บริษัทส่องเฟสบุ๊ค ของผู้สมัครงานหรือไม่ ทำแบบนั้นได้ด้วยหรือ – คงเคยได้ยินกันมาบ้างใช่ไหมครับ ว่าบ.ต่างๆดูข้อมูลประวัติของผู้สมัครจากสื่อโซเซียลต่างๆ แม้กระทั่งการขอวีซ่าเข้าประเทศบางประเทศ การกรอกแบบฟอร์มสมัครงานบางบ. สมัครเข้าเรียนหลักสูตรบางที่ บางโรงเรียน ก็มีช่องให้กรอก ลิงค์ เฟสบุ๊ค อินสตราแกรม ทวิตเตอร์ เว็บไซด์
ในสมัยก่อนไม่มีช่องให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ เพราะน้อยบ้านมากๆที่มีโทรศัพท์ ต่อมาก็มีช่องให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ แล้วก็มีช่องเพิ่มให้กรอก เบอร์ เพจเจอร์ (ไม่รู้ใครเกิดทันเห็นบ้าง) ต่อมาช่องให้กรอกเบอร์เพจเจอร์ก็หายไป เปลี่ยนเป็นช่องให้กรอกเบอร์มือถือแทน
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก …
ช่องต่อมาที่งอกให้กรอกก็คือ อีเมล์ แล้ววันนี้ก็เป็น facebook instragram twitter website youtube webblock ฯลฯ
แม้กระทั่งแผนที่อากู๋ ก็ไม่รู้เราไปอนุญาติเมื่อไหร่ ให้มาถ่ายรูปหน้าบ้านเราไปไว้ที่มุมมองถนน (street view) ในแผนที่ หรือ รูปจากบนท้องฟ้าที่มองลงมาแล้วอุบาทว์มาก หลังคาบ้านผมกระดำกระด่าง สนามหญ้าก็ตัดแหว่งๆ
ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล
ทำไมอากู๋ไม่บอกก่อนว่าจะมาถ่ายรูปวันไหน ผมจะได้ ตัดหญ้า เปลี่ยนสังกะสีมุงหลังคา ทาสีรั่ว ทางสีประตูหน้าบ้าน แล้วก็เปลี่ยนป้ายเลขทะเบียนบ้าน จู่ๆมาแอบถ่ายกันแบบนี้เสียหายหมดเลย 555
บริษัทส่องเฟสบุ๊ค ของผู้สมัครงานหรือไม่
ทำแบบนั้นได้ด้วยหรือ
ผมจะตอบคำถามนี้ด้วยคำถามก็แล้วกันครับ
-------------------------------------------------------
ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ
กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น
ลองสลับบทบาทดูว่า ถ้าเราเป็น HR หรือ เถ้าแก่ ที่จะรับคนมาทำงานกับเรา หรือ แม้กระทั่งเลือกผู้รับเหมามาทำงานให้เรา เช่น ซ่อมแซมบ้าน เราจะส่องเว็บไซด์หรือเฟสบุ๊คผู้สมัครไหม
มีคนมาจีบเรา หรือ เราจะไปจีบใคร เราจะส่องเฟสบุ๊ค อินสตราแกรม ทวิตเตอร์ เขาไหม
(ยกตัวอย่างแบบคนแก่) ถ้าใครจะมาสู่ขอลูกสาวเรา หรือ ลูกชายเราจะไปสู่ขอใครมาเป็นเมีย เราจะอยากรู้ไหมว่า คนๆนั้นเป็นคนอย่างไร
เมื่ออยากรู้ เราก็ต้องหาข้อมูล สมัยก่อนสังคมมันเล็ก ระดับหมู่บ้านระดับตำบล ก็ไม่ยาก ไปหากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไปวัดประจำหมู่บ้าน สุเหร่าประจำตำบล ถามไถ่จากเจ้าอาวาสเอา เราก็พอจะรู้ว่าใครเป็นยังไง งานวัดงานบุญ ได้มาร่วมบ้างไหม ไปตลาดสดกลางหมู่บ้าน ซึ่งมักจะเป็นที่รวมของขาเม้าส์ ก็จะพอรู้ว่าเคยตีหัวหมาด่าแม่เจ็กไหม ติดหนี้ติดสินใครหรือเปล่า บลาๆ
พอโลกมันใหญ่ขึ้นๆ การหาข้อมูลมันก็ซับซ้อนขึ้น บางบริษัทถึงกับต้องให้ไปคัดประวัติอาชญากรรม เอามาเป็นส่วนหนึ่งของการรับเข้าทำงาน (ไม่นับการตรวจสุขภาพตามปกติ)
เหลือ L สองชุด M 1 ชุด นะคร๊าบ
