Work From Home & Social Distance จนถึงเมื่อไร ไม่เจ็บแต่ก็ไม่จบ – อย่างที่ทราบๆกันอยู่ แล้วว่าทำไมเราถึงต้องทำงานที่บ้าน และ เว้นระยะห่างทางสังคม แรกๆก็โอเคแหละ ตื่นเต้นกันไรกัน
แต่เราจะลากยาวกันไปถึงเมื่อไร และ ในภาพใหญ่ของประเทศ ไม่ใช่แค่คนกลุ่มเดียว เราพร้อมจะลากกันไปยาวขนาดนั้นไหม
Work From Home
& Social Distance จนถึงเมื่อไร ไม่เจ็บแต่ก็ไม่จบ
ตามประสาวิศวกร คิดแบบวิศวกร ก่อนจะตอบคำถามว่า “ลากยาวไปถึงไหน” ก็ต้องตั้งเกณฑ์ก่อนว่า
- เหตุการณ์อะไรถึงทำให้หยุดลากยาว
- เหตุการณ์นั้นจะเกิดได้อย่างไร
ข้อแรก เราจะหยุด ทำงานที่บ้าน และ หยุดเว้นระยะทางสังคม กลับมาใช้ชีวิตปกติ ก็ต่อเมื่อคนป่วยไม่ล้นโรงพย่าบาล
ข้อสอง คนป่วยไม่ล้นโรงพย่าบาล เมื่อไร ก็เมื่อโรคหยุดระบาด คนไม่ติดโรคเยอะ
โรคหยุดระบาด คนไม่ติดโรคเยอะ เมื่อไร ก็เมื่อคนมีภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าจะมีแบบธรรมชาติ หรือ มีแบบสังเคราะห์ฉีดเข้าไป
มีภูมิแบบธรรมชาติเมื่อไร – เมื่อคนติด 60% ของประชากร
มีภูมิแบบวัคซีนเมื่อไร – ตอนนี้ทุกฝ่ายใช้ตัวเลข 12 – 18 เดือน ผลิตในเชิงอุตสหกรรม
-------------------------------------------------------
ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ
กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น

https://www.hfocus.org/content/2020/03/18776
จากกราฟที่ทำนายกันตามหลักวิชาการ คำพูดที่ว่า “เจ็บแต่จบ” นั้น ไม่ได้แปลว่า ปิดเมืองปิดบ้านแล้วจะจบหรอก เพราะว่าถ้าปิดเมืองปิดบ้านแล้ว ถ้ายังไม่มีภูมิคุ้มกัน (ไม่ว่าจะมีแบบธรรมชาติ หรือ มีแบบสังเคราะห์ฉีดเข้าไป) เปิดเมือง เปิดบ้าน ทำงานที่บ้าน บลาๆ ไป เปิดเมืองเปิดบ้านแล้ว เราก็จะกลับมาติดกันยับเยินเหมือนเดิม
จะเปิดเมือง เปิดบ้าน หยุดทำงานที่บ้าน บลาๆ จะทำได้ก็ต้องมีภูมิกันก่อน เมื่อเราปิดเมืองปิดบ้าน ทำงานจากที่บ้าน การมีภูมิโดยธรมชาติไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
โดยตรรกะนี้ แสดงว่า ถ้าเราเลือกปิดเมือง ปิดบ้าน ทำงานที่บ้าน แปลว่าเรารอวัคซีนอย่างเดียวเลย … 12 – 18 เดือน
เจ็บแต่จบ
ดังนั้น คำว่า “เจ็บแต่จบ” นั้น ควรจะหมายถึงกราฟรูปแรกซ้ายมือโด่งสุดๆ แต่ฐานแคบๆ
คือ ปล่อยติดกันไป (ว่าตามทฤษฎีนะครับ อย่าดราม่า) เจ็บคือ คนจะป่วยจะตายเยอะ จบ คือ เกิดภูมิคุ้มกันหมู่เร็ว หยุดระบาดเร็ว
ถ้าเป็นคนก็ไข้ขึ้นแรงๆตัวสั่นพับๆแล้วก็หายไวๆ
ตรงกันข้าม “ไม่เจ็บ(แต่ก็ไม่จบ)” …
คือกราฟสีเขียวรูปขวาสุด ปิดบ้านปิดเมืองทำงานที่บ้าน แบบสมบูรณ์แบบ ทุกคนร่วมมือเป็นใจเดียวกัน แต่เศรษฐกิจล่มสลาย คนตกงาน GDP หายไปครึ่งประเทศ บลาๆ ก็ว่าไป
