Covid 19 impact on Thailand E&P industry: How to survive

• Facebook
• Twitter
• Line

Covid 19 impact on Thailand E&P industry : How to survive – เป็นไปตามกระแสปฏิบัติของอุตสาหกรรมที่ตอนนี้ผมเองก็ทำงานจากที่บ้าน (WFH) ก็เลยได้มีเวลาอ่านโน้นอ่านนี้ที่เกี่ยวกับผลกระทบโควิด 19 ที่มีต่ออุตสาหกรรมฯพวกเรา

How the Covid-19 coronavirus is affecting the offshore industry

Covid-19 Live Timeline

Newfoundland and Labrador offshore industry working to flatten COVID-19 curve

COVID-19 and the workboat industry

Covid-19 puts North Sea oil and gas in ‘paper-thin’ position

หลายๆอย่างที่พวกเราก็มักจะทราบๆดีอยู่แล้ว ผมก็จะไม่ลงรายละเอียด แต่ก็ยกมาเป็นข้อๆ สั้นๆ ทบทวนเฉยๆ แต่ประเด็นที่จะคุยกันก็คือ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมของบ้านเราและเราพอจำทำอะไรได้เพื่อช่วยตัวเองมากกว่า

ผลกระทบต่อที่อื่นคงจะไกลตัวไป แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สำคัญ สำคัญในระยะยาว คือมาถึงแน่ๆ แต่ยังพอมีเวลารับมือ แต่ผลกระทบในระยะสั้นนี่ อาจจะเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญก่อน

Covid 19 impact on Thailand E&P industry : How to survive

Covid-19 (nearly) visits Aquamarine Driller, Offshore Malaysia.

Covid-19 (nearly) visits Aquamarine Driller, Offshore Malaysia.

ผลกระทบหลัก

ความต้องการใช้พลังงานลดลง

อันนี้แหง๋ๆ เห็นชัดๆ ผลกระทบในระยะสั้นแบบจ่อปลายจมูกเลย ทุกครั้งที่มีโรคระบาด คนก็ไม่ออกไปไหน ไม่ทำกิจกรรมอะไร ก็แบบนี้แหละ ไม่ใช้พลังงาน อาชีพเราอยู่ฝั่งคนขายพลังงาน มันก็นะ กระทบเป็นของธรรมดา

คนกินไก่น้อยลง คนเลี้ยงไก่ก็เลี้ยงไก่น้อยลง ก็ซื้ออาหารไก่น้อยลง เป็นลูกโซ่กันไป เรื่องปกติ

ติดเชื้อบนแท่นขุดเจาะ

ก็นะ เห็นๆกันอยู่ โรคนี้มันมาเงียบๆ ติดเงียบๆ ไม่กระโตกกระตาก แพร่ไปเงียบๆ พอตรวจเจอก็ล้างบาง ล้างแท่นฯกันไรกัน กักตัว ส่งกลับ บลาๆ ก็ว่ากันไป กระทบกะการทำงานเราแน่ๆ งานที่ไม่จำเป็นต้องใช้คน ก็ไม่ต้องใช้ งานที่เคยใช้คนมากใช้คนให้น้อยลง เด็กใหม่มือใหม่ก็คงขาดโอกาสไปที่จะลงไปเรียนรู้งาน เป็นต้น

ในบางประเทศ คนที่จะลงไปเปลี่ยนกะบนแท่นขุดเจาะฯจะต้องกักตัวก่อนหน้า 14 วัน ให้แน่ใจว่าสะอาดหมดจดแล้วถึงค่อยได้ลงไปเปลี่ยนเพื่อน แปลว่าถ้าทำงาน 28/28 ก็ได้พักแค่ 14 เพราะอีก 14 วันก่อนลงแท่นฯจะต้องมากักตัวที่โรงแรมที่กำหนดไว้

ค่าจ่างค่าล่วงเวลา เงินตอบแทน ของ 14 วันที่ต้องมากักตัวก่อนลงเปลี่ยนกะก็ว่ากันไป เข้าใจว่าบ.น้ำมัน หรือ บ.เจ้าของคนงานก็จ่ายนั่นแหละ จะจ่ายเต็มไม่เต็มก็ไปว่ากัน

