Possibility of 2 bombs on the plane – พวกเราคงเคยได้ยินเรื่องเล่าขำๆประมาณว่า ชายคนหนึ่งเอาลูกระเบิดขึ้นเครื่องบินเพราะเขาเชื่อว่าโอกาสที่จะมีระเบิดสองลูกอยู่บนเครื่องบินลำเดียวกันนั้นน้อยยิ่งกว่าน้อย
หรือ อีกเรื่อง ตรงนี้ฟ้าผ่า งั้นฉันยืนตรงนี้แหละ เพราะโอกาสที่ฟ้าจะผ่าซ้ำที่เดิมมันน้อยมาก
ฟังๆก็ขำๆและมีแนวโน้มที่น่าเชื่อใช่ไหมครับ
ในฐานะเราเป็นช่างเทคนิคเป็นวิศวกร เราคิดอย่างนั้นไหม ไปดูเรื่องความน่าจะเป็นกัน
Possibility of 2 bombs on the plane
เราเรียนมาแล้วเนอะ ความน่าจะเป็นที่ของเหตุการณ์ A เมื่อเหตุการณ์ B เกิดขึ้นมาก่อนแล้ว เช่น ความน่าจะเป็นที่ชายคนหนึ่งจะมีลูกคนที่สองเป็นผู้หญิง ถ้าคนแรกเป็นผู้ชาย อะไรทำนองนี้
ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล
มี 2 เหตุการณ์ ให้เหตุการณ์แรกคือ B เหตุการณ์หลังคือ A
P(A|B) = P(A and B) / P(B)
https://en.wikipedia.org/wiki/Conditional_probability
https://en.wikipedia.org/wiki/Bayes%27_theorem
-------------------------------------------------------
ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ
กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น
ทีนี้ ถ้าเหตุการณ์ A และ B เป็นอิสระต่อกัน เช่น โยนเหรียญ 2 ครั้ง หรือ มี 2 คน หนึ่งเอาระเบิดขึ้นเครื่อง ความน่าจะเป้น คือ P(A and B) = P(A) x P(B)
P(A|B) = P(A and B) / P(B) = P(A) x P(B) / P(B) = P(A)
เห็นไหมครับว่า ถ้าสองเหตุการณ์นั้นไม่ขึ้นต่อกันเลย ความน่าจะเป็นมันเท่าเดิมแป๊ะเลย จริงๆไม่ต้องคำนวนก็ได้ ใช้สามัญสำนึกเอาก็พอรู้ ก็มันไม่ขึ้นแก่กัน สิ่งที่เกิดก่อนก็ไม่น่ามีผลกับสิ่งที่เกิดหลัง จริงไหม
หลายคนอาจจะแย้งว่า ไม่นะพี่นก โอกาสที่จะมีระเบิดลูกแรกกับลูกสองมันบนเครื่องมันอิสระต่อกัน ดังนั้นก็เอาความน่าจะเป็นมาคูณกัน มันก็ยิ่งน้อยซิครับพี่นก จริงครับ ถ้าเราตั้งโจทย์แบบนั้น โอกาสที่จะมีระเบิด 2 ลูก บนเครื่องบิน
บทเรียนเสียรู้ บริษัทประกันโควิดเพราะความตื่นกลัว
เหลือ L สองชุด M 1 ชุด นะคร๊าบ
แต่ถ้าอีตาคนนี้จะเอาระเบิดขึ้นไปเองโดยใช้ตรรกะนี้ไม่ได้ เพราะระเบิดลูกของแก คือ เหตุการณ์ที่เกิดก่อน (B) มีความน่าจะเป็นเท่ากับ 1 ถูกไหม ก็แกเอาขึ้นไปแล้วชัวร์ๆ ดังนั้นเหตุการณ์หลัง คือ มีระเบิดลูกที่สอง (A) จึงเท่ากับ P(A) x 1 / 1 มันก็เท่ากับ P(A) อยู่ดี จริงป่ะ
ซึ่งจะต่างจากกรณีที่สองเหตุการณ์นั้นมีส่วนเกี่ยวกัน กรณีนี้ต้องใช้คณิตศาสตร์เข้ามาช่วยไขปัญหาล่ะ เช่น โอกาสที่จะไม่ได้ขึ้นเงินเดือน (A) ถ้ามาทำงานสาย (B)
ซึ่งจะเท่ากับ เอาจำนวนคนที่ไม่ได้ขึ้นเงินเดือนและมาทำงานสายตั้ง (A และ B) หารด้วยจำนวนคนที่มาทำงานสาย (B)
โดยที่จะต่างกับโอกาสที่คนๆหนึ่งมาทำงานสาย (B) แล้วคนๆนั้นเป็นคนที่ไม่ได้ขึ้นเงินเดือน (A)
