ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

Under the ground EP1 จากใต้พื้นพิภพ ตอนที่ 1 กับดักดึกดำบรรพ์

Under the ground EP1 จากใต้พื้นพิภพ ตอนที่ 1 กับดักดึกดำบรรพ์ … ใครดักใคร ดักไว้ที่ไหน

คำนำ

“จากใต้พื้นภิภพ” เป็นเรื่องสั้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการกำเนิดปิโตรเลียม รวมถึงกระบวนการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่คุณลือชัย วงศ์สิรสวัสดิ์(*)ได้เขียนขึ้น เพื่อให้ความรู้แก่พนักงานใหม่ที่ยังไม่คุ้นเคยกับธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และ พนักงานในสายงานสนับสนุน รวมถึงผู้สนใจ โดยการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการกำเนิดปิโตรเลียม กระบวนการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในแหล่งน้ำมันสิริกิติ์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันที่มีการผลิตในเชิงพาณิชย์แหล่งแรกในประเทศไทย และปัจจุบันยังคงเป็นแหล่งน้ำมันดิบบนบกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย

Under the ground EP1

(*)คุณลือชัย วงศ์สิรสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานทรัพยากรบุคคลและบริการธุรกิจ ปตท.สผ. ในปี พ.ศ.2553

จากใต้พื้นพิภพ ตอนที่ 1

ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล

พี่ลือชัยเคยเป็น Wireline Field Engineer เราเคยใส่ชุดหมีสีเดียวกัน ปักธงชาติไทยที่หน้าอกเหมือนกัน เราเคยทำงานร่วม Offshore Operation Base เดียวกันที่บอมเบย์ (ปัจจุบันเรียก มุมไบ) ประเทศอินเดียในปี 1989 (2532) พี่ลือชัยเสียชีวิตเมื่อต้นปี พ.ศ. 2555

Under the ground EP1

จากใต้พื้นพิภพ ตอนที่ 1 กับดักดึกดำบรรพ์

Under the ground EP1

ลึกลงไปจากพื้นผิวของแผ่นดินแห่งอำเภอลานกระบือสัก 2 กิโลเมตร คุณคงทราบไหมว่า ณ. ที่นั้น พลังงานอันมีค่าที่สุดเท่าที่เคยพบได้ในประเทศไทยได้ซุ่มแฝงตัวมานานนับล้านปี “น้ำมันดิบเพชร” ไงครับ

-------------------------------------------------------

ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ

กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น

จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ … อ้อ … อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น แล้วอย่าลืม mark as not junk or spam ด้วยนะครับ เวลาส่งเตือนคราวหน้า จะได้ไปอยู่ใน in box :)

ทุกวันนี้เราสามารถนำน้ำมันดิบเพชรจากใต้พื้นแผ่นดินแห่งนี้ขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้วันล่ะกว่าสองหมื่นบาร์เรล (**) … แล้วเจ้าสองหมื่นบาร์เรลนี่มันเท่ากับเท่าไรกัน … คุณอาจสงสัย ก็เท่ากับประมาณ 7 – 8 เท่าของสระว่ายน้ำมาตราฐานทั่วๆไปไงล่ะครับ

(**) ปัจจุบบันผลิตได้ราวๆ 3 หมื่นบาร์เรล .. พี่นก

คุณเคยอยากทราบด้วยบ้างไหมว่า หนทางอันยาวไกลของน้ำมันดิบจากใต้พื้นพิภพสู่โรงกลั่นนั้นเป็ฯอย่างไร เรื่องสั้นนี้จะเฉลยให้คุณฟังอย่างง่ายๆ