บ.ต่างๆที่มีคนอยู่บนแท่น ก็ต้องเตรียมคนที่กักตัวเอาไว้สะอาดๆเตรียมพร้อมขึ้นไปเปลี่ยนคนบนแท่นฯได้ตลอดดเวลาถ้าเผื่อพบว่ามีคนของบ.ตัวเองติดเชื้อต้องส่งกลับ เหมือนมีคนอะไหล่ที่สะอาดๆไว้คอยเปลี่ยนตลอดเวลา เป็นฝันร้ายของผู้จัดการเรื่องคนขึ้นลงแท่นเจาะเลยทีเดียวล่ะ

การเดินทางน้อยลง

ก็ทราบๆดี สายการบินหลายสาย บ.เดินรถ แม้กระทั่งแท๊กซี่ หงอยเป็นไก่ป่วยกันทั้งโลก

บ้านเราล่ะ หัวรถจักรเป็นไงบ้าง

อย่างที่ผมเปรียบเทียบไว้ว่าบ.น้ำมันเหมือนหัวจักรลากหม้อข้าวของทุกๆบ.ในห่วงโซ่อุปทาน แล้วตอนนี้หัวจักรเป็นอย่างไรบ้าง

ก่อนอื่นต้องอธิบายกลไกที่มาของรายได้ของหัวจักรในอ่าวไทยเราก่อนว่ามาจากไหน

รายได้หลักกว่า 70% ของพี่ใหญ่และเชฟรอน มาจากการขายก๊าซครับ ธรรมชาติของสูตรราคาขายก๊าซนี่จะคงที่หรือแปรผันน้อยกับราคาน้ำมัน เพราะมีผู้ซื้อแน่นอนผ่านระบบท่อ ไม่เหมือนน้ำมันที่ซื้อขายเปลี่ยนใจเปลี่ยนเจ้าได้ง่าย (spot market) เพราะน้ำมันขนย้ายง่าย แต่ก๊าซต้องใช้ท่อ มีการลงทุนล่วงหน้าเยอะ ก็ต้องมีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นปีๆ (Contract sales) เพื่อรับประกันรายได้ให้คุ้มค่ากับการลงทุน

จะว่ากระทบมันก็กระทบแหละในระยะยาว แต่ในระยะสั้นและกลาง ผู้ผลิตก๊าซในอ่าวฯยังโอเคอยู่ด้วยเหตุผลข้างต้น

อย่างไรก็ตามทั้งพี่ใหญ่ที่เชฟรอน จำเป็นต้องออกมาตราการรัดเข็มขัดเพื่อรับผลกระทบในระยะยาวด้วยการลดค่าใช้จ่ายในปีนี้ (2020) และ เลื่อนการลงทุนใหญ่ๆที่อิงราคาน้ำมันออกไป

เมื่อหัวจักรขันน๊อตค่าใช้จ่าย แน่นอนว่าก็ต้องกระทบหม้อข้าวของโบกี้ที่พ่วงๆกันอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ ก็อย่านึกว่าพวกผมที่อยู่บ.น้ำมันจะสบายนะครับ เมื่อเงินเมื่องบฯโดนตัด แต่คาดหวังเนื้องานเท่าเดิม มันก็ไม่ง่าย

ไปว่าเรื่องของเราต่อดีกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นฟังผมบ่น 555 🙂

ในทุกวิกฤติมีโอกาส

คนพื้นที่ได้เปรียบ

เพราะว่าต้องจำกัดการเดินทาง ดังนั้นคนงานที่ต้องเดินทางมาเปลี่ยนกะจากต่างประเทศอาจจะต้องยกเลิกไป ใช้แรงงานคนในพื้นที่ คนไทยเรานี่แหละ ในภาวะปรกติอาจจะไม่มีโอกาสแสดงฝีมือ

ตอนนี้ส้มหล่นแล้ว ลองชูจั๊กแร้เสนอตัวซิครับ

แต่นั่นแหละ ก็มาถึงเรื่องที่ผมพูดแล้วพูดอีกเรื่อง go extra mile

Go extra mile กับงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมนอกชายฝั่ง (offshore E&P)

Go extra mile กับงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมนอกชายฝั่ง (offshore E&P)

โอกาสมีสำหรับคนที่พร้อมกว่าเสมอ คนที่พัฒนาฝีมือ ลับดาบไว้รอแสดงผลงาน โควิดมา ก็ส้มหล่น expat บินมาไม่ได้ ก็เสร็จเรา สอยงานมันเลย 555