… แล้วก็นั่งรอวัคซีน
ก็จะประมาณว่า ไม่เจ็บ(ในความหมายว่า ป่วยน้อยตายน้อย) แต่ก็ไม่จบ ลากไปเลย 2 ปี
ถ้าเป็นคนก็ไข้อ่อนๆ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ซมติดเตียง นั่งเก้าอี้รถเข็น ไป 2 ปี ค่อยหายป่วย ลุกขึ้นมาเดินได้
ธรรมชาติมันก็แบบนี้ครับ
ฝนตกหนักมักจะตกไม่นาน ตกปรอยๆหยุมหยิมๆตกได้ทั้งสัปดาห์ … no pain no gain – no risk no reward
ทางสายกลาง
คนป่วยเยอะตายเยอะรพ.ล้น รับไม่ด๊าย(เสียงสูง) รับไม่ได้ เราเจริญ เรามีเทคโนโลยี มีมนุษยธรรม เราโลกสวย
คนป่วยน้อยตายน้อย แต่เศรษฐกิจพัง คนตกงาน GDP หดหจู๋ รับไม่ด๊าย(เสียงสูง) รับไม่ได้ เราต้องมีกินมีใช้ ต้องดึงดูดเงินลุงทุน ต้องแคร์รายได้จากนักท่องเที่ยว เราต้องโลกสวย
เมื่อมีสุดโต่งทางซ้าย และ ทางขวา เราชาวโลกสวยก็ต้องบอกว่า งั้น เราทำแบบครึ่งๆกลางๆซิ ปิดบ้านปิดเมืองก็ปิดแบบแง้มๆ พอให้คนในออกคนนอกเข้า ทำงานที่บ้านก็แอบๆออกมาประชุมบ้างไรบ้าง
บริษัทฯร้านรวงก็ไม่ต้องปิดหมด เอาเฉพาะกิจการที่ไม่จำเป็น ที่ยังจำเป็นก็เปิดไว้ก่อน (แล้วต่อมาคนก็จะโวยวายให้เปิดโน้นนี่เพิ่มอีกหน่อยนะ เพราะ อุตสาหกรรมฉัน ธุรกิจฉันก็จำเป็นเหมือนกัน 555)
รูปก็จะเป็นกราฟที่สอง ตรงกลาง สีส้มๆ

กราฟสีส้มแปลไทยเป็นไทยว่า วัดดวงเอา คนจะติดโรคกันเกิน 60% แล้วเกิดภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ หรือ ผลิตวัคซีนได้ก่อน
จัดไป กลางปีหน้า
เราพร้อมทำงานที่บ้าน ปิดร้านรวง กันถึงกลางปีหน้าไหม
ไม่ใช่ทำงานที่บ้านอย่างเดียว ธุรกิจห้างร้านอาชีพอื่นๆ ห่วงโซ่อุปทานอีกบานเบอะยาวเฟื้อย อึดกันได้ไหมถึงกลางปีหน้า
อย่าลืมว่าเราทำกันแบบครึ่งๆกลางๆอยู่ตอนนี้ (พูดให้สวยก็ต้องบอกว่า เราเดินสายกลาง 555) ปิดแบบแง้มๆ แง้มอ้ามากเท่าไรยอดกราฟก็โด่ง ฐานก็แคบลง (เจ็บแต่จบ)
ขันน๊อตไม่แง้มเยอะเมื่อไร ยอดกราฟก็จะเตี้ยลง แต่ฐานก็จะบานออกไป ไม่เจ็บ (แต่ก็ไม่จบเหมือนกัน)
สมมุติว่าชะล่าใจ
ระหว่างปิดๆแง้มๆอ้าๆอยู่นี้ ถ้าถึงต้นปีหน้า (กราฟรูปกลางสีส้ม) ไชโย้ ไชโย เรากำลังจะผ่านจุดสูงสุด แง้มเยอะๆหน่อย อยากไปปาร์ตี้เต็มทนแล้ว ภูมิคุ้มกันหมู่ก็ยังไม่มี วัคซีนก็ยังไม่มา คราวนี้ก็จะระบาดกันอีกรอบ และโดยธรรมชาติโรคไข้หวัดจากไวรัสเนี้ย ถ้าเอามันไม่อยู่ในการระบาดรอบแรก ประวัติศาสตร์บอกว่ารอบสองมันเอาแน่ จั๊งหนับบุเรงนองมากกว่ารอบแรกชัวร์
เจ๊กตื่นไฟ กระต่ายตื่นตูม
โดยธรรมชาติของการตอบสนองต่อภัยที่เข้ามาอย่ากระทันหัน มนุษย์ชาติมักจะมีแนวโน้มที่ออกตัวแรง (over react) เสมอ เช่น ออกมาตราการโน้นนี่นั่น วิ่งกันให้พล่าน ฝุ่นตลบ เดา และ เม้าส์กันให้แซ่ด
