มองเขาแล้วย้อนมองเรา เรา(บริษัทเรา)เคยทำอะไรอย่างนี้บ้างไหม

• Facebook
• Twitter
• Line

มองเขาแล้วย้อนมองเรา … เช้านี้ได้โปรโมชั่นจาก application เรียกรถแท๊กซี่เจ้าหนึ่งเข้ามาใน notification box ของ application นั้น ผมก็เปิดอ่านดู เพราะเคยใช้บริการนี้อยู่บ้าง ก็พบอะไรผิดปกติที่ช่วยให้ฉุกคิดเล็กๆ ก็เลยอยากจะเอามาแบ่งปันกัน

1. เป็นโปรโมชั่นเฉพาะหมายเลข และ หมายเลขที่ว่า ก็ไม่ใช่หมายเลขผม ผมลองเช็คกับหลายๆเครื่องหลายๆเบอร์ของที่บ้านและเพื่อนๆในไลน์ที่ใช้บริการ application นี้ ทุกเครื่องได้ข้อความเหมือนกัน

2. วันที่ในโปรโมชั่น บอกว่า 23 – 29 ตุลาคม แต่ข้อความโปรโมชั่นเข้ามาตอน 6 โมงเย็น 48 นาที คือ อีก 5 ชั่วโมง กับ 12 นาที จะหมดวันที่ 23 แล้วนั่นแหละครับ

มองเขาแล้วย้อนมองเรา

ทำให้ผมอดคิดเชื่อมโยงกับอะไรหลายๆอย่างที่เราเองหรือบ.ที่เราทำงานอยู่ ทำอะไรแบบนี้ไหม ผมเชื่อว่าความผิดพลาดพวกนี้ไม่น่าจะเป็นความตั้งใจของผู้ให้บริการ ที่จะส่งโปรโมชั่นเฉพาะเบอร์ให้กับลูกค้าทุกคน (ถ้าเป็นสำนวนของครูสอนกวดวิชาภาษาไทยท่านหนึ่งก็จะบอกว่า “ส่งมาให้ชั้นเพื่อ?”)

น่าจะเป็นความผิดพลาดของระบบ application มากกว่า ทำให้เราเห็นว่า เรื่องง่ายๆแบบที่ไม่ควรเกิดปัญหา แต่ก็เกิด เพราะเราไปเชื่อหรือไว้วางใจระบบจนเกินไปหรือไม่

ประเด็นต่อมาที่อยากชวนคุยคือวันเวลาที่แจ้งโปรโมชั่น ก็เข้าใจว่าน่าจะผิดพลาดแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่หลายๆครั้ง ผมก็เห็นว่าเป็นจากจงใจ ที่เราเรียกว่า over claim หรือ under claim (แล้วแต่กรณีว่าจะให้ประโยชน์ในด้านไหน มากไป หรือ น้อยไป)

Over Claim

เรื่องการ over claim นี้ ผมเห็นเป็นประจำแม้แต่ในวงการฯของเรา บ่อยๆก็ในการนำเสนอ (presentation) ใน CV resume หรือ แม้กระทั่งใน SPE IADC paper (ซึ่งควรเป็นเวทีที่นำเสนอเฉพาะข้อเท็จจริง) ถามว่าผิดไปจากความจริงไหม มันก็ไม่ผิดครับ เพราะโปรโมชั่นเริ่ม 23 ตุลาฯจริงๆ แต่ข้อความที่ส่งมาถึงลูกค้าก็จะหมดวันแรกของโปรฯอยู่แล้ว ในทางปฏิบัติ ลูกค้าก็ไม่ได้อะไรเท่าไร แต่ในด้านการประชาสัมพันธ์ ผู้ให้บริการ(ตีหัวเข้าบ้าน*)ได้ไปแล้วเต็มๆว่ามีช่วงเวลาโปรโมชั่นหลายวัน

*เป็นสำนวนเปรียบเทียบทางการตลาดครับ ทำนองว่าทำอะไรบางอย่าง(กับลูกค้า)ได้ประโยชน์ล่วงหน้าไปแล้ว แล้วหลบเข้าไปในจุดที่ปลอดภัย ใครว่าอะไรไม่ได้ อารมรณ์ว่าไปตีหัวชาวบ้านเขาแล้วหนีกลับเข้าบ้านตัวเอง ภาษาอังกฤษใช้สำนวนว่า hit and run ที่ได้ยินบ่อยๆคือ hit and run strategy คือ กลยุทธ์ฉวยประโยชน์แล้วชิ่งหนี

… อ้าว นอกเรื่อง กลายเป็นสอนวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษกันไปเสียแล้ว

