Oil field resume EP1 เขียนอย่างไร เทคนิค และ ตัวช่วย

• Facebook
• Twitter
• Line

Oil field resume EP1 เขียนอย่างไร เทคนิค และ ตัวช่วย – จำได้ว่าเคยเอาลิงค์เรื่องนี้มาฝากจาก https://www.drillingformulas.com/

ที่รวมไว้มี 4 ตอน Oil Field Resume by DrillingFormula ของมันต้องรู้ ของมันต้องเป็น 

Oil Field Resume by DrillingFormula ของมันต้องรู้ ของมันต้องเป็น 🙂

 

พูดตรงๆ ผมก็เพิ่งได้ว่างอ่านเมื่อไม่นานมานี้ สรุปว่า ตอนแรกในนั้นเป็นอารัมภบทที่รู้ๆกันอยู่่ ไม่ได้มีอะไรใหม่ จะมีอะไรน่าอ่านก็ตอน 2, 3 และ 4 แล้วมันก็เป็นภาษาอังกฤษ ผมอ่านแล้วบางอย่างก็ อืม … ไม่น่าจะใช้ได้ถ้าสมัครงานกับบ.ในวงการเราที่เป็นบ.ไทยๆ หรือ บ.ต่างชาติแต่คนที่ทำหน้าที่จัดสรรจัดหามีกรอบความคิดแบบไทยๆ

ผมเลยคิดว่าน่าจะเอาตอนที่ 2, 3 และ 4 มาย่อยออกเป็นเรื่องๆ โดยจะไม่แปลนะครับ แต่จะคัดเอาเกร็ดเล็กน้อยที่พอจะเอามาใช้กันได้ สรุปออกมาสั้นๆ (ที่นอกเหนือจากที่ผมเคยแนะนำไปแล้วนะครับ)

CV and cover letter เพิ่มโอกาสเรียกสัมภาษณ์ด้วย จดหมายสมัครงาน และ CV

อยากให้ไปอ่านตอนเดิมในลิงค์ข้างบนก่อน เพราะว่ามีหลายเรื่องที่ซ้ำ ผมจะข้ามไป จะเอาแต่เรื่องใหม่มาแนะนำกันเท่านั้น

ส่วนใครอยากอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษเพื่อความครบถ้วนก็คลิ๊กที่รูปภาพข้างบนได้ครับ

ส่วนข้างล่างเป็นลิงค์ที่น่าจะเกี่ยวข้องในมวดนี้ ว่างๆค่อยอ่านก็ได้ เห็นว่าอยู่ในหมวดเดียวกันก็เลยเอามาแปะไว้ จะได้หาง่ายๆ

ถาวร vs ยืดหยุ่น และ “ดีไหม” – “อย่างไรดีกว่ากัน” … ตอบให้หล่อ ตอบให้สวย

สำนวน ประโยค ภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในการสอบสัมภาษณ์วิศวกรสนาม

5 นาทีทอง … จบการสัมภาษณ์อย่างไรให้ประทับใจ และ มีลุ้น

คำถามที่ควรจะถามเมื่อถูกสัมภาษณ์งาน

ปฏิบัติการจิตวิทยา ในการสัมภาษณ์งานวิศวกรสนาม รู้ไว้ใช่ว่าเผื่อเจอะเจอ

ฟิสิกส์ และ เคมี เด็กม.ปลาย ที่ผมชอบใช้สัมภาษณ์งานวิศวกรสนาม

วิศวกรสนาม Field Engineer สัมภาษณ์อะไรกัน ตอบอย่างไรให้โดนใจ

ไปกันครับ เข้าเรื่องๆ

Oil field resume EP1

เขียนอย่างไร เทคนิค และ ตัวช่วย

Objective

หัวข้อนี้สำคัญมากครับ เคยพูดแล้ว ขอพูดซ้ำ เพราะสำคัญ แล้วก็ยังเขียนผิดมาให้ผมให้ความเห็นอยู่บ่อยๆ ทั้งๆที่บอกว่าให้ไปอ่าน CV and cover letter เพิ่มโอกาสเรียกสัมภาษณ์ด้วย จดหมายสมัครงาน และ CV มาก่อน