เมื่อเวลาผ่านไป ฝุ่นจางลง ปัจจัยภัยที่คุกคามไม่เปลี่ยน แต่มนุษย์จะ …
- … ชิน ปรับตัว มาตราการที่ออกมาตอนตื่นไฟตื่นตูมก็หย่อนๆลงไปโดยพฤตินัย (คือ กฏยังเหมือนเดิม แต่คนไม่ทำตาม หรือ ทำตามน้อยลง) เราก็จะอยู่กับภัยนั้นประหนึ่ง เราเป็นเพื่อนกัน (live with it)
- … มีปัญญา คิดได้ว่า อ๋อ ที่ออกมาตราการไปตอนแรก(แม่ง)เว่อร์ไป ก็จะแก้ไข หรือ ออกกฏใหม่ (deregulated measures) ให้ดูสมเหตุผล และ ดูฉลาดขึ้น
คอยดูซิครับ โควิด 19 นี่ก็เช่นกัน ถ้าลากกันยาวถึงกลางปีหน้าคิดว่า
- หลายๆบ.ยังจะทำงานที่บ้านไปยาวขนาดนั้นไหม
- โรงเรียน ห้างร้าน ธุรกิจ ร้านรวง ต่างๆที่โดนปิด จะปิดยาวขนาดนั้นไหม
- social distancing ที่เพียรโปรโมทกัน ยังจะโปรโมทกันอยู่ไหม
- ไข่ไก่ยังจะแพงไหม คนยังกักตุนอาหารกันอยู่ไหม
- PPE หน้ากาอนามัย แผ่นพลาสติกกันหน้า ฯลฯ จะยังขาดแคลนกันไหม
- ยังรายงานตัวเลขต่างๆรายวัน (ชนิดเซียนหวยอาย) อยู่ไหม
- มุกตลกในไลน์ ในเฟส ยังเท่าเดิมไหม
- กระแสดราม่าต่างๆยังเหมือนเดิมไหม
- และ อีกมากมาย ฯลฯ
ในที่สุด ชีวิตมันก็ยังต้องเดินต่อไป … life must go one …
ผมไม่ได้บอกว่ากลไลตื่นตูมตื่นไฟ ไม่ดี ไม่ถูก เราควรมีสติ ตั้งสติได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ภัยมา (นั่นเป็นลักษณะของพระอรหันต์ที่มีสติตลอดเวลา แต่พลโลกเราหาใช่ไม่ 555)
ตรงกันข้ามครับ ผมเห็นด้วยที่มนุษย์เรามีกลไกตื่นตูมตื่นไฟ (เหมือนระบบประสาทอัตโนมัติที่ทำให้เรากระพริบตาโดยไม่ต้องคิดเยอะเวลามีอะไรเข้ามาหาลูกตาเร็วๆ) เพราะนั่นคือกลไกทางวิวัฒนาการที่ทำให้เราอยู่รอดและสืบพันธุ์จนมีมนุษย์เราทุกวันนี้บนดาวเคราะห์ดวงนี้
แต่ก็แค่อยากจะกระตุกให้คิดกันว่า …
มนุษยชาติเรามีกลไกการปรับตัวให้เข้ากับ และ อยู่กับ ภัยธรรมชาติหลายๆอย่างด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเรื่องโรคภัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ ภูมิประเทศ
สรุป
ผมว่าตอนนี้เราน่าจะพ้นระยะตื่นตูมตื่นไฟได้แล้วนะครับ
หันมาใช้สติ ใช้สมอง ตอบคำถาม 8 – 9 ข้อ (และอื่นๆทำนองเดียวกัน) ข้างต้นได้แล้วตั้งแต่ตอนนี้เถอะครับ
เลื่อนการเปิดยื่น ประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบ 23 COVID-19
https://nongferndaddy.com/%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%a2%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%99/
ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ
(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)
https://raka.is/r/qlzXR |
https://raka.is/r/gP7GV |
https://raka.is/r/qlzXR
https://raka.is/r/gP7GV