Rig Selection จะเลือกขนาดแท่นเจาะอย่างไรดี ต้องเอาอะไรมาคิดคำนวณบ้าง … วันนี้จะมาคุยกันเรื่องหมูๆนิดนึงว่าจะคำนวนหาขนาดแท่นขุดอย่างไร
Rig Selection
จะเลือกขนาดแท่นเจาะอย่างไรดี ต้องเอาอะไรมาคิดคำนวณบ้าง
หลักการมันก็เหมือนเราจะเลือกเครื่องจักรเครื่องยนต์อะไรสักอย่าง เราก็ต้องรู้ว่ามันให้กำลังเราได้เท่าไร เหมาะกับงานเราไหม เอาตัวอย่างง่ายๆแบบฟิสิกส์เด็กม.ปลายก่อนเลย เช่น เราจะขนของหนัก 10 ตัน จากจุด A ไป จุด B ซึ่งห่างกัน 100 กม. ภายใน 2 ชม. โดยรถวิ่งเที่ยวเดียว รถต้องมีกำลังอย่างน้อยเท่าไร กี่แรงม้า
กำลัง (แรงม้า) = แรง (นิวตัน) x ความเร็ว (เมตรต่อวินาที) / 746
ความเร็ว = (100 x 1000) / (2 x 60 x 60) = 13.9 เมตรต่อวินาที m/s
ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล
แรง = สัมประสิทธิ์แรงเสียทานจลน์ x มวล x ค่า g = 0.3 x (10×1000) x 9.81 = 29430 นิวตัน
กำลัง = 13.9 x 29430 / 746 = 548 แรงม้า พอรู้กำลังเครื่องยนต์ฺ เราก็ไปหารถบรรทุกขนาดนั้นๆมา
แท่นเจาะก็เหมือนกัน ผมจะยกตัวอย่างแบบง่ายๆก่อนนะครับ ให้เห็นภาพเป็นไอเดียกว้างๆก่อน แท่นขุดเจาะฯใช้พลังงานหลักๆใน 3 ระบบ
- ระบบหมุนเวียนน้ำโคลน (Circulating system) ซึ่งก็คือกำลังของมอเตอร์ปั๊มน้ำโคลนนั่นแหละ เรียกสั้นๆว่า ปั๊ม นะครับ
- ระบบกว้าน (Drawwork system) หรือ แรงดึงท่อต่างๆขึ้นจากหลุม ซึ่งก็คือกำลังของมอเตอร์ที่จะใช้ขับกว้านดึงท่อขึ้นจากหลุม เรียกสั้นๆว่า ดึง นะครับ
- ระบบหมุนก้านเจาะ (Rotary system หรือ Top drive system) ซึ่งก็คือกำลังของมอเตอร์หมุนก้านเจาะ เรียกสั้นๆว่า หมุน นะครับ
จะสังเกตุว่าทั้ง 3 ระบบใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหมดเลย ในกิจกรรมการเจาะเนี้ย บางทีเราก็ไม่ได้ใช้ 3 ระบบพร้อมกัน แต่บางทีเราก็ใช้พร้อมกัน มาดูกันคร่าวๆดีกว่าว่ามีกี่กรณี
-------------------------------------------------------
ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ
กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น
- หย่อนก้านเจาะลง ใช้ ดึง(หย่อน)
- ขุด ใช้ ปั๊ม กับ หมุน
- ดึงก้านเจาะขึ้น มี 3 วิธีย่อยๆ
- ดึงเฉยๆ ใช้ ดึง
- ดึงไปด้วยปั๊มไปด้วย ใช้ ดึง กับ ปั๊ม
- Back ream คือ ดึง ปั๊ม และ หมุน
- หย่อนท่อกรุลง ใช้ ดึง(หย่อน)
- ดึงท่อกรุขึ้น ใช้ ดึง (ในกรณีที่หย่อนลงไปแล้วเกิดปัญหาที่ก้นหลุม จำเป็นต้องดึงขั้นมาแก้ปัญหา)
ปกติแล้ว ก้านเจาะจะเบากว่าท่อกรุครับ ดังนั้นดูคร่าวๆ จะเห็นว่ากรณีที่ใช้พลังงานสูสีกันที่สุดคือ ดึงก้านเจาะขึ้น, back ream กับ ดึงท่อกรุขึ้น งั้นเรามาว่ากันไปทีล่ะระบบ
ระบบหมุนเวียนน้ำโคลน
