ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

Which Job are your people doing? คนของเราทำงานแบบไหนอยู่ครับ

Which Job are your people doing? คนของเราทำงานแบบไหนอยู่ครับ – คนทำงานตามคำสั่งอยู่ระดับล่างๆของห่วงโซ่อาหารอย่างผมเป็นต้น (555) คงไม่มีทางเลือกอะไรเท่าไร เขาให้เราทำอะไรเราก็ทำไปเนอะ หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนในครอบครัวไปไรไป ทำให้ดีที่สุดให้คุ้มค่าจ้าง

แต่ที่จะชวนคุยวันนี้ คือจะชวนพวกเราที่เป็นระดับที่ต้องดูแลคนภายใต้สายงานบังคับบัญชา และ ฝ่ายบริหารงานทรัพยากรคน ชวนมาคุยกันนิดหนึ่ง ชวนให้หยุดคิดนิดหนึ่งในแง่มุมนี้

Which Job are your people doing?

คนของเราทำงานแบบไหนอยู่ครับ

ก่อนอื่นเพื่อป้องกันดราม่า เรามานิยามคำว่า Profile กัย Skill กันก่อน

ปกติผมจะพยายามใช้ภาษาไทยให้มากที่สุด แต่คำว่า Profile นี้ ผมไม่สามารถหาคำภาษาไทยสั้นๆมาใช้สื่อสารโดยยังให้ความหมายได้ครบตามที่เราเข้าใจคำนี้ในภาษาอังกฤษ

ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล

Profile แปลตรงตัวว่าเส้นขอบ(ของอะไรสักอย่าง อาจจะ 2D 3D หรือ หลายๆ D) รูปทรงอะไรที่เส้นขอบเด่นชัดจากตัวรูปร่างหรือเด้นชัดจากฉากแวดล้อมข้างหลัง ก็มักจะถูกเห็นได้แต่ไกล หรือ เห็นได้ง่ายเวลาคละๆปะปนกับรูปทรงอื่นๆที่คล้ายๆกันที่มีเส้นขอบที่ไม่ชัด

ในแง่มุมนี้ก็คือ เส้นขอบของ “งาน” งานที่ hi profile ตามที่เราเข้าใจๆกันคือ เป็นงานที่ ผู้ใหญ่ เจ้านาย ผจก. ลูกค้า มองเห็น + รับรู้ถึงความสำคัญ + เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับความอยู่รอดหรือพัฒนาของบ. + คนที่ทำงานนี้มีโอกาสก้าวหน้าสูง + เป็นงานที่มีผลตอบแทนให้กับคนทำงานดี + เป็นงานที่รู้จักของคนในบ. เอ่ยถึงทุกคนร้องอ๋อ + อยู่ในสายงานหลักสายตรงของบ.

ส่วนงานที่ low profile ก็ตรงกันข้าม

เห็นไหมครับ ว่าหาคำภาษาไทยที่คลุมหมดทุกความหมายนี้ได้ยาก จะใช้คำว่า งานที่ดี มันก็กว้างเกิ้น

-------------------------------------------------------

ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ

กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น

จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ … อ้อ … อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น แล้วอย่าลืม mark as not junk or spam ด้วยนะครับ เวลาส่งเตือนคราวหน้า จะได้ไปอยู่ใน in box :)

Skill คำนี้พอแปลได้ว่า ทักษะ ในที่นี้ผมจะหมายความรวมทั้ง ทักษะแข็ง (hard skill/ techical skill) และ ทักษะนิ่ม (soft skill) … แหม แปลแล้วจั๊กกะจี้ดีจัง เอาว่าผมแปลรวมๆไปว่า ทักษะ ก็แล้วกัน

