Price of Social Distancing ราคาของการเว้นระยะทางสังคม – โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี … There is no such thing as a free lunch เป็นคำพูดที่คุ้นหูพวกเราที่ไม่ว่าจะอยู่ในแวดวงนักเศรษฐศาสตร์หรือไม่ก็ตาม
การเว้นระยะทางสังคมก็ไม่มีข้อยกเว้น … เรา(ในนามของสังคม)ย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย
วันนี้ผมจะมาชวนคุยกันครับว่า เราต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง .. แล้วสุทธิแล้ว เราต้องจ่ายกันเท่าไร (ถ้าสามารถเคาะตัวเลขออกมาได้)
Price of Social Distancing
ราคาของการเว้นระยะทางสังคม
“ราคา” มีทั้งมิติแบบแคบ และ กว้าง เรามาดูมิติแบบแคบกันก่อน
ในมิติแบบแคบๆ เราวัดราคาออกมาเป็นวัตถุที่สังคมตกลงใช้แลกเปลี่ยนสินค้าและ บริการ นั่นก็คือ “เงินตรา” หรือ currency
เงินตรา
ในมุมมองของเงินตรานั้น ก็สามารถลงลึกไปอีกว่า “ใครจ่าย”
ใครใช้คนนั้นจ่าย
ก็มีทั้งที่จ่ายมากขึ้น และ จ่ายน้อยลง
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าอาหาร (เปิดตู้เย็นกินบ่อยขึ้น แฮ่ๆ) ค่าการสื่อสาร ค่ายาลดไขมัน เพราะกินเยอะเกิน ฯลฯ
-------------------------------------------------------
ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ
กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น
ค่าใช้จ่ายที่ลดลง
ค่าเดินทาง ค่าซักเสื้อผ้าทำงาน ค่าเครื่องสำอาง(สาวๆ) ค่าภาษีสังคม (งานแต่ง งานศพ เยี่ยมใข้ คลอดลูก ฯลฯ) ฯลฯ
สังคมเหมาจ่าย
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
เช่น เงินที่ต้องใช้เพื่อพยุงระบบเศรษฐกิจ ผ่าน กลไก องค์กร กระทรวงฯ กรมฯ ต่างๆ ค่าบำบัด น้ำเสีย คาร์บอนไดออกไซด์ (แต่ล่ะครัวเรือนใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ใช้น้ำมากขึ้น ขยะจากการบริโภคมากขึ้น) ฯลฯ
ค่าใช้จ่ายที่ลดลง
ค่าบำบัด น้ำเสีย คาร์บอนไดออกไซด์ (แต่ล่ะบริษัท โรงงาน ห้างร้าน ใช้ไฟฟ้าน้อยลง ใช้น้ำน้ำน้อยลง ขยะจาก ธุรกิจ อุตสาหกรรม การขนส่งที่ลดลง) ค่าพลังงานที่ใช้ในการขนส่ง ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุจากการเดินทาง ฯลฯ
จะเห็นว่าในมุมของสังคม ราคาของหลายๆอย่างเป็นรายการเดียวกัน เพราะค่าใช้จ่ายลดลงจากที่หนึ่ง แต่ไปเพิ่มขึ้นอีกที่หนึ่ง และ นอกจากนั้น เมื่อสาวลงไปลึกๆ สังคมจะเอาเงินมาจากไหน ถ้าไม่ใช่จากภาษีของแต่ล่ะคนในสังคม
อย่างไรก็ตาม ราคาที่ต้องจ่ายทั้งหมดที่กล่าวมานี้ (แต่ล่ะคนจ่าย สังคมจ่าย เพิ่ม หรือ ลด) ที่เป็นตัวเงิน เราสามารถคำนวนได้ โดยอาศัยสมมุติฐานชุดหนึ่ง แล้วคำนวนว่า หักลบกลบกันแล้ว สุทธินั้น สังคมต้องจ่าย หรือ สามารถประหยัด ได้เท่าใด
ราคาที่ไม่ใช่เงิน
ยังมี “ราคา” ในอีกมิติหนึ่ง ที่ไม่สามารถแทนได้ด้วย “เงิน”
อย่างที่เคยชวนคุยไปแล้วครั้งก่อนว่า มนุษย์เราไม่ได้อยู่รอด สืบพันธุ์ ได้ด้วยการบริโภคเพียง อาหาร น้ำ และ อากาศ เราบริโภคสังคมด้วย เราบริโภคความสัมพันธ์ บริโภคความเชื่อมโยง บริโภคความผูกพันธ์ … ด้วยเช่นกัน
Social Distance Starvation มนุษย์กินสังคมเป็นอาหารด้วยเหมือนกัน
Social Distance Starvation มนุษย์กินสังคมเป็นอาหารด้วยเหมือนกัน
เราหิวปฏิสัมพันธ์ หิวการสัมผัส หิวความรู้สึกเอื้ออาทร หิวที่จะรับความรู้สึกเอื้ออาทร และ หิวที่จะให้ความรู้สึกเอื้ออาทร