Under the ground EP1

นักธรณีวิทยามักจะบอกว่าเจ้าน้ำมัีนดิบนี่ถูก “cook in the kitchen” ซึ่งพอจะเทียบเคียงกับภาษาไทยว่า “ทำให้สุกมาจากในครัว” ที่หมายความว่านับตั้งแจ่เมื่อหลายๆล้านปีที่แล้ว บรรดาอินทรีย์สารทั้งหลายเมื่อทับถมรวมกันกับตะกอนโคลนดินและหินนานๆเข้าก็จะบ่มตัวเองจนสุกแล้วกลายเป็นน้ำมันดิบ (ฟังแล้วหวังว่าคงจะไม่งงนะครับ เดี๋ยวสุก เดี๋ยวดิบ) แล้วเจ้าน้ำมันดิบนี้ก็จะพาตัวเองอพยพ (migrate) ไปเรื่อยๆ พูดง่ายๆ ก็คือไหลไปนั่นเอง แล้วไหลไปไหนล่ะ …

ก็ไหลขึ้นที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนสุดเพดานไง ในวงการน้ำมันเขาเรียกตรงจุดที่น้ำมันดิบไหลขึ้นไปไม่ได้อีกนี้ว่า trap หรือ แปลเป็นไทยซื่อๆว่า “กับดัก” ซึ่งเป็นชั้นหินที่ครอบ หรือ ล้อมรอบน้ำมันดิบไว้ไม่ให้ไหลไปไหนได้อีกต่อไป

ด้วยเหตุที่ trap หรือ เพดานหินที่ครอบน้ำมันดิบอยู่นี้มีเปลือกโลกซึ่งเป็นชั้นหินหนาเป็นพันๆเมตรทับอยู่ น้ำมันที่ถูกกักอยู่ในกับดักนี้ก็ย่อมจะมีแรงกดดัน (pressure) ตามธรรมชาติอัดอยู่ในตัวด้วย บางครั้งเจ้าน้ำมันดิบก็อาจจะมีเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ๆกันด้วย เจ้าเพื่อนบ้านที่ว่านี้ก็มีอยู่ 2 ราย มีหน้าตาเป็นก๊าซธรรมชาติเสียหนึ่ง มีชื่อเป็นทางการว่าคุณ Gas Cap พำนักอยู่ด้านบนของน้ำมันดิบ

ส่วนอีกรายหนึ่งมีหน้าตาเป็นน้ำธรรมดาๆนี่เอง (แต่ออกรสเค็มพอสมควรนะครับ) มีชื่อว่าคุณ Aquifer ซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ด้านล่าง

จากใต้พื้นพิภพ ตอนที่ 1

คุณลองนึกภาพดูแล้วกันนะครับ น้ำมันดิบผู้น่าสงสาร ทั้งถูกกับดักครอบไว้ ทั้งถูกกระหนาบบนล่างด้วยเพื่อนบ้านทั้งสองที่จะคอยช่วยเสริมความกดดันให้อีก จะอึดอัดสักเพียงใด

หาบ้านให้น้องหน่อยครับ :)

ขาวจั๊วะ กอดได้ อิงได้ วางประดับได้

ปาหัวคนข้างๆก็ได้ (เวลาใช้ให้ไปล้างจานแล้วไม่ยอมไป)

https://raka.is/r/XBBPp

ชั้นหินกับดักอันเป็นที่อยู่ของทั้ง น้ำมัน ก๊าซ และ น้ำ นี้เราเรียกมันว่า “แหล่งกักเก็บ” (Reservoir) แต่เจ้าแหล่งกักเก็บที่ว่านี้ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนถ้วยชาม อ่าง กะละมัง หรือ ภาชนะใดๆนะครับ เพราะจริงๆแล้วแหล้งกักเก็บนี้แม้จะเป็นหินล้วนๆ แต่ก็มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับฟองน้ำใหญ่ยักษ์ที่อุ้มของเหลวหรือก๊าซเอาไว้ รูพรุนๆของหินหรือฟองน้ำยักษ์นี้เราเรียกมันว่า Pore เพราะฉะนั้น การวัดค่าของรูพรุนเหล่านี้ เราจึงวัดค่าของ Porosity ซึ่งจะเป็นหน่วยที่จะบอกเราว่าชั้นหินนั้นมีความพรุนเป็นร้อยล่ะเท่าไรของเนื้อหินทั้งหมด เจ้ารูพรุนต่างๆเหล่านี้ยิ่งทะลุถึงกันได้มากเท่าไร ของเหลวที่เจ้าฟองน้ำยักษ์นี้อุ้มเอาไว้ก็จะยิ่งไหลไปไหลมาได้สะดวกมากขึ้นเท่านั้น

