ความเหมือนในความต่าง จากเครื่องปั่นไฟ ถึง วิศวกรรมขุดเจาะหลุมปิโตรเลียม – เห็นข่าวนี้มานานแล้วครับ ตั้งแต่ออกข่าวกันมาแรกๆ ในฐานะที่ผมเป็นวิศวกรไฟฟ้ากำลัง ก็ได้แต่หัวเราะ ฮึๆ อยู่ในลำคอ เดี๋ยวก็ โป๊ะแตก … 555
ใครที่ไม่เคยทราบเรื่องราวพื้นเพเดิมก็จะสรุปสั้นๆว่า มีลุงคนหนึ่งประดิษฐ์เครื่องปั่นไฟที่ใช้พลังงานมือ(+แขน)คน โดยปั่น 15 นาที ได้กำลังไฟ 800 วัตต์ ใช้งานได้ 8 ชม.
รายละเอียดก็ตามลิงค์ข่าวที่เอามาแปะนี่เลยครับ
จับโป๊ะ”เครื่องปั่นไฟลุงชื่น”ลามถึงอธิบดีกรมทรัพย์สินฯ
เข้าทำนอง “จักรกลอนันต์” (perpetual motion) ที่มโนกันมาหลายศตวรรษแล้ว ลองเกิลดูก็ได้ครับ หรือ จะอ่านจาก wiki ก็ได้ครับ ก๊อปลิงค์มาให้ตามนี้ เครื่องจักรนิรันดร์ (อังกฤษ: perpetual motion)
ความเหมือนในความต่าง
เห็นข่าวนี้แล้วก็นึกถึง ความเหมือนในบางมิติกับวิศวกรรมหลุมเจาะปิโตรเลียม ก็เลยอยากจะเอามาเม้าส์มอยกันเบาๆในวันสุดสัปดาห์ที่ฟ้าฝนชุ่มช่ำแบบนี้
ผมเน้นเสมอๆว่าในการเป็น Drilling Engineer ที่ดีนั้น พื้นฐานวิชาฟิสิกส์ โดยเฉพาะ กลศาสตร์ วัศดุศาสตร์ และ เคมี เบื้องต้น จะต้องเน้น และ สามารถประยุกต์ใช้ได้ด้วย ไม่ใช่แม่นทฤษฎีอย่างเดียว
ผมเน้นว่า “เบื้องต้น” และ “ประยุกต์” ก็เพราะว่า ไม่ต้องรู้มากมายอะไรก็ได้ แค่ที่เรียนในวิศวกรรมพื้นฐานปี 1 นั่นก็เหลือจะพอแล้ว และ ต้องสามารถเอามาอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นบนแท่นขุดเจาะฯอย่างเป็น/อ้างอิงหลักการทางฟิสิกส์ให้ได้ นอกจากอธิบายได้ แล้วต้องสามารถบอกได้ว่า ถ้าต้องการให้ผลต่างกันออกไป จะต้องทำอย่างไร ต้องลด เพิ่ม หรือ ปรับ อะไรอย่างไร
ตัวอย่างง่ายๆ เช่น ถ้าก้านเจา่ะหมุนด้วยความเร็วรอบ x รอบต่อนาที และ น้ำหนักที่กดหัวเจาะ y ปอนด์ ปั๊มน้ำโคลนลงไปด้วยอัตรา z ลิตรต่อนาที ความดันน้ำโคลนในท่อขุดที่ปากหลุม a psi และ หัวเจาะกัดเข้าไปในชั้นหินด้วยความเร็ว b เมตรต่อชั่วโมง
-------------------------------------------------------
ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ
กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น
จู่ๆ ก้านเจาะ (และ BHA) สั่นเป็นเจ้าเข้า* ถามว่า เราควรจะลด จะเพิ่มอะไร (หรือ อะไรที่ไม่เกี่ยว) ที่จะทำให้ BHA สั่นน้อยลง
*จะรู้ได้อย่างไรว่า BHA สั่น ในเมื่อมันอยู่ลึกลงไปเป็นกิโลๆ … อ่านมาถึงตรงนี้ใครสามารถตั้งคำถามนี้ในใจได้ ผ่านครับ เพราะนี่คือสิ่งที่ผมพูดถึงประจำ engineering sense เพราะอะไรน่ะหรือ ก็ของที่มันสั่นอยู่ลึกลงไปเป็นกิโลๆ พลังงานที่เกิดจากการสั่นมันโดน damping หรือ ดูดซับพลังงานเชิงกล หรือ ศูนย์เสียพลังงานการสั่นระหว่างทางไปโดยก้านเจาะที่ยาวเป็นกิโลๆนั่นไปแล้วไง คน(หรือเครื่องวัด)ที่จับก้านเจาะที่ปากหลุมจะรู้ได้ไงว่าปลายที่อยู่ข้างล้างก้นหลุมสั่นพับๆเป็นเจ้าเข้า … คำตอบคือ เรามีเครื่องมืออิเลคทรอนิกส์ตรวจวัดการสั่นสะเทือนที่ติดไว้กับ BHA แล้วส่งสัญญาณผ่านน้ำโคลนขึ้นมาที่เครื่องรับที่อยู่ปากหลุม
BHA links … รวม links เกี่ยวกับ BHA (Bottom Hole Assembly)
เมื่อกลับเข้ามาอยู่ในสำนักงาน ทำงานออกแบบเลือกใช้ อุปกรณ์ และ สารเคมี ต่างๆทางวิศวกรรม ที่ผู้รับเหมา (rig company, service company, supplier) นำมาเสนอขาย หรือ ให้บริการ ก็จำเป็นต้องใช้ความรู้พื้นฐานพวกนี้ ในการประเมินเบื้องต้นว่า อะไรเป็นไปได้ อะไรเป็นไปไม่ได้ อะไรแม้จะดีจะใช้ แต่ไม่เหมาะกับงานของเราเลย