ทักษะในบริบทของบทความผมนี่ ไม่รวมไปถึง “ทักษะพิเศษ” ที่ในหลายๆวงการยอมรับว่าเป็นทักษะหนึ่งของการทำงาน เช่น ทักษะการใช้ระบบอุปถัมภ์ ทักษะการแบ่งปันผลประโยชน์ (คนล่ะเรื่องกับสัมประทานแบ่งปันผลผลิตนะครับ 555) ทักษะการบริหารจัดการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ทักษะการให้บริการเป็นการส่วนตั๊วส่วนตัว ฯลฯ เพื่อให้ได้มาซึ่งการตำแหน่งการทำงาน

พูดภาษาบ้านๆก็ เด็กเส้น เด็กนาย เส้นสาย ซื้อตำแหน่ง ประจบ สอพลอ เต้าไต่ บลาๆ แล้วแต่จะเรียกกันไป หรือ ที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า เลียก้น เลียลูกอัณฑะ ขัดเงา (polishing) นั่นแหละครับ

Which Job are your people doing?

เอาล่ะ เข้าใจนิยามกันแล้ว พวกเราที่เป็นระดับที่ต้องดูแลคนภายใต้สายงานบังคับบัญชา และ ฝ่ายบริหารงานทรัพยากรคน ลองมาดูกันหน้อยว่า เด็กๆภายใต้การดูแลของเรา ใครอยู่หมวดไหนกันบ้าง

High Profile High Skill

ใครที่อยู่หมวดนี้ก็ถือว่า ถูกที่ถูกทางแล้วครับ เราได้ Put the right man to the right job

High Profile Low Skill

ถ้าเรามีใครอยู่ในหมวดนี้ ให้รีบพิจารณาโดยด่วนครับ เพราะหมวดนี้คือพวกที่ใช้ “ทักษะพิเศษ” ที่ผมกล่าวถึงข้างต้น คือ ไม่มีทักษะที่ต้องใช้ในงาน high profile เลย แต่ได้ทำงานที่ high profile นอกจากจะทำให้งานไม่ไปไหน งานเสีย บ.เสียโอกาสที่จะได้ผลงานดีๆจากงานนั้น (เพราะคนแบบนี้ทำงานไม่เป็น ไม่มีทักษะ)

นอกจากนี้แล้ว ปล่อยคนพวกนี้ไว้เยอะๆก็จะทำให้ขวัญและกำลังใจของพนักงานอื่นๆในองค์กรถดถอยอีกด้วย

Low Profile Low Skill

ผมไม่ใช่นักบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์โดยตรง แต่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ผมเห็นๆบ.ใหญ่ๆเขาทำกับคนและงานให้หมวดนี้ก็แล้วกัน

มีบ.หนึ่ง ใช้งานนี้เป็นสุสานเก็บคนที่ให้ออกก็ไม่ได้ อาจะเป็นเพราะกฏหมายแรงงาน สหภาพ พนักงานกุมความลับบ.ที่ไม่อยากให้แฉ ค่าชดเชยให้ออกเยอะ เด็กเส้น เด็กฝาก บลาๆ เอาว่า ให้ออกไม่ได้ก็แล้วกัน ก็เอาไว้ทำงานพวกนี้ไปวันๆ หรือไม่ก็เป็นที่เก็บพนักงานที่ไม่ยอมพัฒนาตัวเอง (Dead wood) ทำงานพวกนี้

เพราะอย่างไรก็ตาม ถึงจะเป้นงาน low profile ก็ต้องมีคนทำงานพวกนี้อยู่ดี

หาบ้านให้น้องหน่อยครับ :)

ขาวจั๊วะ กอดได้ อิงได้ วางประดับได้

ปาหัวคนข้างๆก็ได้ (เวลาใช้ให้ไปล้างจานแล้วไม่ยอมไป)

https://raka.is/r/XBBPp

อีกบ.หนึ่งที่เคยเห็นมา เอาพนักงานกลุ่มนี้ไปเพิ่มทักษะ (up-skill) หรือ เปลี่ยนทักษะ (re-skill) แล้ว เอาไปทำงานที่ profile ดีกว่า ส่วนตัวงาน low profile นั้นก็ outsource ไปซะ ให้ผู้รับเหมาเอาไปทำ