พอโควิดหมด มีวัคซีน เราก็ได้งาน expat มาเป็นของเราแล้ว สบายไป

แต่อย่าถึงกับใช้วิชามารเอาน้ำลาย หรือ ไปไอจามใส่หน้า เขาก็แล้วกันนะ 555 🙂

ส่วนแรงงานไร้ทักษะ หรือ กึ่งทักษะ ก็อาจจะเป็นโอกาสด้วยเช่นกัน เพราะหลายบ.ต้องเตรียมคนงานกักตัวไว้สะอาดๆเพื่อแจ๊คพ๊อตคนงานบ.ตัวเองโดนส่งกลับเพราะมีอาการต้องสงสัย

หาทักษะใหม่ๆใส่ตัว

ได้เวลา up skill แล้วครับ ว่างๆแบบนี้แหละดี มี 3 ทักษะที่แนะนำอย่างแรง คือ ภาษาจีนกลาง digital technology ที่เกี่ยวกับงานของเรา หรือ คอร์สฝึกอบรมต่างๆ

ภาษาจีนกลาง

ยามนี้ เรียนทางยูทูบดีสุด ผมมาเรียนตอนแก่ (สำหรับเรียนภาษา) ผมยังพูดได้ พาลูกค้าไปคาราโอเกะจีน เลือกเด็ก สั่งเหล้า กับแกล้ม ร้องเพลงได้ ขายหัวเจาะให้วิศวกรจีนได้ คุณก็ทำได้ครับ

digital technology ที่เกี่ยวกับงานของเรา

แนะนำกว้างๆ คุณต้องมองงานที่คุณทำอยู่ว่า digital tech มันมาช่วยงานเราได้อย่างไร อย่างเช่น คุณเป็นวิศวกรน้ำโคลน ก็ไปดูซิว่า digital tech มันมาช่วยงานน้ำโคลนได้อย่างไร SPE IADC API paper กูเกิลมาอ่านมาดู ลองเรียน python หรือ rapid miner หรือ power BI มาช่วยให้งานเร็วขึ้น เนี้ยบขึ้น ง่ายขึ้น พยากรณ์ค่าความหนืดของน้ำโคลนหลังจาก 24 ชม. ในหลุมได้ไหม ฯลฯ

ผมแก่ปูนนี้ ก็ยังไปเรียน Rapid miner เรียน Power BI เพื่อเอามาประยุกต์ใช้กับงาน อย่างน้อย ผมก็ทำการนำเสนองานได้ดีขึ้น เนี๊ยบขึ้นล่ะ

คอร์สฝึกอบรมต่างๆ

ถ้าเป็นคนขับเครน คนซ่อมเครน ก็ไปดูซิว่าในงานของเรา มีอะไรในตลาดใหม่ๆที่น่าจะเรียนรู้ได้บ้าง เครนรุ่นใหม่ แบบใหม่ ถือโอกาสไปหัดไปเรียน เอาใบรับรองการใช้งาน การทำงาน

คิดอะไรไม่ออกก็คลิ๊กรูปข้างล่าง มีลิงค์ไปที่คอร์สฝึกอบรมงานในวงการเรา (ถ้า TPTI มาเห็น ขอค่าสปอนเซอร์หน่อยก็ดีนะครับ แฮ่ๆ)

ลองเอาไปเสนอหน. เผื่อบ.มีงบเหลือ อย่าไปคิดเองเออเองว่าบ.คงไม่มีงบก็เลยไม่ถาม

การเอาคอร์สต่างๆไปเสนอขอไปเรียน ไม่มีขาดทุน มีแต่กำไรกับเสมอตัว เพราะ ถ้าบ.ไม่มีงบ อย่างน้อย เราก็ดูดีในสายตาหน.งาน ว่าเราสนใจแสวงหาความรู้เพิ่มเติมในสายงาน ถ้าพอมีงบ เราก็ได้ไปฝึกอบรม ไม่มีเสีย มีแต่ได้

