ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

Responsibility ต่างจาก Accountability อย่างไร รู้ไว้ใช้ทำ KPI ปลายปี

Responsibility ต่างจาก Accountability อย่างไร … ใกล้ฤดูทำ KPI (Key Performance Index) ปลายปีกันแล้วครับ เราก็มักจะเจอคำสองคำนี้บ่อยๆเวลาทำการประเมินผลงาน ไม่ว่าเราจะประเมินตัวเอง ประเมินลูกน้อง หรือ ประเมินตัวเอง (Self Assessment)

เคยถามตัวเองไหมว่า เอ๊ะ แล้วมันต่างกันอย่างไร เพราะเปิดดิกชั่นารี่แล้ว มันแปลว่า รับผิดชอบทั้งคู่

งั้นพึ่งอากู๋เพื่อนคู่ใจเรา คลิ๊กที่รูปเลยครับ ทำลิงค์ไว้ให้แล้ว

Responsibility ต่างจาก Accountability

ก็จะเจอคำอธิบายเยอะแยะไปหมด ผมก็เลยอยากจะเอามาขมวดสรุปให้จำง่ายๆกัน คนที่ทราบๆแล้ว แยกแยะออกแล้วก็ข้ามๆตอนนี้ไปก็ได้ครับ

จะว่าไปสองคำนี้ก็สะท้อนรากเหง้าทางความคิดของภาษาได้เหมือนกัน เช่นเดียวกับหลายๆคำในแต่ล่ะภาษาที่เน้น หรือ บอกใบ้อะไรเกี่ยวกับ วัฒนธรรม และ สังคมนั้นๆ

ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล

เช่น ภาษาอังกฤษสรรพนามแทนบุคคล สิ่งของ อยู่ไม่กี่ตัว  I you we they he she it ก็ประมาณนี้ แต่ของไทยนั้น นับไปเถอะ ยี่สิบนิ้วก็ยังไม่หมด นั่นบอกถึงวัฒนธรรมในการให้ความสำคัญในเรื่องสถานะของบุคคลอันลึกล้ำและซับซ้อนมากเลย พวกเราว่าไหม

คำต่อมาที่อยากชวนคิดกันคือคำกริยาที่อาอะไรก็ตามเข้าทางปาก ภาษาอังกฤษมีประมาณ 3 คำถ้วนที่ใช้ในชีวิตประจำวันในเกือบจะทุกโอกาส คือ eat drink และ have แต่ภาษาไทยเรา โอ้ แม่เจ้า เยอะมาก 555

ในทางกลับกัน บางคำที่มีความหมายมากมายในภาษาเรา เช่น กตัญญู กตเวทิตา ภาษาอังกฤษกลับแปลว่า dutiful, grateful, thankful หรือ gratitude ซึ่งความหมายก็ไม่ตรงกับความหมายของภาษาไทยเรานัก บ่งบอกถึงการให้ความสำคัญที่แตกต่างกันต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

ออกนอกเรื่องไปไกล 555 ก็เพื่อจะชวนให้เห็นว่า ภาษามันบอกอะไรได้มากกว่าใช้สื่อสาร มันบอกถึงสิ่งที่อยู่ในหัวกระโหลกของชนชาตินั้นๆ

-------------------------------------------------------

ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ

กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น

จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ … อ้อ … อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น แล้วอย่าลืม mark as not junk or spam ด้วยนะครับ เวลาส่งเตือนคราวหน้า จะได้ไปอยู่ใน in box :)

กลับมาเรื่องของเรา คำสองคำนี้ Responsibility กับ Accountability ก็เช่นกัน ภาษาอังกฤษแยกเป็นสองคำ ในความหมายที่ต่างกัน แต่ภาษาไทยกลับใช้คำๆเดียว คือ “รับผิดชอบ” ไม่เชื่อก็กูเกิล หรือ เปิดดิกชันนารี่ดูได้

Responsibility ต่างจาก Accountability อย่างไร

ที่ผมทำตัวเอียงๆสีฟ้าๆข้างล่างนี้ คือ ก๊อปมาจากเฮียวิกกี้

คำว่า ภาระรับผิดชอบ (accountability) แตกต่างจากคำว่า ความรับผิดชอบ (responsibility) ซึ่งคำว่า ความรับผิดชอบ คือการรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ตามตำแหน่งงานที่ได้รับมา ทั้งในการปฏิบัติงานเพื่อบรรลุเป้าหมายและการรักษากฎระเบียบ