นั่นก็คือความเหมือนในความต่างของกรณีข่าวเครื่องปั่นไฟที่จั่วหัวไว้ตอนต้น
วิศวกรทุกคนรู้จักกฏทรงพลังงาน และ รู้จักประสิทธิภาพของระบบ ผมจะไม่อธิบายซ้ำ อ่านข่าวปร๊าดเดียว ไม่ต้องคำนวนด้วยซ้ำ ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย
บางครั้งที่ผมจับโป๊ะแตกของบ.ต่างๆที่นำ สินค้า และ บริการ หรือ แนะนำวิธีแก้ปัญหาที่ ฟังหรู ดูแพง เต็มไปด้วยศัพท์แสงที่ไฮเทค เข้าใจยาก แต่เมื่อเอาฟิสิกส์หรือเคมีพื้นฐานมาจับก็จะพบว่า เป็นไปไม่ได้ หรือ ใช้ได้ แต่ไม่เห็นจะตอบโจทย์ปัญหาที่ผมกำลังสนใจจะแก้เลย
ถ้าสนิทๆกันก็จะเรียกมาตบกระโหลกนอกรอบนอกห้องประชุมสักทีแล้วให้กลับไปคิดใหม่ทำใหม่ 555
แล้วถ้ากลับด้านกันล่ะ เพราะผมก็เคยเป็นคนขายของเช่นกัน ผมเคยเป็นทั้ง service company และ supplier มาก่อน
แน่นอนว่า ก่อนจะเอาอะไรไปเสนอขาย เราต้องเคารพความรู้ความสามารถของลูกค้าเราไว้ก่อน อนุมานไว้ก่อนว่า ลูกค้าเรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร ตรวจสอบ สินค้า บริการ หรือ ทางแก้ปัญหา ที่เราจะเอาไปเสนอ ให้สมเหตุผล เป็นไปได้ และ ตอบโจทย์ปัญหาในสถานการณ์ใช้งานของลูกค้าเรา อย่าอนุมานว่าลูกค้าเราจะเหมือนคนที่ฟังข่าวเครื่องปั่นไฟแล้วเชื่อ 555
แน่นอนว่าเราจะต้องเจอกับ “ประสบการณ์” การทำงาน การแก้ปัญหา ของ “ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่หน้างานมาเป็นเวลานานด้วยอายุงาน และ นานด้วยอายุ” ผมไม่รู้ว่าแต่ล่ะบ.เรียกคนกลุ่มนี้ว่าอย่างไร แต่ทุกบ.มักจะมีคนกลุ่มนี้
การบริหารจัดการคนกลุ่มนี้เป็นทั้งศาสตร์ และ ศิลป์ 555 เอาไว้ตั้งเป็นหัวข้อใหม่อีกตอนก็แล้วกัน หุหุ
วันนี้เม้าส์มอยกันแต่นี้ก่อนดีกว่า ฝนหยุดตกล่ะ … อย่าลืมนะครับ หลักการทางฟิสิกส์เคมีวิศวกรรมพื้นฐาน แม่นยำ และ ประยุกต์ใช้ให้ได้ … บ๊ายบาย
recta sapere
เคยสงสัยไหมครับว่าใครเป็นคนกำหนดว่าสัตว์อะไรควรเป็นอาหารของคน สัตว์ใดไม่ควรเป็นอาหารของคน (อาจจเพราะว่าอยู่ในปิระมิดบุญระดับต่างๆกัน แน่นอนว่ามีมนุษย์อยู่ยอดปิระมิดบุญที่ว่านี้) หรือ หนักหนาขนาดที่ว่าห้ามกินเด็ดขาด แม้กระทั่ง สัตว์ทุกประเภทไม่ควรที่จะเป็นอาหารของคนเลยด้วยซ้ำไป
ใครกำหนด …
เราจะเห็นดราม่าเรื่องนี้เป็นระยะๆ …
สังคมหนึ่งๆก็จะมีข้อกำหนด ประเพณี ที่สืบทอดกันมา มีข้อตกลงที่ตกผลึก ด้วยเหตุผลทางภูมิ-สังคม-มนุษย์ศาสตร์ ว่า สัตว์ชนิดในมีชะตากรรมอย่างไรในสังคมนั้นๆ
เมื่อสังคมหนึ่งเปิดสู่สังคมหนึ่งด้วยวิวัฒนาการของการเดินทาง ดราม่าจึงบังเกิด 555 🙂
ผมกำลังจะบอกว่า อย่าเอาค่านิยมประเพณีของเราไปตัดสินคนอื่นเลยครับ ผมทำมาหารับทานอาศัยอยู่มา(และกินมา)ไม่รู้จะกี่วัฒนธรรมแล้ว เรื่องกินนี่ แรกๆผมก็ทำใจไม่ค่อยได้ ไม่เข้าใจ บลาๆ แต่เมื่อตีนกาเยอะขึ้น ก็เข้าใจอะไรๆมากขึ้น วางเรื่องนี้น้อยลง กลายเป็นกินอะไรก็ได้ ช่างมัน ถูกผิด(เรื่องกิน)อยู่ที่บริบทของสังคมนั้นๆ เป็นความสัมพัทธ์ ไม่เป็นสัมบูรณ์เอาเสียเลย … อาแมน
มันก็เป็นธาตุตามธรรมชาติ
เป็นการกินอย่างไม่มีตัวผู้กินและถูกกิน
นี่คือไม่กินทั้งหมด
คือไม่หมายมั่นว่าอะไรเป็นอะไร …
… พุทธทาส
ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ
(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)
![]() |
![]() |