ถ้าไม่กี่บาท และ ไหนๆก็ว่าง เพราะโควิด พอจ่ายเองได้ ก็จ่ายเอง อาจจะโทรฯไปขอลดราคาบ้างไรบ้าง จูงเพื่อนไปเป็นกลุ่มหลายๆคนต่อลองขอราคาพิเศษ ก็ยังได้ มีคนทำมาแล้วแล้วมาเล่าให้ฟัง พาเพื่อนไปด้วย 4 – 5 คน แล้วขอราคาพิเศษ เป็นต้น ยามนี้ TPTI ก็ต้องการรายได้เช่นกัน เพราะบ.ใหญ่ๆหลายบ.ก็ไม่ส่งคนมาฝึกอบรมเพราะโควิด ก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะขอราคาพิเศษ

เหมาเข่งเสนองาน

จังหวะนี้ พวกเราบ.น้ำมันก็โดนบีบ(ไข่)มาเหมือนกัน ตอนนี้เรามักจะรวมๆกันจัดซื้อจัดจ้างแล้วขอราคาพิเศษ ฝั่งคนขาย บ.แท่น บ. service บ.ขายสินค้าเฉพาะทาง ต้องใช้จินตนาการล่ะครับว่าจะจับมือรวมกันเสนองานอย่างไร เพื่อให้ได้ราคาที่ดีกว่าแยกกันขาย

หาพันธมิตร กอดคอกันเอาไว้ เช่น สมัยหนึ่ง ผมเป็นผจก.ภาคพื้นเอเชียบ.ขายหัวเจาะ ผมต้องจับมือกับบ.ที่ให้เช่า mud motor RSS agitator แล้วขายพ่วงไป ดีกว่า(หวังว่า)ดุ่มๆไปขายหัวเจาะเดี่ยวๆแล้วฟันกำไรเยอะๆ (ซึ่งมักจะขายไม่ได้ 555)

กับบ.ขาย casing หรือ cement accessory พวก casing centralizer casing shoe cement plug อะไรพวกนี้ ผมก็ยังกอดคอกันขายหัวเจาะพ่วงมาแล้วเลย ทั้งๆที่ดูเผินๆสินค้ามันไม่เกี่ยวกันเลย 555 🙂

ใช้จิตนาการว่าสินค้าและบริการเราไปจับมือ ไปพ่วงกับใครได้บ้าง คิดนอกกรอบเข้าไว้ กอดคอไปด้วยกัน

ในยามยากนี่แหละ เราจะเห็นว่าใครเพื่อนแท้ ใครจริงใจ

จริงทั้งในทางธุรกิจ และ ส่วนตัว

ใครยอมช่วยเรา อุดหนุนเรา เข้าใจเรา ช่วยเหลือเรายามนี้ ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้าที่ขายของให้เรา หรือ ลูกค้าที่ซื้อของเรา แม้กระทั่งเพื่อนที่เราไปขอความช่วยเหลือ

ในยามปกติ เรามองไม่เห็นหรอก เงิน และ ผลประโยชน์มันบังตา

ทุกวันนี้ผมได้พี่พ้องน้องเพื่อนที่คบกันช่วยกันในยามยาก ผันตัวจากเพื่อนทางธุรกิจมาเป็นเพื่อนกันจริงๆก็หลายคน ในทางกลับกันที่ผมลดระดับความเป็นเพื่อนลงไปก็มีเยอะเช่นกัน

ความหวังเล็กๆ

เพราะว่าผลกระทบของราคาน้ำมันต่อผู้ผลิตก๊าซอย่างอ่าวไทยเรานั้นจะไม่ทันทีทันใด จะมี lag time หรือ delay ช้ากว่าผู้ผลิตน้ำมันราวๆ 4 – 6 เดือน ขึ้นกับเงื่อนไขการปรับราคาซื้อก๊าซ

ดังนั้น ถ้าราคาน้ำมันปรับขึ้นมาพอจะโอเคภายในช่วงนี้ ก็เท่ากับว่าไม่มีผลอะไรต่อผู้ผลิตก๊าซ แต่จะไปมีผลกับอีก x % ของแหล่งรายได้ที่มาจากน้ำมันของผู้ผลิตก๊าซนั้นๆ (ถ้ามี)

ลุ้นพี่หมีขาวกับพี่อูฐนี่แหละปลายเดือนนี้ หมีขาวจะยอมจูบปากกับอูฐไหม 555 🙂

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม อยากให้พวกเรากินอยู่ใช้จ่ายอย่างพอเพียง ไม่ประมาท มีสติ มีความหวังอยู่เสมอ

แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกัน …

———————–

react sapere

บทเรียนเสียรู้บริษัทประกันโควิดเพราะความตื่นกลัว

หลังจากหายจากฝุ่นตลบตื่นตูม(ต้องใช้คำนี้เลยครับ)เรื่องประกันโควิดเนี้ย ภายหลังหายจากอาการตาหูเหลือก(แย่งกันซื้อประกันราวแจกฟรี)ก็ได้มีการจับเข่าสรุปบทเรียนค่าโง่กันมาในวงไลน์เล็กๆ ก็นำมาแบ่งปันกันได้ตามนี้ครับ ข้อมูลที่ได้ ไม่ได้ระบุนะครับว่ามาจากบ.ประกันอะไรบ้าง แต่เป็นประสบการณ์ที่พวกเราในไลน์กลุ่มพบเจอกันมาและเอามาโยนๆกองๆรวมๆกัน ดังนั้น ถ้าใครจะทำประกัน อยากให้ซักประเด็นเหล่านี้ให้สะอาดหมดจดก่อนจ่ายค่าเบี้ยประกัน ไม่งั้น เสียค่าโง่ ไม่รู้ด้วยนะครับ

1. ตระกูลเหมาจ่าย คือ ประกันแบบ คุ้มสุด ชัดเจนสุด ปัญหาน้อยที่สุด ผู้ซื้อประกันได้ประโยชน์สูงสุด แต่แน่นอนว่าบ.ประกันบางแห่งเลิกขาย เพราะผู้ซื้อคุ้ม ผู้ขายย่อมไม่คุ้ม มี 2 แบบใหญ่ๆ

1.1 เจอ จ่าย จบ ตรวจเจอ จ่ายไปเลยเป็นเงินก้อน แล้ว บ๊าย บาย ปิดจ๊อบ

1.2 ทดแทนรายได้ นอนรพ.กี่วัน วันล่ะเท่าไร สูงสุดกี่วันก็ว่าไป (แบบนี้มักไม่ขายเดี่ยว จะแทรกไปกับประกันค่ารักษาพยาบาลที่จะได้กล่าวในหัวข้อต่อไป)

ส่วนที่เบลอๆไม่ชัดเจนที่สุดคือหมวดลูกผสม หรือ เจอ จ่าย ไม่จบ มีคุ้มครองโน้นนี่ประกอบเข้ามาให้ตัดสินใจเทียบเบี้ยประกันลำบาก ซึ่งก็จะมี 2 หมวด ย่อย คือ ประกันชีวิต กับ ประกันค่ารักษาพยาบาล ไปดูกันว่า แต่ล่ะหมวดนี้มีประเด็ดให้ปวดตับกันตรงไหนบ้าง

2. ประกันแบบเสียชีวิตจ่าย มีประเด็นยุ่งยากดังนี้

2.1 จ่ายถ้าโคม่าเกิน xx ชม. (ขึ้นกับแต่ล่ะบ.) ด้วยโควิด

2.1.1 ไม่ได้บอก ตายจ่ายไหม ในกรรมธรรม์ไม่มีคำว่าตายจะจ่าย (แต่มีเซลส์ตัวแทนฯบ.หนึ่งให้ข้อมูลว่าถ้าโคม่าก็คือตายนั่นแหละ แต่คำถามคือ แล้วทำไม่ไม่มีประโยคว่า เสียชีวิตแล้วจะจ่าย หรือ บางกรรมธรรม์เขียนว่า จ่ายในกรณีภาวะความเจ็บป่วยระยะสุดท้าย ก็แปลกดีว่าทำไมไม่เขียนคำว่าเสียชีวิตไปให้มันชัดเจน)

2.1.2 ถ้าโคม่าน้อยกว่า xx ชม. หายโคม่าแล้วพิการ หรือ เสียชีวิตหลังฟื้นจากโคม่า ไม่รู้ว่าจ่ายไหม ต้องไปฟ้องร้องกัน กรรมธรรม์บางบ.ไม่ได้เขียนชัดเจนครอบคลุมถึง