ใช้สูตรฟิสิกส์เบื้องต้นได้เลยครับ ก็ อัตราการไหลคูณแรงดันนั่นแหละครับ จิ๊บๆเบสิกๆ ผมจะไม่อธิบายที่มาของสูตรนะครับ มันก็คือกฏของปาสคาลนั่นแหละครับ อัตราการไหลคูรความดัน แค่เปลี่ยนหน่วยไปมาเท่านั้น
(อัตราการไหลสูงสุดทึ่คาดว่าจะใช้(แกลลอนต่อนาที) x แรงดันสูงสุดที่คาดว่าจะใช้ (ปอน์ดต่อตารางนิ้ว) / 1747) / ประสิทธิภาพปั๊ม (0.803)
ผลลัพธ์ หน่วยเป็น แรงม้า
เช่น (700 gpm x 2500 psi / 1747) / 0.803 = 1271 แรงม้า – (1)
เหลือ L สองชุด M 1 ชุด นะคร๊าบ
ระบบกว้าน
ใช้สูตรง่ายๆทางฟิสิกส์ม.ปลายอีก ผมจะไม่อธิบายที่มาของสูตรนะครับ มันก็คือกฏของนิวตันนั่นแหละครับ แรงคูณความเร็ว แค่เปลี่ยนหน่วยไปมาเท่านั้น
แรงดึง (ปอนด์) x ความเร็วในการดึง (ฟุตต่อนาที) / 33000 / ประสิทธิภาพของระบบ (0.65)
การใช้กว้านเนี่ยมี 3 กรณี อย่างที่อธิบายไปแล้ว ทวนอีกที 1. ดึงก้านเจาะขึ้นจากก้นหลุมตามปกติ 2. ดึงก้านเจาะขึ้นจากก้นหลุมขณะที่หมุนก้านเจาะและปั๊มน้ำโคลนไปด้วย (back reaming) และ 3. ดึงท่อกรุจากก้นหลุม โดยทั้ง 3 กรณีจะต้องคิดกรณีที่ใช้กำลังมากที่สุดในแต่ล่ะกรณี ซึ่งวิศวกรขุดเจาะอย่างพวกผมจะต้องคำนวนได้ ก็ฟิสิกส์ธรรมดาๆนี่แหละครับ
ผมจะลองๆสมมติตัวเลขใกล้เคียงงานจริงใส่ในสมการในแต่ล่ะกรณี
- ดึงก้านเจาะขึ้นแบบปกติ 200,000 x 80 / 33000 / 0.65 = 747 แรงม้า – (2.1)
- Back reaming 200,000 x 20 / 33000 / 0.65 = 187 แรงม้า – (2.2)
- ดึงท่อกรุจากก้นหลุม 400,000 x 50 / 33000 / 0.65 = 934 แรงม้า – (2.3)
สังเกตุนะครับว่า ก้านเจาะ (200,000 ปอนด์) เบากว่า ท่อกรุ (400,000 ปอนด์) อันนี้สุทธิแล้วนะครับ คือคิดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (drag หรือ friction) กับค่าการพยุงนน.ในน้ำโคลน(buoyancy effect)แล้ว
ระบบหมุนก้านเจาะ
แรงบิด (ฟุตปอนด์) x รอบต่อนาที / 5252 / ประสิทธิภาพของมอเตอร์ (0.96)
หาบ้านให้น้องหน่อยครับ :)
ขาวจั๊วะ กอดได้ อิงได้ วางประดับได้
ปาหัวคนข้างๆก็ได้ (เวลาใช้ให้ไปล้างจานแล้วไม่ยอมไป)
วิศวกรขุดเจาะอย่างกระผมก็คิดกรณีที่สูงสุดอีกว่า ถ้าสุดๆแล้วต้องใช้แรงบิดเท่าไร รอบหมุนเท่าไร
ในที่นี้ผมสมมติตัวเลขที่ใกล้เคียงการใช้งานจริงที่ผ่านมาใส่เข้าไป 17,000 x 120 / 5252 / 0.96 = 405 แรงม้า – (3)
คราวนี้เราก็มาดูว่า กรณีที่แย่ที่สุด (ใช้พลังงานมากที่สุด) คือกรณีไหน
- ดึงก้านเจาะขึ้นแบบปกติ คือ กรณี 2.1 : 747 แรงม้า (ดึงเฉยๆ ไม่ปั๊มน้ำโคลน ไม่หมุนก้าน)
- Back reaming คือ กรณี 1 + 2.2 + 3 : 1271 + 187 + 405 = 1862 แรงม้า (ปั๊มน้ำโคลน + ดึงก้านเจาะ + หมุนก้านเจาะ)
- ดึงท่อกรุจากก้นหลุม คือ กรณี 3 : 934 แรงม้า (ดึงเฉยๆ ไม่ปั๊มน้ำโคลน ไม่หมุนท่อกรุ)
