ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

CV and cover letter เพิ่มโอกาสเรียกสัมภาษณ์ด้วย จดหมายสมัครงาน และ CV

CV and cover letter จากที่ได้อ่าน ได้แก้ CV (Curriculum vitae) และใบปะหน้า หรือ ที่เรียกว่า cover letter จากเราๆท่านๆส่งมาให้ตรวจทานแก้ไข และ จากการทำงานที่ต้องรับวิศวกรมาหลายปี แนะนำอะไรต่อมิอะไรไปก็เยอะ ทำให้เกิดอาการคันไม้คันมือ อยากจะเอามารวมๆว่ากันทีเดียวไปเลย

CV and cover letter

ก่อนอื่นก็จะขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นนักวิชาการด้าน HR หรือ ทำงานด้าน HR แต่เขียนจากประสบการณ์ตรงที่ได้จากการอ่าน CV อ่านใบสมัครงานมาเป็นร้อย ที่ผมจะแนะนำอาจจะไม่ถูกต้องตามหลักการเขียน CV หรือใบสมัครงานเท่าไรนัก และผมเชื่อว่ามีนักวิชาการด้านนี้เขียนให้คำแยะนำเอาไว้มากมายในเว็บไซด์และตำราต่างๆ

แต่เอาเป็นว่าคุณกำลังอ่านมุมมองหนึ่งของคนที่จะรับคนเข้าทำงานก็แล้วกันนะครับ ผิดถูกอย่างไร ผมขอน้อมรับไว้แต่ผู้เดียว

ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล

มาเข้าเรื่องกันเลย

ในกรณีที่เป็นส่งมาเป็นกระดาษ หน้าแรกสุดที่ผมเปิดแฟ้มที่เลขาฯใส่ใบสมัครงานพวกคุณๆมา แล้วเจอคือจดหมายสมัครงานที่ต่อไปนี้ผมจะเรียกว่าใบปะหน้า ส่วนซองนั้นผมไม่เคยได้เห็น เพราะเลขาฯผมแกะออกก่อนแล้ว ส่วนแสตมป์ก็ไม่ได้เห็นอีก เพราะแม่บ้านที่ที่ทำงานสะสมแสตมป์ แย่งกันกับน้องนักบัญชีของผม (ฮ่าๆ)

ในกรณีที่ส่งมาเป็นอีเมล์ ก็ไม่ต่างกัน แต่แนะนำนิดนึงว่า ให้รวมเรียงมาในไฟล์เดียวกัน เรียงตามลำดับไป ใบปะหน้า – CV  – Appendix (ส่วนเพิ่ม ส่วนขยาย หรือ ไฟล์แนบต่างๆ) ในกรณีที่ appendix มีมากกว่า 3 แผ่น ทำสารบัญไว้ท้าย CV ด้วยจะดีมาก

อย่าลืมว่าคนอ่านนั้นเป็นมนุษย์ปุถุชน ความอดทนไม่เท่ากัน ถ้าการจัดเรียงเอกสารรายไม่ได้ ตั้งชื่อไฟล์ไม่สื่อความหมาย (สแกนมาแล้วก็ไม่เปลี่ยนชื่อไฟล์ ใช้ default name ที่ แสกนเนอร์มันตั้งให้)กระจายมา 10 ไฟล์ ล่อมา 3 format ต่างๆกัน (word pdf jpeg ไม่ขำเลย ผมเคยเจอมาแล้ว มีจริงๆ) ฯลฯ บางคนถึงกับทิ้งไปเลยก็มี เพราะแสดงถึงความไม่ใส่ใจในเรื่องง่ายๆ

ถึงไม่ทิ้งแต่ก็อ่านด้วยอารมณ์บ่จอย และ สามารถคิดเชื่อมโยงไปว่า ขนาดจะขายตัวเองยังทำให้ไม่น่าซื้อเลย ถ้ามาทำงานกับตูนี้ ไฟล์เอกสารอะไรคงมั่วไปหมด การทำงานคงไม่เป็นระเบียบเหมือนไฟล์เอกสารต่างๆที่ส่งมา ยังไม่ทันได้อ่านหน้าแรกเลย ได้คะแนนติดลบไปแล้ว แบบนี้คงไม่สวยแน่ๆ

-------------------------------------------------------

ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ

กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น

จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ … อ้อ … อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น แล้วอย่าลืม mark as not junk or spam ด้วยนะครับ เวลาส่งเตือนคราวหน้า จะได้ไปอยู่ใน in box :)

ส่วนเทคนิคการ ย่อไฟล์ รวมไฟล์ แปลงไฟล์ เป็น PDF ผมคงไม่ต้องสอนจรเข้ให้ว่ายน้ำแล้วล่ะ พ.ศ. นี้แล้ว ถือว่าเป็นทักษะพื้นฐานที่วิศวกรต้องรู้ต้องทำได้ ใครทำไม่ได้ก็คงหางานได้ยากมากๆ

เปิดมาหน้าแรก …

CV and cover letter  ย่อหน้าแรกมาเลย “My name is ….. and graduated from …. ” อะไรมันจะปฐมก.กาจ๋าขนาดนั้น ประโยคนี้ไม่ต้อง เกะกะ เดี๋ยวผมก็เห็นชื่อคุณใน CV หน้าถัดไปอยู่แล้ว เนื้อหาหลักย่อหน้านี้ผมต้องการรู้แค่

1. คุณสมัครงานมาตำแหน่งอะไร
2. คุณเห็นประกาศรับสมัครงานเรา หรือ รู้ข่าวว่าตำแหน่งนี้ว่างจากที่ไหน เมื่อไร