ความสะดวกของการไหลไปมานี้เราวัดกันด้วยค่า Permeability อุปมาก็เหมือนดังพวก ตรอก ซอก ซอย ทั้งหลายในเมืองนั่นแหละครับ ยิ่งทะลุถึงกันมากเท่าไรก็จะยิ่งช่วยให้การจราจรไหลลื่นได้มากขึ้นเท่านั้น

ตอนนี้เราหันมาอ้างอิงถึงสัจธรรมกันสักเล็กน้อยดีกว่าครับ นั่นคือสิ่งใดๆในโลกนี้ย่อมจะไหลหรือถ่ายเทจากที่ที่มีศักยภาพสูงกว่า ไปยังส่วนที่มีศักยภาพต่ำกว่าเสมอ เห็นด้วยไหมครับ น้ำมันก็เช่นเดียวกัน และ ศักยภาพของน้ำมันที่ว่านี้ก็คือความดันหรือ Pressure นั่นเอง

วิธีหนึ่ง (ซึ่งอาจจะเป็นวิธีเดียวก็ได้ที่เราชาวโลกรู้จักใช้กันจนถึงทุกวันนี้) ในการที่จะทำให้น้ำมันที่กำลังอึดอัดอยู่ด้วยความกดดันนานาประการในแหล่งกักเก็บสามารถไหลออกมาจากกับดักของมันได้ คือการเจาะรูเข้าไปในชั้นหินอันเป็นเพดานของแหล่งกักเก็บนั่นเอง

การเจาะรู หรือ ที่เราควรจะเรียกอย่างไพเราะว่า “ขุดเจาะหลุม” ลงไปนั้นก็เพื่อสร้างให้เกิดความแตกต่างระหว่างความดันภายในหลุมกับความดันในแหล่งกักเก็บ และ เมื่อเราควบคุมความดันในหลุมนี้ได้ เราก็สามารถทำให้น้ำมันดิบไหลขึ้นมาได้นั่นเอง

ฟังดูไม่ยากเลยนะครับ ถึงตอนนี้น้ำมันดิบ (หรือที่ฝรั่งขนานนามเสียเพราะพริ้งว่า Black Gold หรือ ทองคำสีดำ) ก็พร้อมที่จะออกมาสู่โลกภายนอกแล้ว ต้องขอบคุณนักขุดเจาะเพื่อนเรา

เอาล่ะ นี่แค่เริ่มต้นเดินทางนะครับ ตอนหน้าเราจะออกเดินทางกัน

———————————————-

recta sapere

สมัยเราเด็กๆ เราจำได้ไหมครับว่า พ่อแม่เราเคยเคยสอนว่า

“เก็บอะไรให้เป็นที่เป็นทาง จัดของที่เก็บให้เป็นระเบียน เวลาหาของจะได้หาง่ายๆ เอาอะไรออกมาใช้แล้วให้เก็บเข้าที่เดิม นานๆทีก็เข้าไปดูซิว่าอะไรไม่ใช่ ก็โล๊ะๆบริจาคไป ทิ้งไปบ้าง ไม่ใช่เก็บเป็นสมบัติบ้า จนไม่มี ตู้ มีห้องจะเก็บ”

คุ้นไหมครับ … เราได้ยินมาจนหูแฉะ แต่เชื่อเถอะ พ่อแม่ก็สอนกันปากเปียกปากแฉะเช่นกัน 555

มันก็เป็นนิสัยที่ดีเนอะ ทำให้เรามีพื้นฐานที่จะจัดระเบียบชีวิตในมิติอื่นๆนอกจากการเก็บของ … จริงไหม เช่น เราจัดระเบียบการทำงาน ตารางการใช้ชีวิต จัดลำดับความสำคัญ บริหารจัดการเงินหรือทรัพยากรที่เรามีจำกัด

