Covid drill Covid ERP ถึงเวลาแล้วหรือยัง ? – วงการเราถือเป็นแนวหน้าเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน เรียกว่า ตัวพ่อ ตัวแม่ เลยก็ว่าได้ พวกเราในวงการจะรู้จักคำ 2 คำนี้ดี
Drill – ในที่นี้ไม่ได้แปลว่าขุด แต่แปลว่า ฝึกซ้อม
ERP – Emergency Response Plan (แผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน)
วงการเรามีสารพัดการซ้อมเรื่องความปลอดภัย เช่น ซ้อมอพยพหนีไฟ อพยพทางการแพทย์ รับมือไต้ฝุ่น ก๊าซไฮโดรเจนซัลไซด์ แผนดินไหว ก่อการร้าย วางระเบิด ไอที ฯลฯ
Covid 19 ตระหนัก แต่อย่าตระหนก เบี้ยประกันโควิด 19 บอกอะไรเรา
Covid 19 ตระหนัก แต่อย่าตระหนก เบี้ยประกันโควิด 19 บอกอะไรเรา
Covid drill Covid ERP
ถึงเวลาแล้วหรือยัง ?
การบอกว่า บ.เรามีแล้วนะ นี่ไง แต่งตั้งทีมงานรับมือ ประชุมทีมงานฯกันทุกวัน มีแผนรองรับพร้อม … เราพร้อมค่าาาา พร้อมระดับนี้เปรียบเสมือนเรามีแผนอพยพหนีไฟพิมพ์ใส่กระดาษ เอ 4 ในแฟ้ม ซีดีรอม หรือ สมัยนี้อยู่ในระบบเมฆของบ.
แต่ไม่มีการสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้อง และ ซักซ้อมจริง
-------------------------------------------------------
ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ
กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น
ในกรณีไฟไหม้ เราก็รู้ว่า การรับมือไฟไหม้นั้น ขึ้นกับหลายๆปัจจัย เช่น ตำแหน่งที่เกิดไฟไหม้ ขนาดของไฟไหม้ สาเหตุหรือเชื้อเพลิงที่ทำให้มันเกิด ฯลฯ
แผนการรับมือ บุคคลากร สายการบังคับบัญชา ทรัพยากรสนับสนุนก็จะแตกต่างกันออกไป …
อพยพทางการแพทย์ รับมือไต้ฝุ่น ก๊าซไฮโดรเจนซัลไซด์ แผนดินไหว ฯลฯ ก็เช่นกัน … เราทราบดี
คำถามคือ โควิด 19 นี่ล่ะ บ.ไหนมีบ้างแล้ว … ถ้าโทรฯไปถามแผนกที่รับผิดชอบ ก็จะบอกว่า มีแล้วครับ มีแล้วค่ะ … ก็ตามนั้น …
แต่ถ้าถามพนักงานที่เกี่ยวข้องล่ะ พนักงานบางบ.ทราบเป็นอย่างดี แต่ไม่เคยได้ซ้อมจริง พนักงานบางบ.ไม่รู้ว่ามีด้วยซ้ำว่าแผนคืออะไร อย่าว่าแต่ซ้อมเลย
#มีแต่ไม่บอกกันก็เหมือนไม่มี
ผมไม่ได้หมายถึงมาตราการป้องกันที่รู้ๆอยู่นะครับ เช่น ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากาอนามัยเวลาไปที่ชุมชน จำกัดจำนวนคนเข้าลิฟท์ บลาๆ …
ผมหมายถึงว่า ถ้าเกิดมีผู้สงสัยว่าติดเชื้อ 1 คน ในตึกที่บ.เช่าอยู่ หรือ ในบ.เอง ระหว่างรอผลการตรวจยืนยันผู้นั้น พวกเราที่เหลือจะทำอย่างไร เริ่มค้นหาผู้เกี่ยวข้องหรือยัง หรือ รอผลยืนยัน ถ้าผลออกมายืนยันว่าติดเชื้อ จะทำไงต่อ เฉพาะคนที่ผู้ติดเชื้อติดต่อด้วย กลับบ้านทันทีไหม หรือ เหมายกชั้นไปเลย
หรือ ขึ้นกับว่าผู้ติดเชื้อทำหน้าที่อะไร เช่น หน้าที่แม่บ้านที่เดิน เช็ดล้างทำความสะอาดไปทั้งชั้น กับพนักงานไอทีที่นั่งอยู่กับโต๊ะตั้งแต่เช้ายันเย็นแถมเอาข้างกล่องมากินที่โต๊ะทำงาน การเปิดรับ(กระจาย)ความเสียง (risk exposure) ก็ไม่เท่ากัน การรับมือ (ERP) อาจจะไม่เหมือนกัน