ดังนั้นมันจึงไม่แปลกอะไรที่สื่อสังคม (ขอใช้คำนี้ร่วมๆไปทั้ง facebook instragram twitter website youtube webblock ฯลฯ) กลายมาเป็นเครื่องมือหนึ่งของการหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจรับเข้าทำงาน รับปากรับใจรับตัวมาเป็นแฟน ตกร่องปล่องชิ้นดิ้นกระเด่วๆเป็นสามีภรรยา หรือ เป็นลูกเขยลูกสะใภ้ กันไรกัน
ฉันใดก็ฉันนั้นแหละครับ
ในวงการเรา เมื่อจะต้องจ้างใครมาทำงาน โดยเฉพาะมืออาชีพ ที่ต้องจ่ายกันแพงๆ ที่เรียกว่า contractor หรือ consultant นั้น เราต้องทำ background check (ตรวจสอบภูมิหลัง) เสมอ เราทำมากันตั้งแต่ก่อนมีอีเมล์ด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่ส่องโลกสังคมเสมือนเลยครับ
วงการมันแคบ แค่เรายกหู(สมัยนี้กดมือถือ)โทรฯถามกัน ไม่นานก็รู้แล้ว่า ไผเป็นไผ อย่ามาแหกเนตรกันเสียให้ยาก
กลับมาที่ประเด็นสื่อสังคม ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า สื่อสังคม ไม่ใช่สื่อส่วนตัว 555 ดังนั้น มันเหมือนกับเราติดป้ายไว้หน้าบ้าน หรือ ตากกุงเกงใน ชุดชั้นใน ผ้าปูที่นอน ไว้หน้าบ้าน ใครผ่านไปผ่านมาก็เห็น กางเกงในเป้าใหญ่แค่ไหน ชั้นในคัพอะไร หรือ ประมาณว่า วันนี้ฉันกินอะไร คนอีก 77000 ล้านคนต้องรู้ แบบนี้มันไม่ใช่สื่อส่วนตัวแน่นอน …
ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับ เราเชื่อหรือไม่ว่าสิ่งที่แสดงบนสื่อสังคม กับ คนๆนั้น เป็นอย่างเดียวกัน ถ้าคำตอบคือใช่ เราก็เทียวส่องชาวบ้านต่อไป แต่ถ้าคำตอบคือไม่ใช่ เราก็เลิกส่อง
หาบ้านให้น้องหน่อยครับ :)
ขาวจั๊วะ กอดได้ อิงได้ วางประดับได้
ปาหัวคนข้างๆก็ได้ (เวลาใช้ให้ไปล้างจานแล้วไม่ยอมไป)
แต่จริงๆแล้ว มันไม่ใช่ว่าเราเชื่อไหมว่าในโลกสื่อสังคมกับชีวิตจริงนั้นเหมือนกัน มันอยู่ที่ว่า คนอื่น บริษัทที่เราไปสมัครงาน ประเทศที่จะให้วีซ่าเรา คนที่เรากำลังไปจีบ ฯลฯ คนเหล่านั้นเขาเชื่อหรือไม่ต่างหาก
ดังนั้น ปลอดภัยไว้ก่อน อะไรที่ควรอยู่ในบ้าน ในห้องในหับ ก็อย่าเอาไปตาดแดด ตากลม ตากสายตาประชาชีหน้าบ้านให้คนเขาเห็น ถ้าจะซุบซิบนินทาลามกจกเปรตกันไรกันก็ไปโจ๊ะพรึ่มๆในที่ส่วนตัว ปลอดภัยที่สุดครับ
ก็เหมือนรูป profile น่ะครับ ทีรูป profile เรายังคัดแล้วคัดอีก ดูแล้วดูอีกว่าสายว่าหล่อ ถึงเอาขึ้นเป็นรูป profile จนให้ได้แซวกันว่ารูปไม่ตรงปก (ตรงปกก็แปลกล่ะผมว่า เพราะคนเราโดยมากก็ย่อมหันด้านสวยๆหล่อๆออกสื่อ ส่วนหน้าสดก็ให้คนที่บ้านดูก็พอ 555 จริงไหม)
ฉันใดก็ฉันนั้น พฤติกรรมต่างๆบนสื่อสังคมของเราก็เช่นกัน สวยไว้หล่อไว้ ปลอดภัยไว้ก่อน 🙂
————————
ไปอ่านนานาทัศนคติกันได้ที่พันทิพ
ถ้าเกิดวันนึง บริษัท หรือ องค์กร ขอตรวจสอบ facebook ของคุณ ก่อนตัดสินใจรับคุณเข้าทำงาน จะเป็นอย่างไร
ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ
(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)
 https://raka.is/r/qlzXR |
https://raka.is/r/gP7GV |
--- มีคำถามเพิ่มเติม พูดคุย เม้าส์มอย ไปต่อกันได้ที่กระดานสนทนา (webboard) นะครับ
คลิ๊กเลย