เทคนิคและตัวช่วย  คือ ใช่ชื่อตำแหน่งให้ตรง อย่าเขียนครอบจักรวาล เพราะว่า ต่างบ.เรียกต่างกัน เช่น

company man กับ DSM

safety coordinator, safety officer, HSE supervisor, HSE coordinator ฯลฯ

crane supervisor, crane operator

และ อื่นๆอีกมาก อย่าไปคิดว่าคนรับสมัครงานเขาจะเดาได้ว่ามันก็งานเดียวกัน เขาไม่เดาหรอก เขาทำงานอย่างนั้นของเขามาเป็นปีๆ เขาก็มีความคุ้นเคยศัพท์แสงของเขา เราต้องสื่อสารเองให้เข้าหัวเขาได้เร็วและง่ายที่สุด

จริงๆมันก็งานไม่ต่างกันมากมายอะไรหรอก แต่ว่า แต่ล่ะบ.เรียกชื่อตำแหน่งต่างกัน

แล้วจะรู้ได้ไง ก็ลอกเอาจากประกาศที่บ.นั้นๆประกาศนั่นแหละ ชัวร์ หรือ ถามจากแหล่งข่าวที่คาบมาบอกเราให้แน่ชัดว่า เฮ้ย ตกลงที่พี่มาบอกผมเนี้ย บ.นั้นมีใช้มันชื่อตำแหน่งอะไรครับ

You want to understand exactly which qualities are needed to be the right candidate for this job.

ตอนใส่หัวข้อคุณสมบัติ (Qualification) ประสบการณ์ (past experience) หรือ ผลงานความสำเร็จที่เกี่ยวข้อง เช่น รางวัล หรือ ตีพิมพ์วารสาร ไม่ใช่ใส่ไปทั้งหมด ใส่เท่าที่เกี่ยวกับสิ่งที่บ.นั้นต้องการ

แล้วจะรู้ได้ไงว่าบ.ต้องการอะไร

เทคนิคและตัวช่วย ก็ไปดูที่ qualification ที่บ.นั้นลงประกาศ ซึ่งส่วนมากจะมีบอกไว้ หรือไม่ก็ค้นๆดูจากเว็บไซด์บ.นั้นๆ กูเกิลเอาก็ได้ เช่น radio officer, offshore HSE coordinator ฯลฯ ดูหลายๆในเว็บไซด์หางานที่ส่วนมากมักจะมีคุณสมบัติที่ต้องการ แล้วคัดกรองเอามาเเฉพาะคุณสมบัติที่เหมือนๆกัน ส่วนคุณสมบัติที่เฉพาะตัวเฉพาะงานของบ.นั้นๆก็เอาออกไป

เช่น ถ้าคุณสมบัติที่บ.ต้องการคือ จบ.ป ตรี เกรด 3.0 ขึ้นไป ประสบการณ์ 4 ปี พอเราจะใส่ในหัวข้อคุณสมบัติ เราก็ลอกใส่ไปเลย ให้อย่างน้อยเท่ากับหรือมากกว่าที่บ.ต้องการ แต่ต้องเป็นความจริงนะ รางวัลการแข่งขัน หรือ ความสำเร็จต่างๆก็เช่นกัน เอาที่เกี่ยว ไม่เกี่ยวก็อย่าไปใส่ เช่น สมัครงานน้ำโคลน ก็ไม่ต้องไปบอกว่าคิดสูตรซีเมนต์ใหม่ได้ หรือ ชนะการแข่งขันประกวดหุ่นยนต์ เป็นต้น

เขียนอย่างไรให้สะดุดตา

เทคนิคและตัวช่วย

ใช้คำที่มีพลัง อ่านแล้วเด่นขึ้นมา เช่น ผลกระทบ ก็เลือกใช้คำว่า impact แทนคำว่า affect diligent แปลว่าขยันขันแข็ง อ่านแล้วก็งั้นๆ ใช้คำว่า energetic เต็มไปด้วยพลังงาน และ มีชีวิตชีวา (ในการทำงาน)

ความมุ่งมั่น ก็ใช้คำว่า determination หรือ assertiveness รู้สึกเด่นและแรงกว่า objective oriented หรือ fullfil requirement