เหมือนตู้เก็บของที่เราไม่ได้ซื้อมาเพิ่มบ่อยๆเพื่อเก็บของที่ไม่จำเป็นต้องเก็บ

เมื่อเรามีคอมพิวเตอร์ เราก็จะจัดแฟ้ม จัดฮาร์ดิส (ราคาแพงในสมัยนั้น) แบบที่พ่อแม่เราสอนให้เก็บของต่างๆในวัยเด็ก เลือกที่จะเก็บ จัดหมวดหมู่ เอาข้อมูลมาใช้ แก้ไข แล้วก็ที่เดิม …

แล้วเราก็มีฮาร์ดดิสสำรองที่เก็บเฉพาะของที่จำเป็นยิ่งยวดเอาไว้อีก 1 หรือ 2 ฮาร์ดดิส …

ไม่ว่าจะ low tech หรือ hi tech หลักการไม่เคยเปลี่ยน

Disruption

ไม่ใช่แต่แค่เรื่องเทคโนโลยี … เราเปลี่ยนนิสัยหลายๆอย่างของเราไปด้วย นิสัยหลายๆอย่างที่โดนเปลี่ยนไป ก็เป็นนิสัยดีๆ

ในวัุนที่เราสามารถเก็บอะไรก็ได้ไว้บนเมฆ โดยไม่แคร์ความเป็นระเบียบ ในวันที่เรามีคนใช้ที่ชื่อว่า smart search machine อยากได้อะไรก็บอกคนใช้ เดี๋ยวคนใช้ก็ไปคุยมาให้

เหมือนกับวันที่เราเอา ถุงเท้า รองเท้า หน้งสือ แจกัน ของเล่น 108 1009 อย่าง สุ่มกองๆไว้ในห้อง พออยากได้อะไรเราก็ตะโกนเรียกแม่ เรียกพ่อ ไปหยิบมาให้ พอพ่อแม่หยิบมาให้ไม่ถูกใจ หยิบมาผิด เราก็อบรมสั่งสอนพ่อแม่ ครั้งต่อไปพ่อแม่ก็จะหยิบเอามาให้ได้ถูกชิ้น ถูกใจ

เราบอกว่าพ่อแม่ต้องเรียนรู้ … Machine learning คุ้นๆไหมครับ 555 🙂

เจ้า smart search machine นี่แหละ ที่เราต้องคอยสอนมัน ใช้มันบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็เรียนรู้ไปเอง

เมฆนั้นกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก เก็บข้อมูลเก็บของได้ไม่จำกัด ด้วยราคาไม่เกือบจะฟรี ก็ไม่จำเป็นที่ต้องมาคิดว่า อะไรควรเก็บ หรือไม่ควรเก็บ ไม่มีความขาดแคลน เศรษฐศาสตร์ คือ ศาสตร์ ที่บริการจัดการความขาดแคลน ก็คงหมดความหมายไป

หน่วยความจำในมือถือที่ส่วนใหญ่เอาไว้เก็บรูป มันจึงไม่เคยพอ …

วันนี้ เรา คนเป็นพ่อเป็นแม่ คงไม่สามารถจะไปสั่งสอนลูกแบบเดิมได้แล้ว … (หรือเปล่า)

“เก็บอะไรให้เป็นที่เป็นทาง จัดของที่เก็บให้เป็นระเบียน เวลาหาของจะได้หาง่ายๆ เอาอะไรออกมาใช้แล้วให้เก็บเข้าที่เดิม นานๆทีก็เข้าไปดูซิว่าอะไรไม่ใช่ ก็โล๊ะๆบริจาคไป ทิ้งไปบ้าง ไม่ใช่เก็บเป็นสมบัติบ้า จนไม่มี ตู้ มีห้องจะเก็บ”

ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

--- มีคำถามเพิ่มเติม พูดคุย เม้าส์มอย ไปต่อกันได้ที่กระดานสนทนา (webboard) นะครับ

คลิ๊กเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

The Sweet Girl

ของมือสองของเฟิร์นค่ะ มีหลายชิ้นเลย ราคาดีสุดๆ (คลิ๊กที่รูปนะคะ ลิงค์จะพาไปที่ร้านค่ะ)

Fern shop

--------- คลิ๊ก - The Sweet Girl ----------