จะเห็นว่ากรณีที่ใช้พลังงานมากที่สุดคือ back ream ใช้ 1862 แรงม้า เผื่อเหลือเผื่อขาดอีก 10% (ค่าไฟเครน ความร้อน ความเย็น แสงสว่าง ส่วนพักอาศัย ฯลฯ) ก็ 1862 x 1.1 = 2048 แรงม้า เราก็ไปเรียกบ.ที่ให้เช่าแท่นมาดูว่าแท่นที่มีให้เช่าน่ะ กำลังอย่างน้อยต้อง 2048 แรงม้า หย่อนได้เกินได้นิดหน่อย
นี่เอาแบบคร่าวๆนะครับ ในการทำงานจริงวิศวกรขุดเจาะจะต้องคำนวนออกมาเป็นแต่ล่ะขั้นตอนการขุดเลยว่า กรณีต่างๆที่ใช้พลังงานมากสุดเป็นเท่าไร ผมก็พูดให้มันดูขลังไปงั้น จริงๆเราก็ใช้เครื่องมือที่เบสิกครับ excel sheet นี่แหละครับ 555 🙂 ก็ผูกสูตรไว้ทีเดียว ปรับเปลี่ยนนิดหน่อย แล้วก็ใช้กันมารุ่นต่อรุ่น แต่การที่จะเอา excel เขามาใช้ก็ต้องเข้าใจสมมติฐานที่มาที่ไปของแต่ล่ะจุดที่เขาทำเอาไว้ โดยมากตอนที่เราไปรับ excel sheet เขามา (หรือ เราเขียนเอง) เราก็ต้องไปไล่สูตร ทำความเข้าใจที่มาที่ไป ซึ่งไม่ยากครับ เพราะเราเข้าใจหลักการฟิสิกส์ของมันอยู่แล้ว
พอบ.แท่นเสนอให้แท่นเจาะฯมาให้เช่า ไม่ใช่ว่าได้กำลังรวมทุกระบบตามที่ต้องการแล้วจะใช้ได้ เราก็ต้องไปดูให้ละเอียดอีกนิดว่า
- แต่ล่ะระบบนั้นมันรับภาระกำลังสูงสุดแบบแยกส่วนได้ไหม (ระบบน้ำโคลน ระบบกว้าน ระบบหมุนก้าน) เพราะบางทีรวมพลังงานแล้วมันพอ แต่พอแยกทีล่ะส่วน อ้าว ไม่พอซะงั้น แบบนี้ก็จบกัน โดยมากๆไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่ก็กันเหนียว เดี๋ยวจะตายน้ำตื้นเอา ขายขี้หน้าเสียยี่ห้อเปล่าๆ
- ตัวโครงสร้าง (derrick) รับแรงดึงกรณีสูงสุดได้ไหม (โดยมากจะกรณีดึงท่อกรุ เพราะท่อกรุมันหนักกว่าก้านเจาะ)
- ตัวฐานแท่น (substructure) รับน้ำหนักสูงสุดได้ไหม (แรงดึงสูงสุดที่ derrick รับได้ + น้ำหนักท่อที่วางพักไว้ (rack back))
เอาล่ะครับ พอหอมปากหอมคอนะ อธิบายมากไปกว่านี้ พวกคุณก็จะรู้เท่าผม เดี๋ยวผมจะตกงาน ขอกั๊กไว้บ้าง 555 … ตอนนี้เชื่อผมหรือยังครับว่า เป็นวิศวกรขุดเจาะเนี้ย ใช้ความรู้แค่ฟิสิกส์ม.ปลายจริงๆ ส่วนที่ผมกั๊กไว้ก็ไม่เกินฟิสิกส์ม.ปลายครับ แค่คำนวน แรง ความดัน นน. ปริมาตร ความหนาแน่น อัตราการไหล แค่เนี้ย พูดง่ายๆ แม่นๆฟิสิกส์เรื่องแรงของนิวตัน กับ กฏความดันแรงดันของปาสคาล แค่นี้ก็เป็น วิศวกรขุดเจาะได้แล้วครับ
ปล. แต่ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มก็ถามมาได้นะครับ ยินดีให้รายละเอียดแบบสุดๆ (ถ้าไม่เอียนไปเสียก่อน) จริงๆมันก็แค่ฟิสิส์ม.ปลายแต่ผมแค่ไม่อยากเอามาใส่ในนี้ให้มันยากและยาวไปกว่านี้ เดี๋ยวคนทั่วๆไปอ่านแล้วจะหลับไปก่อนอ่านจบ
=======================================
★Rig Sizing Calculations for rig selection ★
➽ Derrick Static load