ผมคงยกตัวอย่างได้ไม่หมด ถ้าไม่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ ผมคิดว่าอาจจะต้องมีตัวช่วย เพื่อน แฟน ครู ฯลฯ เปิดดิกชั่นนารี่ หาศัพท์ที่ความหมายเหมือน คำคล้าย ดูตัวอย่างประโยค แล้ว ดัดแปลงเอา

คนที่อ่านจะรู้สึกสะดุด และ รู้สึกว่า น่าค้นหา น่าเรียกมาคุยแบบเห็นหน้า ดู resume มีน้ำหนัก และ มืออาชีพ

ในหัวข้อ ความสำเร็จ (acccomplishment)

เทคนิคและตัวช่วย

อย่าอาย คนไทยเรามักติดนิสัยถ่อมตัว อายไม่บอกใครว่าเรามีดีอะไร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีในการอยู่ในสังคมแบบไทยๆที่มีระบบอุปถัมภ์ ระบบอาวุโส บลาๆ เป็นแกน แต่ไม่ใช่ในกรณีเขียน resume

บอกไปให้ ชัด ตรง มีหลักฐาน ตัวเลขประกอบ และ เลือกเอาที่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัคร เช่น สมัครช่างกล (mechanic) ถ้าเคยได้รางวัลแข่งขันของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ก็ใส่ไป ไม่ได้รางวัล แต่เข้ารอบสอง ก็ใส่ไป

ส่วนหลักฐาน ใบประกาศโน้นนั่นนี่ เอาไปไว้ในใบแนบเสริม (appendix)

งานประจำหน้าที่รับผิดชอบของงานเดิม งานก่อนหน้า ก็ไม่ต้องใส่ให้รกหัวข้อนี้ หัวข้อนี้มีไว้อวดของดีเท่านั้น

งานประจำหน้าที่รับผิดชอบของงานเดิม งานก่อนหน้า เอาไปไว้ในใบแนบเสริม (appendix)

สั้น กระชับ ไม่ให้ข้อมูลซ้ำซ้อน ไม่ใช้คำซ้ำๆ

ผมเห็นบ่อยเหมือนกันครับ อะไรทำนองนี้ คงไปให้อ.ภาษาอังกฤษเขียนมาให้ ประโยคซ้อนประโยค อ่านแล้วต้องตีความว่า คำไหนเป็นประธานของประโยคหลัก คำกริยาอยู่ไหน มีประโยคลูกซ้อนอีกต่างหาก

คำว่า ดี เร็ว มีประสิทธิภาพ ก็มีหลายคำ ไม่ใช่มีแค่ good fast และ efffective 3 คำในภาษาอังกฤษ

Tense ก็ใช้ 3 tense ก็พอ คือ ปัจจุบัน (present) อดีตที่จบไปแล้ว (past) อดีตที่ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน (present perfect) ไม่ต้องใช้จนครบทุก tense ตามตำราไวยากรณ์อังกฤษ

ตัวอย่างไม่ต้องเยอะ

ถ้าตัวอย่างนั้นอธิบายความสามารถเดียวกัน ยกมาอย่างมากสุดแค่ 2 ตัวอย่าง ก็พอ เช่น ซ่อมใหญ่ (overhaul)เครน 10 ตันได้ กับเคย decomm crane ที่ท่าเรือสิงค์โปร์ ก็ยกตัวอย่างงานชิ้นโบว์แดงสักงาน 1 งานก็พอ ถ้าอยากอวดเยอะ เอาไปไว้ในใบแนบเสริม (appendix)

ในหนึ่งย่อหน้า จัดหนักประเด็นเดียวพอ

เช่น ในหัวข้อประสบการณ์ ย่อหน้าหนึ่ง ก็เอาที่เด็ดๆ เรื่องเดียว อย่าเอาประสบการณ์ 2 เรื่องมาไว้ย่อหน้าเดียวกัน เช่น จะบอกว่าเคยซ่อมใหญ่ (Overhaul)เครน 10 ตัน เสร็จใน 5 วัน ก็อย่าเอาเรื่อง commissioning เครน นอกชายฝั่งเวียดนามตอนคลื่นสูง 2 เมตร มาใส่ในย่อหน่าเดียวกัน ขึ้นย่อหน้า หรือ หัวข้อใหม่เลยดีกว่า