จุดตัดสินใจ trigger point หรือ decision gate อยู่ตรงไหน ใครตัดสินใจ มี decision tree flow chart ไหม ถ้ามี แปะไว้ที่ไหน จุดไหนที่ออกนอก decision tree ต้องใช้คนมาคิดมาประชุม แล้วใครบ้างที่ต้องเข้า และ ใครนั่งหัวโต๊ะ บลาๆ … ได้สื่อสารพนักงานหรือเปล่า ที่สำคัญเหมือนรับมือไฟไหม้ คือ ซ้อมกันหรือยัง
การทำงานจากที่บ้าน ก็ใช่ว่าปุ๊บปั๊บจะทำได้เลย ก็ต้องมีพื้นฐานระบบ (infrastructure) รองรับ
สมมุติว่าพี่ไอทีบอกมีพื้นฐานระบบ (infrastructure) รองรับครับ มีค่ะ แล้วพนักงานเคยได้ซ้อมจริงผลัดแผนกกันทำงานที่บ้านสักวันหรือยัง ขนาดผมไปประชุมทางไกลกับบ.ที่ว่าพร้อมๆด้านนี้ กว่าจะเสียงขึ้นภาพขึ้น ก็หมดไปจะ 15 นาที ก็มี แถมเสียงก็ขาดๆหายๆ ภาพกับจอ PowerPoint ไม่ต้องพูดถึง … เป็นต้น
ถ้าเป็นประชุมเล็กน้อยยิบย่อย ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นประชุมสำคัญๆ ต้องตัดสินใจเร่งด่วน สำคัญๆ ติดขัดแบบนี้ก็คงไม่งาม
ยังไม่นับเรื่องการทำงานนอกชายฝั่ง บนแท่นผลิต แท่นเจาะ กลางทะเล การรับส่งผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อกลับทางเรือ หรือ ฮ. การเปลี่ยนกะ (crew change) โดยเฉพาะคนงานเข้ากะที่ไปไหนมาไหนมาก็ไม่ทราบ หน.หรือ supervisor ระดับไหน ตัดสินใจอะไรได้แค่ไหน ฯลฯ
ผมการันตีเลยว่า เกือบทุกบ.ถ้าปุ๊บปั๊บให้พนักงานปิดโน้ตบุ๊ค เอากลับไปทำงานต่อที่บ้าน งานจะชะงักงันทันที ไม่ใช่ว่าเพราะระบบการทำงานที่บ้านไม่ได้ผล แต่เพราะไม่ได้ซ้อม ไม่ได้เตรียมการรองรับ
#มีแต่ไม่ซ้อมก็เหมือนไม่มี
หลายๆครั้งที่เราตัดสินว่าอะไรบางอย่าง (ยา เครื่องจักรเครื่องมือ แผนการทำงาน ฯลฯ) ไม่ดี ไม่ได้ผล ก็เพราะเรา ใช้มันไม่เป็น ไม่ซักซ้อมการใช้ง่าย หรือ แม้แต่ไม่อ่านคู่มือ บิดกุญแจสตาร์ทเครื่องชึ่งๆเลย 555 (แต่ก็มีนะ ที่มันห่วยจริง อ่านคู่มือแล้ว ซ้อมแล้ว ก็ยังไม่ได้เรื่อง ว่าเป็นกรณีๆไป แต่อย่างน้อยก็ควรเตรียม ควรซ้อม อ่านคู่มือ ก่อนจะไปบอกว่า สิ่งนั้นขบวนการนั้น ไมไ่ด้ผล)
ข้อมูลไม่พร้อม เลยไม่สามารถตัดสินใจวางแผนอะไรได้
คุ้นๆไหมครับ เราก็เข้าอบรม สัมนากันนับไม่ถ้วน ท่านวิทยากรก็มักสอนว่า ไม่มีวันที่เราจะมีข้อมูลพร้อมหมดหรอก แต่ผู้บริหาร(ที่ดี)จะต้องตัดสินใจได้ด้วยข้อมูลที่ไม่ครบ และ รับผิดชอบกับการตัดสินใจนั้น
คิดง่ายๆว่าถ้าข้อมูลครบก็ไม่ต้องการผู้บริหารที่เก่งๆหรอก จริงไหมครับ (ฮา)
ผู้นำ
ส่วนราชการมักจะเป็นหน่วยงานที่เราภาคเอกชนคิดว่าทำอะไรตามหลังพวกเราตลอด เพื่อนผมที่อยู่ในส่วนราชการหนึ่ง(ที่เรามักจะเกี่ยวข้องด้วยช่วงต้นปี) บอกว่าสัปดาห์หน้า (สัปดาห์นี้) จะให้ข้าราชการทุกคนในแผนกลงทะเบียนประวัติการเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศย้อนหลัง 6 เดือน และ แจกแจงแผนการเดินทางล่วงหน้า 6 เดือน ใครที่แจ้งเท็จ ทราบในภายหลัง (ส่วนมากก็ฟ้องกันเองนี่แหละ เพื่อนบอก 555) จะถูกลงโทษทางวินัย โทษตามนี้ 1. 2. 3. อะไรก็ว่าไป