ใครมีไอเดียอื่นๆที่จะบริหารจัดการ งานและคนในกลุ่มนี้ ก็สามารถแบ่งปันกันได้ครับ

Low Profile High Skill

ลูกน้องเราที่ตกปุ๊ลงมาในหมวดนี้ ควรได้รับความสนใจใส่ใจด่วน ก่อนที่เราจะเสียเขาไป

ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าเอามืออาชีพที่มีความสามารถไปทำงานที่ low profile หรอกครับ ถ้าบ.เราไม่เห็นความสามารถของเขา ผมเชื่อว่า บ.อื่นก็คงเห็น และ คนมีความสามารถก็มักจะแสวงหาโอกาสที่เหมาะที่ควรกับเขา หรือ ไม่ก็ถูกสภาพแวดล้อมเปลี่ยนจากคนไฟแรงมากความสามารถ กลายเป็นคนเช้าชามเย็นสองชามแห้งชามน้ำชามไปในที่สุด อย่างที่เราเห็นกันมากมายในวงการข้าราชการ

เอาล่ะครับ จบแล้วล่ะ แค่อยากจะชวนพวกเราที่เป็นระดับที่ต้องดูแลคนภายใต้สายงานบังคับบัญชา และ ฝ่ายบริหารงานทรัพยากรคน เหลียวมามองคนใต้การดูแลเสียหน่อย อะไรที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ทำได้ เช่น โยกย้าย แต่งตั้ง เปลี่ยน profile งาน เปลี่ยน เพิ่ม ทักษะคน ฯลฯ ก็ทำซะ

อะไรที่ทำไม่ได้ เพราะบ.ไม่ได้ให้อำนาจไว้ ก็นำเสนอผู้ใหญ่ในระดับสูงๆขึ้นไปให้ช่วยแก้ไขไปไรไป เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานเราเองนั่นแหละ จะได้ดีขึ้น

อย่าลืมว่างานพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไม่ใช่งานของแผนกทรัพยากรมนุษย์อย่างเดียว ต้องช่วยๆกันคนล่ะไม้ล่ะมือ อย่าให้คำพูดที่ชอบพูกกันออกสื่อว่า พนักงานของบ.เราเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด กลายเป็นคำโกหกหลอกลวง

recta sapere

เรื่องเล่าจากงานศพ …

ปีหลังๆนี่ผมมักจะได้ไปงานศพพ่อ แม่ ของเพื่อน หรือ แม้กระทั่ง ตัวเพื่อนเอง เป็นประจำ อย่างต่ำๆก็เดือนล่ะ 1 – 2 ศพ ซึ่งก็เป็นไปตามกาลตามวัย หาได้มีอะไรแปลก

เพื่อนฝูงก็มักจะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันเป็นปกติ ใครทำอะไรที่ไหน สุขภาพ ลูกเต้าเป็นไง

อย่างหนึ่งที่พวกเรามีความคิดเห็นตรงกันคือ ไม่ค่อยมีใครกลัวที่จะตายเท่าไร เพราะได้ทำ ได้ผ่านอะไรมาเยอะ เรียกว่า คุ้มแล้ว ที่เหลือคือกำไร และก็ได้สร้างหลักประกันไว้ประมาณหนึ่งแล้วให้คนที่เรารักห่วงใยและต้องดูแล

แต่ขออย่างเดียว ขอให้ตายอย่างไปไวๆหน่อย 555 🙂

ที่พวกเรากลัวคือ อยู่เหมือนตายแต่ไม่ตาย คือ ภาวะติดเตียง ต้องเป็นภาระทางการเงิน และ เวลา ของคนที่เรารักที่อยู่ข้างหลัง มันกลืนไม่เข้า คายไม่ออก จริงๆ ใครไม่เคยผ่าน ไม่เคยเห็น ไม่เคยเจอ อาจจะออกความเห็นแบบโลกสวย ก็ว่าไป