– By Selecting the heaviest HKLD which is usually the 9 5/8″ CSG + Drill string racked on derrick (Dry Weight) + Over Pull margin
☆ Ex. 500 KLB (9 5/8″ CSG) + 300 KLB (Drill String Dry Weight) + 100 KLB (Over pull Margin) = 900 KLB
☆ Check the Max. load the derrick can bear, also over pull margin varies from a company to another.
➽ Mud pump calculation
– Using Equation (GPM X SPP)/ 1,714) with Efficiency = 0.803
☆ Ex. Drilling with 700 GPM @ 2,500 Psi Stand pipe pressure ➜ (700*2,500/1,714)/0.803 = 1,271 HP ➊
➽ Drawwork
– Using equation (Drill string Hook Load x Tripping speed)/ 33,000) with Efficiency 0.649
– Using 80 ft/Min tripping speed for drill string
– Using 20 ft/Min While back ream
– Using equation (Casing string Hook Load x Tripping speed)/ 33,000) with Efficiency 0.649
– Using 50 Ft/min RIH speed for Casing
☆ DW power for tripping : = 200,000 Lb (Drill string bouyant weight) * 80 FPS / 33,000 / 0.649 = 747 HP
☆ DW power for Backream : = 200,000 Lb (Drill string bouyant weight) * 20 FPS / 33,000 / 0.649 = 187 HP ➋
☆ DW power for running Casing : = 400,000 Lb (Casing bouyant weight* 50 FPS / 33,000 / 0.649 = 934 HP
➽ Top drive
– Use Equation (TQ X RPM/5,252) with Efficiency 0.96
– RPM depends on the BHA type
– Expected torque from simulations
☆ Ex. (17,000 ft.lb torque x 120 RPM ) 5,252 / 0.96 = 405 HP ➌
★★★ Total power Required★★★
★★★ Multiply all the result HP for each Equipment by 1.1 : 1.25 Safety factor
– By Estimating the maximum Expected power for each section and Select the Higher one:
– Usually backreaming is the worst case using (Rotating, Circulating & applying overpull, so add ➊ + ➋ + ➌ = 1,862 HP, so have to check that the rig engines can supply this combined power, all at the same time and for extended periods of operating time.
– Check the maximum power for each tool ( TDS, DW, Mud pumps,…) if it exceeds its dedicated power limitations.
– Check the maximum casing string weight to be run if exceeds the maximum derrick load.
– Also check that mud pumps can handle liner sizes that will deliver the indicated GPM.
Recta sapere
ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ
(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)
https://raka.is/r/qlzXR | https://raka.is/r/gP7GV |