2.1.3 โคม่า หรือ ตายจากโรคแทรกซ้อน หรือ จากโรคที่เป็นมาก่อน โดยโควิดทำให้แย่ลงจนตาย หรือ โคม่า ไม่จ่าย (ปกติคนที่จะตาย หรือ โคม่า ก็เพราะโรคแทรก หรือ ปัญหาสุขภาพทั้งนั้นแหละ คนแข็งแรงๆดี โอกาสโคม่า หรือ ตายน้อยมากๆ)

2.2 เวลาแพทย์ลงความเห็นการเสียชีวิต หรือ โคม่า จะลงความเห็นไปที่เหตุโดยตรง เช่น ปอดอักเสบ น้ำท่วมปอด หัวใจทำงานล้มเหลวเฉียบพลัน ติดเชื้อในกระแสเลือด แต่จะไม่ระบุชัดไปว่า ปอดอักเสบเพราะเชื้ออะไร ติดเชื้ออะไรในกระแสเลือด ทำไมหัวใจถึงทำงานล้มเหลว แม้ผลการตรวจโควิคจะพบว่าติดเชื้อโควิดจริง แต่ทำให้เป็นประเด็นในเชิงกฏหมาย(ต้องไปตีความฟ้องร้องกันต่อ) เพราะ ติดเชื้อโควิดจริง แต่ที่เสียชีวิตนั้น เพราะร่างกายอ่อนแออยู่ก่อนแล้ว หรือ โรคแทรกซ้อน บ.ประกันมีหลักฐานเยอะกว่า (และเราก็รู้กันดี) ว่า คนที่ร่างกายแข็งแรงติดเชื้อโควิดแต่ไม่เป็นอะไร หายเองได้ถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ นั่นแสดงว่าที่ตายหรือโคม่า ไม่ใช่เพราะโควิด แต่เพราะโรคแทรกซ้อน และ โรคที่เป็นก่อนหน้าต่างหาก งั้น บ.ประกันไม่จ่าย คือ บ.ประกันจะจ่ายถ้าตายหรือโคม่าต้องเป็นกรณีร่างกายแข็งแรงปกติๆไม่มีโรคแทรกไม่มีโรคเป็นมาก่อนติดเชื้อโควิดแล้วตาย (กรณีนี้น้อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)

2.3 ตอนโฆษณาบอกว่ามีโรคประจำตัวมาก่อนก็ทำประกันได้ แต่พออ่านในกรรมธรรม์ที่ส่งมาให้หลังจ่ายเบี้ย กลับบอกว่า ไม่คุ้มครอง(เสียชีวิตหรือรักษาพยาบาล)โรคที่เป็นมาก่อน ซึ่งโดยหลักการนั้น ถูกต้อง ไม่มีประกันที่ไหนรับประกันโรคที่เป็นมาก่อน แต่ปัญหาคือโควิดมันทำให้โรคที่เป็นมาก่อนทรุดและเสียชีวิตหรือต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลโรคที่เป็นมาก่อนนั้น เช่น โรคที่เป็นมาก่อนคือ ความดันสูง พอติดเชื้อโควิด ทำให้ความดันสูงจนเส้นเลือดในสมองแตกตาย แบบนี้จะตีความว่าตายเพราะโรคที่เป็นมาก่อนหรือโควิด ผมไม่มีคำตอบ แต่พอจะมองเห็นข้อโต้แย้งที่จะไม่จ่าย

3. ประกันแบบค่ารักษาพยาบาล

3.1 ไม่จ่ายค่าอาหาร ค่าห้อง จ่ายแต่ค่ายาโควิด และ หัตถการอันเนื่องจากโควิด เท่านั้น

3.2 ไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาล (ยาและอื่นๆ) อันเนื่องจาก รักษาตามอาการ โรคแทรกซ้อน และ โรคที่เป็นมาก่อน เป็นที่ทราบกันดีว่า โรคโควิดนั้นโดยมากจะรักษาให้ยาตามอาการ(ไม่จ่าย) รักษาโรคแทรกซ้อนที่โควิดทำให้แย่ลง(ไม่จ่าย) รักษาโรคที่เป็นมาก่อนแล้วโควิดทำให้แย่ลง(ไม่จ่าย)