ก็เลยมาสรุปกันว่า แล้วเราจะทำอย่างไร ก็วกเข้ามาเรื่อง การกิน การอยู่ และ การออกกำลังกาย

ก็อยากจะเตือนพวกเราเหมือนกันครับ เรื่องสุขภาพนี่ มีเงินเป็นล้านๆ ถ้าต้องเดินโขยกเขยก เจ็บเข่า ปวดหลัง เดินขึ้นบันได 3 ขั้นหอบเป็นหมากลางแดดหน้าร้อน ก็คงไม่มีความสุข ชีวิตคงไร้คุณภาพ

ออกกำลังกายกันเถอะครับ อย่าพลัดวันประกันพรุ่งเลย

พูดถึงเรื่องนี้ก็ไพล่ไปนึกถึงตอนหนึ่งของซีรี่ย์โปรด StarTrek The next generation ไม่ได้ ขอเอามาเล่าสู่กันฟังก็แล้วกัน เพราะมันใกล้เคียงกับเรื่องนี้

อย่างที่ทราบๆ StarTerk เป็นเรื่องของมนุษย์ในยุคอนาคตที่ออกท่องไปในอวกาศเพื่อค้นคว้าศึกษาอารยธรรมต่างดาว โดยมีกฏไม่แทรกแทรงการพัฒนาอารยธรรมอื่นๆ

https://en.wikipedia.org/wiki/Prime_Directive (prohibiting its members from interfering with the internal and natural development of alien civilizations.)

ตอนที่ผมจะกล่าวถึงนี้ผมก็จำชื่อตอนไม่ได้แล้ว แต่สรุปเรื่องราวได้ว่า ยาน enterprise ไปถึงดาวดวงหนึ่ง ที่มีอารยธรรมสูงกว่ามนุษย์ พัฒนามาก่อนเป็นล้านปี

คนบนดาวดวงนี้อายุยืน การเจ็บป่วยเมื่อใกล้จะตายของคนบนดาวดวงนี้กินเวลานาน เป็นปัญหาดึกดำบรรพ์ ตามท้องเรื่อง ธรรมชาติของคนบนดาวดวงนี้ ถ้าปล่อยไปตามอายุขัยแล้ว จะตายช้า ทรมาน และ เสียทรัพยากรในการดูแลให้ตายตามธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะพัฒนาทางการแพทย์อย่างไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนขบวนการทางธรรมชาตินี้ได้

อารยธรรมของคนดาวดวงนี้จึงถูกพัฒนามาให้เกิดวิธีการจำกัดชีวิตคน เพื่อประโยชน์อื่นๆของการพัฒนา เช่น ทรัพยากร เงินทอง เวลาที่ต้องดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ฯลฯ ไม่งั้นอารยธรรมก็ไม่ไปไหน เพราะสมาชิกในครอบครัวต้องเอา ทรัพยากร เวลา และ อื่นๆมาทุ่มให้กับการรักษาดูแลความเจ็บป่วยทรมาน (แต่ไม่ตายเสียที)

วัฒนธรรมที่ว่านั้นคือการมีพิธี “ส่งกลับ” คืนสู่ธรรมชาติโดยไร้ความเจ็บปวด เมื่ออายุครบ 60 ปี (ในสายตามนุษย์บนยาน enterprise ก็คือ ฆ่าให้ตายนั่นแหละ) เป็นพิธีที่มีมายาวนานมาเพื่อตอบโจทย์ที่ว่านั่นแหละ

เลข 60 ปี นี้มาจากไหน ตามท้องเรื่องอีก ก็มาจากสถิติที่ถ้าอายุเกินนี้แล้ว จะเริ่มป่วยหนัก และ บริโภคทรัพยากรในการรักษาความเจ็บป่วยอย่ามีนัยสำคัญ