ใช้กระดาษ และ เครื่องพิมพ์ที่ดีมีคุณภาพ

ไม่ต้องแพง แต่อย่างน้อยไม่ใช่กระดาษบางแล้วพิมพ์ด้วย ink jet ชื้นหน่อย ก็เลอะเปื้อน อะไรเงี้ย ผมว่ากระดาษขาวเอสี่เนื้อหนากว่าที่ถ่ายเอกสารกันสักเกรดนึงก็โอแล้ว

ใช้คำที่แสดงความแน่วแน่ มั่นคง แน่ใจ มั่นใจ

เวลาพูดถึงของดี ความสำเร็จ ประสบการณ์เด่นๆ พูดง่ายๆ ตอนจะขายของน่ะ อย่ากลุ่มคำที่แสดงความไม่แน่นอน เช่น may, may be, probably, likely, seemingly, possibly, generally ฯลฯ

แต่ก็อย่าสุดโต่ง ใช้คำที่แสดงความมั่นใจทุกประโยค มันก็เฝือ เช่น certainly, surely, definitely, firmly ฯลฯ จัดเต็มทุกประโยค นั่นก็เกินไป เอาแต่พอดีๆ

ใช้ professional แทนคำว่า work หรือ employment

ลองเอาไปใช้ดู ผมลองใช้เองแล้ว อืม ดู resume ผมหล่อขึ้นจมเลย 555

เลือกที่จะเน้น

ถูกทุกข้อ ขึ้นกับว่าคุณอยากให้อะไรฝังหัวคนอ่าน หรือ จะป้ายยาอะไรคนอ่าน เป็นอันดับแรก และ ลำดับรองๆลงไป

Shell Exploration and Production, Ltd. – Logistic supervisor, Myanmar

หรือ

Logistic supervisor, Myanmar – Shell Exploration and Production, Ltd.,

หรือ

Myanmar, Shell Exploration and Production, Ltd., Logistic supervisor

บางทีเราอาจจะต้องการอวด หรือ ป้ายยาคนอ่านว่า เราเคยทำงานที่ทุรกันดารห่างไกลฐานสนับสนุน ถ้าตำแหน่งที่บ.ที่เรากำลังจะสมัคร หาคนที่จะไปทำงานที่ห่างไกล

ถ้าความสำเร็จของเราโด่ดเด่นมากๆ อย่าเอาไปรวม แยกหัวข้อใหม่เลย

ตามนั้นเลย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับงานที่จะสมัครแบบจังๆ เช่น สมัครเป็นวิศวกรน้ำโคลน แล้วเคยคิดสูตรน้ำโคลนใหม่ แก้ปัญหาให้ลูกค้าสำเร็จ แล้ว เขียนเป็นกรณีศึกษาได้ลงตีพิมพ์ + ได้ไปนำเสนอในเวทีสำคัญๆของวงการฯ แบบนี้ต้องจัดไป หัวข้อหนึ่งต่างหาก อาจจะตั้งชื่อว่า Outstanding professional achievement เป็นต้น

บุคคลอ้างอิง (Reference)

จะใส่ไป หรือ จะให้เมื่อขอมาก็ได้ แต่ถ้าบอกไปว่า จะให้เมื่อขอมา ก็ควรเตรียมไว้ให้พร้อม โดยเฉพาะสมัยนี้ ใช้อีเมล์กัน ขอมาปุ๊บ แนบส่งให้ปั๊บ ไม่ใช่เขาเมล์ หรือ ไลน์ขอมา แล้วเงียบไป 2 วัน ค่อยส่ง แบบนี้มันไม่โออ่ะ มันแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมแบบสุดๆเลย

ส่งท้าย

เอาล่ะครับ EP1 ก็ราวๆนี้ ผมย่อๆย่อยๆกรองๆมานะครับ ต้นฉบับน้ำเยอะ และ ก็ซ้ำกับที่ผมเคยเล่าเขียนถ่ายทอดแบ่งปันไปแล้ว ตอนต่อไปจะพูดถึง resume แบบต่างๆ ว่ามีกี่แบบ แต่ล่ะแบบเป็นอย่างไร ดีไม่ดีกับการใช้งานแบบไหน

Oil field resume EP1 เขียนอย่างไร เทคนิค และ ตัวช่วย

Oil field resume EP2 Resume 3 แบบ แบบไหนควรใช้เมื่อไร

• Facebook
• Twitter
• Line