ซึ่งจะเท่ากับ เอาจำนวนคนที่ไม่ได้ขึ้นเงินเดือนและมาทำงานสายตั้ง (เหมือนเดิมแหละ A และ B) แต่หารด้วยจำนวนคนที่ไม่ได้ขึ้นเงินเดือน (A)
เห็นป่ะ แค่ตัวหารตัวหารต่างกัน ดูตัวเลขสมมุติมั่วๆดีกว่า จะได้เข้าใจง่ายๆ
หาบ้านให้น้องหน่อยครับ :)
ขาวจั๊วะ กอดได้ อิงได้ วางประดับได้
ปาหัวคนข้างๆก็ได้ (เวลาใช้ให้ไปล้างจานแล้วไม่ยอมไป)
คนไม่ได้ขึ้นเงินเดือน 20 คน (A)
คนมาทำงานสาย 50 คน (B)
คนมาทำงานสายและไม่ได้ขึ้นเงินเดือน 10 คน (A และ B)
โอกาสที่คน 1 คน จะไม่ได้ขึ้นเงินเดือน (A) ถ้าคนๆนั้นมาทำงานสาย (B) = 10/50 = 20%
โอกาสที่คน 1 คน มาทำงานสาย (B) เป็นคนที่ไม่ได้ขึ้นเงินเดือน (A) = 10/20 = 50%
เห็นไหมครับ ฟังคล้ายกัน แต่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว ขึ้นกับว่า เราจะมองว่าอะไรเกิดก่อน อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล การมาทำงานสายเกิดก่อน หรือ การไม่ได้ขึ้นเงินเดือนเกิดก่อน
จำง่ายๆง่ายๆ อะไรเกิดก่อน หรือ เราสนใจอะไรเป็นหลัก โดยที่อาจจะไม่เกิดก่อนในเชิงเวลาก็ได้ เอาอันนั้นแหละเป็นฐาน (ก็คือเป็นตัวหาร)
จากตัวเลขมั่วๆข้างบน ถ้าผมเป็นคนเข้าข้างการมาทำงานสาย ผมจะโปรโมทว่า โอกาสไม่ได้ขึ้นเงินเดือนถ้ามาทำงานสายแค่ 20% เอง ช่างมัน (เอาคนทำงานสายเป็นฐาน เพราะสนใจกลุ่มคนที่มาสาย หรือ คนที่มาสายเกิดก่อน)
แต่ถ้าผมเป็น ผจก. ผมก็จะบอกลูกน้องว่า นี่ๆ มึงดูซิ โอกาสที่มึงไม่ได้ขึ้นเงินเดือน จากมาทำงานสาย ตั้ง 50% (เอาคนไม่ได้ขึ้นเงินเดือนเป็นฐาน สนใจกลุ่มคนไม่ได้ขึ้นเงินเดือนเป็นหลัก แม้การไม่ได้ขึ้นเงินเดือนจะเกิดทีหลัง)
ฟังเผินๆ ฟังเพลินๆ ไม่คิดอะไรมาก มันก็น่าเชื่อทั้งคู่ จริงป่ะ ยิ่งถ้าผู้พูด เป็น ด๊อกเตอร์ เป็นหมอ เป็นกูรู เป็น ศาสตราจารย์ ยิ่งน่าเชื่อคูณสิบเลย (ยกเว้นเป็นนักการเมืองซึ่งพวกเราไม่เชื่อทุกกรณีอยู่แล้ว 555)
ทำนองเดียวกัน เราก็จะเห็นข้อสรุปที่ชวนให้ขนหัวลุกอยู่เป็นประจำ (แล้วตามมาด้วยการขายของ) ทำนองว่า จากการวิจัยของสถาบัน xyz อุบัติเหตุเกิดขึ้นห้องน้ำบ้านมากกว่าห้องน้ำสาธารณะ สรุปว่า ห้องน้ำที่บ้านเป็นพื้นที่อันตรายและควรเฝ้าระวังยิ่งยวด ดังนั้น จงซื้อสินค้านี้เพื่อคนที่คุณรักและห่วงใย
มันก็ถูกแหละว่าห้องน้ำควรเป็นที่ควรเฝ้าระวังไม่ว่าจะห้องน้ำที่ไหน แต่ที่อุบัติเหตุเกิดในห้องน้ำบ้านมากกว่า ก็เพราะเราใช้เวลากับมันมากกว่าห้องน้ำสาธารณะไงครับ การสรุปอะไรแบบที่ว่ามาข้างบน คนที่มีเหตุมีผล(อย่างพวกเรา) จะเรียกว่า ตรรกะป่วย ควรไปพบแพทย์ 555
ผมมีอีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจกว่า ใกล้ตัวกว่า แต่ผมว่า วันนี้พอแค่นี้ก่อน เชื่อว่าเท่านี้พวกเราคงเวียนหัวพอแล้วกับตัวเลขแล้วเนอะ 555
ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ
(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)
https://raka.is/r/qlzXR | https://raka.is/r/gP7GV |
3 comments