ในมุมมองของคนบนดาวดวงนี้เป็นเรื่องปกติ เป็นพิธีที่เรียบง่าย เป็นช่วงเวลาที่เพื่อนพ้อง คนในครอบครัวมาอยู่ร่วมกัน มีความสุข รื่นเริง ไม่มีใครเสียใจ เพราะรู้ว่าคนที่รักที่ถูกส่งกลับนั้น ไปในที่ๆดีกว่า คนที่จะถูกส่งกลับนั้นก็ชื่นชมยินดี และ รอคอยวันที่จะถูกส่งกลับ

วิถีนี้เป็นแบบนั้นมาเป็นล้านปี คนบนดาวดวงนั้นก็ไม่รู้ว่ามีอารยธรรมอื่นอีก ก็นึกว่านั่นคือปกติและธรรมชาติ

เมื่อวันหนึ่ง ยาน enterprise ไปถึง ก็เกิดความขัดแย้งขึ้นเมื่อมองจากมุมมองวิธีคิดของคนในยาน

รัฐมนตรีผู้ควบคุมกฏของดาวที่กำลังจะถูก “ส่งกลับ” ถูกผูกเรื่องให้ถูกนำขึ้นมาบนยาน เรียนรู้อีกวิถีหนึ่งของการใช้ชีวิตแบมนุษย์โลกที่ไม่มีการส่งกลับ และ ถูกผูกเรื่องให้รักกับคนสำคัญคนหนึ่งบนยาน

จึงเป็นที่มาของความขัดแย้งทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้น ผมจะไม่เล่าให้จบ เดี๋ยวจะเป็นการ spoil หนัง 555

ผมชอบซีรีย์เรื่องนี้มาก เพราะเป็นการนำมุมมองใหม่ๆมาตีแผ่ แฉสันดานมนุษย์ ในหลายๆด้าน ซีรี่ย์จะจำลองการแบ่งฝ่ายทางความคิด โต้กันด้วยหลักปรัชญาของหลายๆสำนัก เกี่ยวกับหลายๆแง่มุมของมนุษย์ตามแต่เรื่องแต่งจะพาไป

ในตอนนี้เป็นการถกกันถึงสิทธิ์ของการ “ได้ตาย” และ “ถูกทำให้ตาย” แม้แต่คำว่า “ตาย” ที่เรานิยามกันแบบเข้าใจว่าไม่มีนิยามอื่น แต่เมื่อมองอีกมุมของอารยธรรมหนึ่ง อาจจะมีความหมายต่างกัน เช่น บนดาวสมมติดวงที่ว่านี้ ไม่มีคำว่าตาย ความตายไม่ได้ถูกนิยามไว้ กลับกัน การกลับคืนสู่ธรรมชาติดั่งเดิมกลับเป็นสิ่งที่ทุกคนโหยหาและรอคอยอย่างมีความสุข

กลับมาถึงเรื่องภาวะติดเตียงและสิทธิ์ของตัวผู้ป่วยเองที่ไม่ต้องการทรมานทั้งตัวเองและคนที่เขารักนั้น จึงเป็นอีกคำถามหนึ่งของสังคมโลก(ไม่แต่สังคมไทย) ที่เราต้องครุ่นคิด

ผมแอบอดจะคิดไม่ได้ว่า ภาพของมนุษยชาติ(เกี่ยวกับเรื่องนี้) ในวันนี้ อาจจะเป็นภาพกระบวนการวิวัฒนาการในอดีตของคนบนดวงดาวสมมติในซีรีย์ที่ว่ากันก็ได้ ? ….

ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

--- มีคำถามเพิ่มเติม พูดคุย เม้าส์มอย ไปต่อกันได้ที่กระดานสนทนา (webboard) นะครับ

คลิ๊กเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

The Sweet Girl

ของมือสองของเฟิร์นค่ะ มีหลายชิ้นเลย ราคาดีสุดๆ (คลิ๊กที่รูปนะคะ ลิงค์จะพาไปที่ร้านค่ะ)

Fern shop

--------- คลิ๊ก - The Sweet Girl ----------