แต่ภาระรับผิดชอบ คือการรับผิดชอบที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องถูกควบคุม ตรวจสอบ ชี้แจง ต่อสาธารณะซึ่งเป็นพื้นที่ภายนอก ผู้ปฏิบัติหน้าที่จึงต้องมีความโปร่งใส ยึดหลักความประหยัด และสามารถถูกตรวจสอบจากประชาชนทั่วไปได้

ดังนั้น ภาระรับผิดชอบ จึงมีขอบข่ายกว้างกว่า ความรับผิดชอบ

เวลาทำการประเมินลูกน้อง หรือ ประเมิน ตัวเอง (บางบ.ใจกว้าง ให้ประเมินหัวหน้าได้ด้วย เริ่ด) ท่องเอาไว้ว่า

responsibility คือ รับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย

accountability คือ รับผิดชอบต่อผลการการกระทำของตัวเอง และ ผู้อื่นที่อยู่ในขอบข่ายของ “ภาระรับผิดชอบ”

นั่นหมายความง่ายๆว่า คนๆหนึ่ง อาจจะมี responsibility แต่ไม่มี accountability ได้ ในทางกลับกัน คนที่มี accountability ส่วนมาก เน้นว่า ส่วนมาก จะมี responsibility ด้วย เพราะก็เคยเจอบ้างที่ไม่รับผิดชอบงาน ตัวเองแต่รับผิดชอบผลการกระทำของตัวเองและคนในความดูแล

อีกหนึ่งมิติของคำว่า “รับผิดชอบ”

นอกจากนี้ ความรับผิดชอบนั้น เป็นอีกคำหนึ่งที่เกิดจากความตรงกันข้ามสองคำมารวมกัน แต่ให้ความหมายเพียงความหมายเดียว งง ไหมครับ 🙂

หาบ้านให้น้องหน่อยครับ :)

ขาวจั๊วะ กอดได้ อิงได้ วางประดับได้

ปาหัวคนข้างๆก็ได้ (เวลาใช้ให้ไปล้างจานแล้วไม่ยอมไป)

https://raka.is/r/XBBPp

ยกตัวอย่างคำว่า เฮง แปลว่า โชคดี กับ ซวย ที่แปลว่า โชคร้าย พวกรวมกันกลายเป็น เฮงซวย แปลว่า โชคร้าย

อ่ะ อีกคำ (ภาษาไทยเราเริ่ดมาก) คำว่า ข้อเท็จ แปลว่า ข้อที่ไม่จริง คำว่า จริง แปลว่า จริง พอรวมกันเป็น ข้อเท็จจริง ที่เรามักใช้ในความหมายของการแก้ต่างว่า มัน “จริง” นะ เราจะไม่ค่อยใช้ “ข้อเท็จจริง” ในความหมายที่ “ไม่จริง” เรามักจะบอกว่า ข้อเท็จจริงคือ …. (คือเราจะบอกว่ามันจริง นั่นเอง)

รับผิดชอบ

รับผิด แปลว่า รับว่าฉันได้ทำความผิด รับชอบ แปลว่า รับว่าฉันได้ทำดีมีผลงาน พอรวมกันว่า รับผิดชอบ มักจะมีความหมายว่า “รับผิด” ไม่ใช่ “รับชอบ” เช่น “เกิดอะไรขึ้น คุณรับผิดชอบนะ” หรือ “เรื่องนี้ผมรับผิดชอบเอง”

วกกลับเข้ามาเรื่อง responsibility กับ accountability อีกทีก่อนจากกันวันนี้

เราจะเห็นว่า ภาษาของชนชาติหนึ่งประดิษฐ์คำขึ้นมาสองคำที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในแง่การออกเสียง ตัวสะกด และ รากของภาษา แต่ให้มีความหมายที่ใกล้เคียงกัน โดยคำหนึ่งหมายถึง การกระทำ อีกคำหน้าหมายถึง หน้าที่การงาน นั่นแปลว่าอะไรครับ แปลว่า ชนชาตินั้น ให้ความสำคัญในความแตกต่างนี้ จึงประดิษฐ์คำขึ้นมาแทนความหมายคนล่ะคำกัน อาจจะโดยการผ่านประสบการณ์ของสมาชิกในสังคมรุ่นแล้วรุ่นเล่าที่แสดงให้เห็นว่าคนสองคนไม่จำเป็นต้องมีสองอย่างนี้ในคนๆเดียว ก็บัญญัติให้เป็นคนล่ะคำเสีย