ผมฟังแล้วอึ้งเลยครับ … ผู้นำคือคนที่กล้าลงมือทำสิ่งที่ถูกต้องที่ควรก่อน เดี๋ยวก็คงมีผู้ตาม
การแจ้งประวัติการเดินทางต่อบ.นั้น ไม่แปลกครับ หลายๆบ.ก็ทำ แต่ที่ผมทึ่งหน่วยงานราชการนี้คือ ทำเป็นระบบในเว็บไซด์หน่วยงาน และ มีมาตราการลงดาบถ้าสตอเบอรี่ คือ (กู)เอาจริง
บ.หนึ่งที่คุยกับน้องคนหนึ่ง บ.ในวงการฯนี่แหละ ซ้อมฯให้ทำงานที่บ้านแล้ว เป็นบางวัน วนๆไปทีล่ะแผนก บ.เล็กๆ ไม่ใหญ่ไม่โตอะไร แต่ก็ต้องนับถือวิสัยทัศน์ผู้บริหารเขาล่ะ
พอสิงค์โปร์ทำอะไรได้ เราก็บอกว่า เขาทำได้ซิ ประเทศเขาเล็ก พอจีนทำได้ เราก็บอกว่า เขาทำได้ซิ ประเทศเขาใหญ่ … คุ้นไหม 555 🙂
ไหนๆก็ไหนๆ ขอต่ออีกเรื่องหนึ่ง
หลายเดือนมานี้ ผมเห็นตัวอย่างหนึ่งที่สามารถเอามาอธิบายความแตกต่างระหว่างวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมในทัศนะผมได้ค่อนข้างชัดเจน
เรื่องแรก … ชนิดของหน้ากาอนามัย
ช่วงแรกๆ สเป็คหน้ากากอนามัยจะสูงมาก ต้องแบบนั้นแบบนี้เท่านั้น แบบรองลงไป แบบผ้า การพ่นแอลกอฮอล์ การนำมาใช้ใหม่ ไม่ดีไม่ได้ ห้าม ไม่แนะนำ ไม่มีผลการวิจัยศึกษาทดลองรองรับว่าได้ผล ฯลฯ มี info graphic และ ผู้เชี่ยวชาญ ออกมาอธิบายมากมาย
นั่นคือวิทยาศาสตร์ ที่ควบคุมสภาพแวดล้อมสมบูรณ์แบบ ทรัพยากรไม่อั้น หารเลขได้มีจุดทศนิยม 20 หลัก ก็ต้องตอบ ทศนิยม 20 หลัก เอาทุกปัจจัยมาเป็นเหตุเป็นผล
พอหน้ากากอนามัยสเป็คสูงๆขาดแคลน ทุกอย่างเป็นไปได้หมด ใช้ได้หมด (เชื้อไวรัสมันก็ไม่ได้ตัวใหญ่ขึ้นนิ 555)
Some thing is better than not thing ภาษาบ้านผมบอกว่า กำขี้ดีกว่ากำตด
ไพล่ทำให้นึกถึงคลิป และ ข่าว ที่ส่งต่อกันเรื่องการพ่อแอลกอฮอล์ใส่หน้ากาอนามัย ทำให้สารกันของเหลวที่เคลือบไว้เสื่อม ไม่สารมารถกันละอองน้ำที่มีไวรัสได้ พิสูจน์โดยการพ่นแอลกอฮอล์แล้วเทน้ำใส … อืม น้ำมันก็รั่ว
แต่ก็มีคนทำอีกคลิป แล้วผมก็บ้าทำตาม (555) ทำเหมือนกัน แต่ปล่อยให้แอลกอฮอล์แห้งก่อนทดสอบ น้ำก็ไม่รั่ว ทำซ้ำได้ถึง 6 – 7 ครั้ง (พ่น ปล่อยแห้ง ทดสอบ) ก่อนน้ำจะรั่ว
นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของวิทยาศาสตร์ที่ไม่ผ่าน แต่วิศวกรรม ผ่านเพราะ 1. เวลาเราใช้ เราใช้ตอนแอลกอฮอล์แห้ง เราไม่ใช้ทั้งเปียกๆ และ 2. ในยามที่ขาดแคลน พ่น รอแห้ง แล้ววนใช้ 6 – 7 ครั้ง ก็ย่อมดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ไหนๆก็ต้องลาโรงเรียนครึ่งวัน งั้นอย่าไปโรงเรียนเลย ลามันทั้งวันเลยดีกว่า … เราคงไม่ใช้ตรรกะนี้กันใช่ไหม ไหนๆมันก็ป้องกันได้ไม่เต็มที่แล้ว อย่าไปป้องกันมันเลย
สภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้บางส่วน และ การใช้งานภายใต้ข้อจำกัด แบบนี้แหละครับ ที่ผมเรียกว่า วิศวกรรมศาสตร์ คือ นำเอาวิทยาศาสตร์มาใช้ โดยยังอยู่บนพื้นฐานความเป็นวิทยาศาสตร์ แต่ปรับให้เข้ากับสมมุติฐานของความเป็นจริงที่ไม่สมบูรณ์แบบ และ ทรัพยากรที่ไม่เหลือเฟือ
ตอนนี้ผมเริ่มเห็นบทความผู้เชี่ยวชาญ(ก็อาจะคนเดิม กลุ่มเดิม) ออกมาบอกว่า หน้ากากผ้าก็ใช้ได้ เพราะ ไม่มีผลการวิจัยทดลองรองรับว่าไม่ได้ผล
การไม่มีผลการวิจัยทดลองว่าไม่ได้ผล หรือ ได้ผล ก็สามารถเอามาเป็นสาเหตุในการเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาก็ได้ … สงสารนักวิจัยจุงเบย 555 🙂
เข้าทำนอง ตัดสินใจไปก่อนด้วยสาเหตุปัจจัยอื่นๆ แล้วตะกายเอาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ
ระยะปลอดภัยเปลี่ยน แต่พื้นฐานอันตรายทางวิทยาศาสตร์วิศวกรรมไม่เปลี่ยน
แต่บางเรื่องบางอย่าง เราก็ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย เช่น ระยะปลอดภัย (ต่อร่างกายคนต่อชั่วโมงที่สัมผัส) จากสนามไฟฟ้า และ สนามแม่เหล็ก ไม่เคยเปลี่ยน แต่กฏหมายเปลี่ยนให้ก่อสร้างที่อยู่อาศัย หรือ อื่นๆเปลี่ยน ให้ระยะปลอดภัยน้อยลง เพราะปัจจัยอื่นๆที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ เช่น เศรษฐกิจ สังคม พฤติกรรมคนเมือง ฯลฯ
อีกตัวอย่างหนึ่งที่ผมสังเกตุคือ การใช้อุปกรณ์ปล่อยคลื่นวิทยุบนเครื่องบินพานิชย์ ในสมัยแรกๆนี่คือ ห้ามเด็ดขาดทุกกรณีตลอดเวลากับเครื่องบินทุกรุ่นทุกประเภท แต่เมื่อการใช้อุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ไร้สาย เพิ่มมากขึ้นๆ จนเอาไม่อยู่ ก็ออกกฏให้ว่า ใช่ได้เมื่อเครื่องอยู่ในระดับการบินและไฟเข็มขัดที่นั่งดับลงแล้ว ทั้งๆที่เครื่องบินก็เครื่องบินลำเดิม ระบบๆการสื่อสารของเครื่องก็เดิมๆ กฏความปลอดภัยถูกเปลี่ยน ไม่ใช่เพราะเหตุผลทางความปลอดภัย แต่เป็นเหตุผลทาง เศรษฐกิจ สังคม พฤติกรรม การตลาด ฯลฯ
และอีกหลายตัวอย่างใกล้ๆตัว พวกเราลองนึกๆดูซิครับ เยอะครับ …
ขึ้นต้นเรื่องด้วยการซ้อมรับมือโควิด 19 แต่มาจบเรื่องนี้ได้ไง เอานะ อย่าคิดไรมาก ถือว่ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ
May the force be with you เอ๊ย … May the conscious be with you 🙂
โอกาสเป็น ถ้าตรวจเจอ โอกาสตรวจเจอ ถ้าเป็น เท่ากันไหม ? รู้ให้จริง
โอกาสเป็น ถ้าตรวจเจอ โอกาสตรวจเจอ ถ้าเป็น เท่ากันไหม ? รู้ให้จริง
หลายตึกหลายบ.ทำตามรูปนี้แล้ว ตึกเรา บ.เราล่ะ … (แค่ตัวอย่างนะครับ มีอีกหลายๆอย่างที่ดีๆ แบ่งปันตัวอย่างกันได้ ถึงไม่ได้ทำเป็นคนแรก แต่ถ้าดี ทำตามก็ไม่เสียหายอะไร)

ว่างๆจะเขียนเรื่องนี้ครับ … ทำงานที่บ้าน…ให้ได้งาน
https://www.prachachat.net/csr-hr/news-396699
ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ
(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)
https://raka.is/r/qlzXR |
https://raka.is/r/gP7GV |
https://raka.is/r/qlzXR
https://raka.is/r/gP7GV