ในวงการฯเราก็มักจะเอาเทคนิคนี้มาใช้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ได้(หรือให้)สัญญาการทำงานกับบ.นั้นบ.นี้ หรือ ทำงานที่บ.นั้นบ.นี้ ตั้งแต่ปีนั้นถึงปีนี้ แต่พอถามลึกๆลงไป อ้าว … ได้งานหลังคริสตมาสหน่อยเดียว ก็นับไปแล้วว่าปีนั้นได้งาน 555 🙂

ถ้าจำนวนปีมันเยอะๆ เช่น 15 ปี การกล่าวอ้างเช่นนี้ ไม่มีผลเท่าไร เพราะระหว่าง 14 กับ 15 หรือ 16 ปี มันไม่มีความแตกต่างกันในการประเมินอย่างมีนัยสำคัญ แต่ถ้าบอกว่า 3 ปี แต่จริงๆแล้วคือ 2 ปีกับ 5 วัน แบบนี้ มันก็ต่างกันนะครับ

ทำให้นึกถึงกรณี LTF ที่บังคับว่าถือไว้ 5 ปี แต่จริงๆแล้ว ซื้อปลายปี(สุดๆ) กับ ขายต้นปี(สุดๆ) ก็คือ 4 ปี กับ 2 วัน อัตราผลตอบแทนจากการลดภาษี เพิ่มขึ้นทันทีเห็นๆ 25% คือ แทนที่จะหาร 5 ก็ หาร 4 ไงครับ, (x/4)/(x/5) – 1

อ้าว นอกเรื่องไปเรื่องกองทุน เรื่องการเงินการทองอีก เข้าเรื่องๆ … 555

นอกจากนี้ผมอยากจะยกตัวอย่างอีกกรณีนึงขำๆน่ะครับ

เคยอ่านเจอโฆษณาทัวร์ญี่ปุน 5 วัน 3 คืน ไหมครับ ปูพื้นหน่อย สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ปกติเดินทางใกล้ๆที่ไม่มีความต่างเรื่องโซนเวลามากๆเนี้ย ระยะเวลาเดินทางรวมๆ จำนวนวันจะมากกว่าจำนวนคืนอยู่ 1 เช่น 3 วัน 2 คืน หรือ 5 วัน 4 คืน

พอเห็นโฆษณา 5 วัน 3 คืน ผมก็สงสัย เพราะ 5 ลบ 3 เท่ากับ 2 เอ๊ะ บ.ทัวร์เขานับอย่างไร คืนหายไปหนึ่งคืน หรือ ไม่ก็วันเกินมาหนึ่งวัน ไปกลับด้วย time machine หรือเปล่า 555

ก็เลยเข้าไปดูในรายละเอียดก็ถึงบางอ้อครับ คืองี้ เครื่องบินออกหลังเที่ยงคืนนิดนึง เช่น ตีหนึ่ง 45 นาที บ.ทัวร์เขาก็นัดว่าไปเจอกันที่สนามบินตอน 5 ทุ่ม 45 นาทีของวันก่อนหน้านะ ดังนั้น โปรแกรมทัวร์เขาเลยนับ 15 นาทีของวันก่อนหน้าว่าเป็น 1 วัน ก็เลยกลายเป็น 5 วัน 3 คืน แทนที่จะเป็น 4 วัน 3 คืน ตามปกติที่คุ้นเคยกัน 555 🙂

ถามว่าเกี่ยวอะไรกับวงการเรา ไม่เกี่ยวโดยตรง แต่เป็นอุทาหรณ์ครับ ว่าตัวราเอง หรือ บ.ของเรา จะสื่อสารอะไรออกไป ไม่ควร under claim หรือ over claim เพื่อผลประโยชน์อันไม่ถูกต้อง แน่นอนว่ามันไม่ผิด แต่มันเลี่ยงบาลี แบบศรีธนชัย หรือ อย่างที่ อ.ดร.เสรี ที่เคยสอนการตลาดผมเรียกว่า เป็นการตลาดแบบไม่จริงใจ คือ ไม่ผิด ไปตำหนิว่าผิดไม่ได้ แต่ไม่จริงใจ สร้างภาพที่บิดเบือนเพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง

เอาล่ะ เริ่มจากเรื่องแท๊กซี่ ไปเรื่องทัวร์ญี่ปุ่น แล้วก็วกมาจบเรื่องในวงการฯเราได้อย่างงๆก่งก๊งๆ

ปล. ข้อดีของผู้ให้บริการเจ้านี้ก็คือ พอพอแจ้งไปที่ help center ก็ได้รับการตอบกลับและแก้ไขได้ในเวลาไม่ถึง 1 ชม. ก็ถือว่าตอบสนองการร้องเรียนลูกค้าได้เร็วในระดับที่น่าพึงพอใจ ผมคงไม่ได้เผลอบอกไปนะครับว่าผู้ให้บริการเจ้านี้เป็นใคร เข้าใจว่าเซ็นเซอร์ชื่อออกหมดแล้ว 555 🙂

• Facebook
• Twitter
• Line