3.3 จ่ายตามจริงนะ … รัฐประกาศปาวๆว่ารักษาฟรี ทั้งยาโควิด รักษาตามอาการ โรคแทรกซ้อน และ โรคที่เป็นมาก่อน รพ.เอกชนก็ได้รับค่ารักษาจากรัฐ ดังนั้น ผู้ป่วยแทบไม่ต้องจ่ายอะไร นอกจากค่าอาหาร ค่าห้อง (ซึ่งประกันโควิดไม่จ่ายค่าอาหาร ค่าห้อง)

3.4 ค่ารักษาพยาบาล (ถ้าจ่าย) ก็จะจ่ายเป็นหมวดย่อยๆยุบยิบ แต่ล่ะหมวดก็มีเพดาน ไม่สามารถเอาวงเงินที่เหลือจากหมวดหนึ่งไปจ่ายอีกหมวดหนึ่งได้ (ปกติของระบบประกันครับ แค่มาย้ำให้ตระหนักเท่านั้น) เช่น ค่ายา xx บาท ค่าโน้น yy บาท ค่านี่ zz บาท ถ้าค่ายาเกิน xx บาท เราก็ต้องจ่ายส่วนเกิน ไม่สามารถเอาส่วน yy zz ที่ยังใช้ไม่หมดมาจ่ายค่ายาได้ แต่ตอนโฆษณาไม่ให้รายละเอียด บอกแต่ว่า xx + yy + zz = 500000 แต่เอาเข้าจริง จ่ายเองเพียบ เพราะ บ.ประกันซอย 500000 เป็นหมวดย่อยๆมากมาย

3.5 สรุปว่า ถ้าหวังจะเอาประกันค่ารักษาพยาบาลจากบ.ประกัน เราจะเสียค่าโง่ล้วนๆ บ.ประกันแทบไม่ต้องจ่ายอะไรเลยครับ รัฐออกให้หมดจ้าถ้าโควิดจริง

4. หลายๆบ.ประกันที่

4.1 โทรฯไปสอบถามรายละเอียด เงื่อนไข ข้อยกเว้นต่างๆ ไม่มีพนักงานรับสาย สายไม่ว่าง

4.2 สายว่าง มีพนักงานรับสาย แต่ขาดความรู้ ขาดข้อมูลที่จะให้ความกระจ่าง (อาจจะเป็นเป็นเพราะสินค้าใหม่ พนักงานไม่รู้รายละเอียด) ถามไปก็ตอบว่า ไม่ทราบ ไม่ชัดเจน ไม่แน่ใจ

4.3 สายว่าง มีพนักงานรับสาย แต่ไม่รับทำประกันทางโทรศัพท์ แนะนำให้ไปทำออนไลน์

5. ในการซื้อประกัน ไม่ว่าออนไลน์ หรือ ไม่ออนไลน์ เราไม่สามารถเห็นกรรมธรรม์ก่อนจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ เป็นเรื่องตลก (แต่ปกติ เพราะเป็นแบบนี้มาชาตินึงแล้ว) เราไม่สามารถเห็นสินค้าก่อนจ่ายตังค์ แต่มีช่วงเวลาให้เรายกเลิกการซื้อได้ภายใน 15 วันหลังได้รับกรรมธรรม์ แต่ก็ไม่ได้บอกวิธีการว่ายกเลิกได้อย่างไรในกรณีซื้อออนไลน์ (ถ้าซื้อกับตัวแทนประกันนั้นยกเลิกได้ง่าย โดยโทรฯไปบอกยกเลิกกับตัวแทนแล้วให้มาเอาเล่มกรรมธรรม์คืนไปก็จบ)

6. คปภ. (คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ทำงานเชิงรับมากๆ ไล่ตามบ.ประกันไม่ทัน ไม่สามารถเข้ามาคุ้มครองดูแลความเป็นธรรมของกรมธรรม์แบบใหม่ๆที่ออกมาได้

สุดท้าย ย้ำอีกทีว่า เป็นข้อสังเกตุจากหลายๆคน หลายๆบ.ประกัน หลายแบบกรรมธรรม์ ที่เจอมาในลักษณะคล้ายคลึงกัน ก็อยากให้เรียนรู้ไว้เป็นรายการที่ต้องตรวจสอบทำความเข้าใจก็แล้วกันว่า ก่อนจะซื้อประกันโควิด ให้พิจารณาประเด็นเหล่านี้

• Facebook
• Twitter
• Line