connected ไม่ใช่ connection เราเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยี แต่เราไม่ได้เชื่อมความสัมพันธ์กัน
เราส่งข้อความ ข้อมูล ภาพ เสียง จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แต่เราไม่สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ผ่านการเคลื่อนที่ของอิเลคตรอนในสายลวดทองแดง การเปลี่ยนแปลงสลับไปมาระหว่างสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า หรือ ความถี่ของแสงในสายเคเบิ้ลใยแก้ว
ไม่มีอะไรแทนการจับไม้จับมือ กอดคอ ตบหลัง โอบไหล่ จ้องตา โอบกอด หนุนตัก ป้อนโจ๊กร้อนๆ ปาดนิ้วกรีดป้ายเช็ดน้ำตา ร่วมรัก ฯลฯ
มนุษย์เราอยู่ไม่ได้แน่นอนถ้าขาดสิ่งเหล่านี้ไป และ สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สามารถถูกแทนได้(อย่างสมบูรณ์)ด้วยการส่งสัญญาณไฟฟ้า หรือ แสง ที่มีค่า 0 และ 1 ไปตามสื่อต่างๆ
ราคาที่มองไม่เห็น
connection คือ ราคาที่มองไม่เห็น แต่มีผลกระทบมากกว่าราคาที่คำนวนได้หน่วยเป็น เยน บาท ปอนด์ เหรียญ
ความต่างที่สำคัญของราคาในมิตินี้ กับราคาในมิติที่แทนด้วยวัตถุแลกเปลี่ยน คือ ราคาของความเชื่อมโยงกันนี้ มีได้ด้านเดียว คือ ลดลง ไม่ว่าจะมองในมุมของแต่ล่ะคนในสังคม หรือ มององค์รวมภาพใหญ่เป็นสังคม
เบื้องต้น แน่นอนว่า แรงผลักดันให้คนลงมาบนถนนประท้วง หรือ ออกมาในสื่อสังคม ให้ยกเลิก หรือ บรรเทา การเว้นระยะทางสังคมนี้ เกิดจากปัจจัยสี่แน่นอน … อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค
แต่เชื่อเถอะครับ สมมุติว่ามีสังคมหนึ่งที่สามารถให้ปัจจัยสี่แก่สมาชิกในสังคม 100% ได้นานเท่าที่ต้องรอพัฒนาวัคซีน ผมก็เชื่อว่าเมื่อถึงจุดหนึ่ง คนในสังคมนั้นก็จะประทุ ประท้วง เพื่อจะผ่อนปรนการเว้นระยะทางสังคมอยุ่ดี
นั่นคือสิ่งที่ผมเรียกว่า … ราคาของการเว้นระยะทางสังคม
คำถาม
คำถามที่เราควรจะถามสังคมของเรา คือ สังคมเรายอมจ่ายได้แค่ไหน เพื่อแลกกับความปลอดภัยจากการคุกคามของภัยจากไวรัสครั้งนี้
แน่นอนว่าจ่ายทั้งมิติของเงิน และ ความเชื่อมโยงที่คนในสังคมหิวกระหาย
ปัญหาต่อมาก็เหมือนทุกๆปัญหาเมื่อมีคนมากกว่า 1 คน มาอยู่ด้วยกันเป็นสังคม นั่นคือ แต่ล่ะคนยอมจ่ายไม่เท่ากัน ซึ่งก็นำมาซึ่งปัญหาคลาสิกที่มีคนถามไว้เมื่อเกือบร้อยปีที่แล้ว

(ส่วนตัวผมว่าไม่ใช่เมื่อเกือบร้อยปีก่อนหรอกครับ คำถามนี้น่าจะเก่าแก่พอๆกับรุ่นโสเครติส หรือ เพลโต)
บทสรุป
บทสรุปที่ไม่ใช่บทสรุปก็คือ ผมก็ไม่รู้หรอกครับ โธ่ … โสเครติส เพลโต และ จอมปราชญ์ หลายๆต่อหลายท่านยังไม่มีคำตอบ แล้วผมจะตอบได้อย่างไร 555 🙂
ผมแค่อยากจะเสนอมุมมองอีกมุมหนึ่งที่ไม่ได้วัดกันด้วย GDP ที่มีหน่วยเป็นเงินตรา เพราะในที่สุดแล้ว มนุษย์เราเป็นสัตว์โลกที่ต้องการสัมผัสจากสัตว์โลกด้วยกันเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ฟังดูน่าอนาจ และ ดูจะเป็นข้อเสียของสัตว์โลกที่ชื่อว่ามนุษย์
แต่เชื่อเถอะครับว่า นั่นคือ ความพิเศษสุดๆ ที่ทำให้มนุษย์เราเป็นมนุษย์อย่างทุกวันนี้ …
ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ
(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)
https://raka.is/r/qlzXR |
https://raka.is/r/gP7GV |
https://raka.is/r/qlzXR
https://raka.is/r/gP7GV