก้ได้วันนี้ พรุ่งนี้มันอาจจะแก้ไม่ได้แล้วก็ได้

ดังนั้น จงมองปัญหาให้มันเป็นพลวัต อะไรแก้ได้วันนี้ก็รีบๆแก้ซะ พรุ่งนี้อาจจะสายไปที่จะแก้ ส่วนปัญหาอะไรที่วันนี้แก้ไม่ได้ ก็ช่างมันไปก่อน คิดไปก็หนักสมองทำให้ไม่มีเวลา มีสมองไปแก้ปัญหาที่ควรจะแก้มันได้

สรุปว่า จงมองปัญหาอย่างปัจจุบัน อยู่กับปัญหาในปัจจุบัน ปัญหาของพรุ่งนี้ ก็ให้มันเป็นของพรุ่งนี้ 555 🙂

ผมก็ไม่รู้หรอกว่า มองโลกแบบนี้มันดีไหม แต่ก่อนผมไม่ได้มองแบบนี้ แต่พอ แก่ตัวลง เออ … ว่ะ … มองแบบนี้มันก็ทำให้อยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ได้อย่างมีความสุขดี(นี่หว่า)

ไม่ได้ให้เชื่อ แล้วทำตาม แต่ให้คิด ถ้าเห็นดีด้วย ก็ค่อยทำตาม …

… ถึงเวลาของคุณแล้วหรือยังครับ
… หาตะเกียงสักดวง แล้วเดินออกไปเลยครับ
… มันก็แค่ทีล่ะก้าว
… จริงไหมครับ

ด้วยรักและศรัทธาในพลังของทุกๆคน

ลุงนก อานก พี่นก …

———————–

คืนวันส่งท้ายปีเก่า เก็บตกมิตรภาพในวันที่ถนนของเราสั้นลง

A step at a time
A step at a time

A step at a time

คืนวันส่งท้ายปีเก่า เก็บตกมิตรภาพในวันที่ถนนของเราสั้นลง

ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

--- มีคำถามเพิ่มเติม พูดคุย เม้าส์มอย ไปต่อกันได้ที่กระดานสนทนา (webboard) นะครับ

คลิ๊กเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

The Sweet Girl

ของมือสองของเฟิร์นค่ะ มีหลายชิ้นเลย ราคาดีสุดๆ (คลิ๊กที่รูปนะคะ ลิงค์จะพาไปที่ร้านค่ะ)

Fern shop

--------- คลิ๊ก - The Sweet Girl ----------