ในขณะที่อีกสังคมหนึ่งอีกชนชาติหนึ่งมีเหมารวมไปในคำเดียวกัน อาจจะเป็นการมองแบบองค์รวมโดยประสบการณ์ของชนชาติและสมาชิกในสังคมนั้นว่า 2 คุณลักษณะนี้มันก็เหมือนๆกันและมักจะรวมอยู่ในคนๆเดียวกัน(ทั้งหน้าที่และการกระทำ) งั้นก็อยากไปแยกคำอธิบายลักษณะดังกล่าวเลย

ผมไม่ได้บอกว่า ชนชาติไหนถูก ชนชาติไหนผิด เพราะภาษามันสะท้อนความเป็นมาของสังคมนั้น สะท้อนสิ่งที่อยู่ในกระโหลกของสมาชิกในสังคมนั้นๆ มันก็จริง และ สมบูรณ์ ใช้ได้ในบริบทของสังคมนั้นๆ

แต่เมื่อโลกเราก้าวหน้าด้านคมนาคมมากขึ้น เราติดต่อสื่อสาร ทำงานร่วมกัน แลกเปลี่นวัฒนธรรมการ เราจึงจำเป็นต้องเข้าในที่มาที่ไปของลักษณะนิสัยของเพื่อนต่างวัฒนธรรมของเราด้วย …

สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกวา่า ก่อนเราจะเรียกร้องให้คนอื่นเข้าใจเรานั้น เราได้ศึกษาเขา พยายามทำความเข้าใจเขาอย่างที่เขาเป็นหรือเปล่า …

ราตรีสวัสดิ์ครับ …

(ปล. ผมเขียนตอนกลางคืน … ไปนอนล่ะครับ)


Master Your Motivation

&

Why Motivating People Doesn’t Work

Motivation แปลว่า แรงผลักดัน ในความหมายของการทำงาน หมายถึง แรงผลักดันให้คนงานทำงาน

ผมคิดว่าทุกคนคงรู้จัก หรือ แม้แต่เคยอยู่ในสภาพที่เรียกว่า “หมดไฟ”

มี 2 ทางที่จะเติมไฟให้กับตัวเอง

คนอื่นเติมให้ หัวหน้า ผู้จัดการ เป็นคนเติมให้เรา กับ อัตตาหิอัตโนนาโถ ตนเป็นที่เพิ่งแห่งตน

เล่มแรก Master Your Motivation ซูซาน ฟลาวเลอร์ จะแนะนำว่า เราจะเติมไฟให้ตัวเองได้อย่างไร หลายๆคนหลายบ.คิดว่า เอารางวัลมาล่อ เอาเป้าหมายในชีวิต เงินทอง ลาภยศ สรรเสริญ มาล่อซิ … ผิดครับ

เล่มที่สอง Why Motivating People Doesn’t Work เธอจะมาเฉลยว่า ทำไมการที่หัวหน้าจะทำให้ลูกน้องมีไฟ มีแรงจูงใจในการทำงานแบบที่เคยเป็นมา ด้วยการตั้ง KPI ชม ให้รางวัล ถึงไม่ค่อยได้ผล ถึงได้ผลก็แป๊บๆ

คำตอมที่ถูกต้องอยู่ในเล่มนี้ … ผมอ่านแล้ว เห็นด้วยเลยครับ เลยเอามาแบ่งปันกันต่อราคาย่อมเยาว์มากๆ (มือสองสภาพดี)

สารพัดการทดสอบ เพื่อเข้าทำงาน ใช้เกณฑ์อะไร จากใจ ฝากถึง HR (บางบริษัท)

ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

--- มีคำถามเพิ่มเติม พูดคุย เม้าส์มอย ไปต่อกันได้ที่กระดานสนทนา (webboard) นะครับ

คลิ๊กเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

The Sweet Girl

ของมือสองของเฟิร์นค่ะ มีหลายชิ้นเลย ราคาดีสุดๆ (คลิ๊กที่รูปนะคะ ลิงค์จะพาไปที่ร้านค่ะ)

Fern shop

--------- คลิ๊ก - The Sweet Girl ----------