เห็นป่ะ แค่นี้ 2-3 ประโยค อย่างมาก 3 บรรทัดจบ เช่น เห็นประกาศเราใน บางกอกโพสต์ FHM MAXIM นวลนาง แปะข้างเสาไฟฟ้าใต้สถานี BTS สะพานควาย หลังประตูห้องน้ำชายโรงหนังแถวรัชโยธิน หรือที่ไหนก็ว่ามา เห็นวันไหนด้วยก็ดี หรือ ไม่ได้เห็นจากไหนแต่รู้ว่าตำแหน่งนี้ว่าง ก็บอกไปว่าไม่ได้เห็นจากไหน แต่รู้มาว่าตำแหน่งนี้ว่าง หรือไม่รู้อะไรเลยก็ไม่ต้องนั่งเทียน ก็บอกไปว่าส่ง CV มาให้ดูเผื่ออนาคตคนของคุณโดนซื้อตัวผมจะได้เสียบ อะไรก็ว่าไป

ศัพท์แสง ภาษา ไวยากรณ์ ก็ไม่ต้องวิจิตรพิศดาร แบบฝรั่งเองยังล้อเลียนเสียดสีว่า ภาษาอังกฤษแบบพระราชินี (Queen English) ประเภทประโยคเดียวล่อไปสามบรรทัดกว่าถึงจะเห็นจุด full stop อ่านเสร็จแล้วงงว่ามันจะบอกอะไรตูว่ะ ไหนประธาน ไหนกริยา ไหนกรรม

ไม่ใช่สอบ entrance นะครับ ผมเองความรู้ภาษาอังกฤษยิ่งเตี้ยๆอยู่ ฉุนจัดพาลไม่อ่านต่อซะดื้อๆ Simple is the best ครับ เอาง่ายๆไว้ก่อน ไม่ต้องกลัวว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณจบอักษรศาสตร์เอกวรรณคดีอังกฤษ

ย่อหน้าแรกผ่านไปแล้ว ต่อมาย่อหน้าที่สอง ย่อหน้านี้คุณเปลื้องผ้าโฆษณาขายตัวเต็มที่ว่าคุณมีข้อดีเด่นอะไรบ้าง

เขียนได้ 2 แบบ

คุณเขียนได้ 2 วิธี คือพรรณาเป็นประโยค หรือ เป็นข้อๆ

ผมแนะนำแบบหลัง เพราะคุณเขียนก็ง่าย ผมอ่านก็ง่าย ไล่ไปจากจ๊าบเจ๋ง และ ภูมิใจนำเสนอสุดๆ เอาสัก 5 – 6 ข้อใหญ่ๆก็พอ เอาที่มันเกี่ยวกับงานที่คุณจะสมัคร

เช่น First class hon GPA 3.99 B. E eng 1997 อะไรก็ว่าไป หรือ The winner of 2008 young engineer inovation contest ไม่ก็ Improve sales of … 50% over 1 year สำหรับงานด้านการตลาดอะไรแบบนี้ ไม่ก็บอกว่าผมซี้ปึ๊กปั๊กรัฐมนตรีคนนั้นคนนี้ก็ว่าไป (ฮ่าๆ) ถ้าคิดว่าความ สวย หมวย เอ๊กซ์ เกี่ยวกับงานที่สมัครก็ใส่ลงไปในย่อหน้านี้เลยครับ

หาบ้านให้น้องหน่อยครับ :)

ขาวจั๊วะ กอดได้ อิงได้ วางประดับได้

ปาหัวคนข้างๆก็ได้ (เวลาใช้ให้ไปล้างจานแล้วไม่ยอมไป)

https://raka.is/r/XBBPp

หาข้อดีของตัวเองให้เจอ

แล้วมันก็จะมีคนถามว่า ถ้าหนูไม่มีอะไรเด่นเลยล่ะ ย่อหน้านี้หนูจะเขียนอะไร

ฮะฮ่า ถ้าหนูตรองดูแล้วว่าหนูไม่มีอะไรเด่นเลยจริงๆ ผมว่าหนูไม่ต้องสมัครงานแล้วล่ะครับ ข้อแรกขนาดคุณอยู่กับตัวคุณมา 20+ปี คุณยังไม่รู้ แล้วผม หรือ ว่าที่นายจ้างจะไปรู้หรือ ถ้าคุณไม่มีจริงๆก็ไม่มีใครอยากจ้างหรอกครับ ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าตลาดแรงงานเราบ้านป็นตลาด(ค่อนข้าง)เสรี พูดง่ายๆคือใครอึ๋ม ใครขาว ใครเอ๊กซ์ เอ๊ยใครดีใครได้ ใครรู้ และ นำเสนอข้อดีตัวเองได้ชัดได้เจ๋งกว่า ได้งานไป

ดังนั้นถ้าหนูไม่รู้ว่าหนูมีดีอย่างไร ผมว่าหนูอยู่บ้านขายเต้าฮวยดีกว่า ผมหมายถึงประกอบอาชีพอิสระแบบเป็นนายตัวเองดีกว่า ดีกว่าที่จะไปเป็นลูกน้องกินเงินเดือน

เอาล่ะ ฉันจะเป็นลูกจ้างให้ได้ ถ้าคิดได้อย่างนี้ แล้วก็ต้องเฟ้นต้องคั้นหาข้อดีออกมานำเสนอให้ได้ในย่อหน้าที่สองนี้

วิธีที่ง่ายที่สุดคือ กลับไปถามแม่ ถามพ่อ หรือ คนที่เลี้ยงเรามาว่า ท่านเห็นว่าเรามีข้อดีอะไรบ้าง เสร็จแล้วไปถาม ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง เมีย น้องเมีย และ กิ๊ก (ถ้ามี) เพราะคนไทยเราถูกสอนให้ถอมตนเจียมตัว ตัวเองอาจจะมองตัวเองไม่ออก ลองให้คนอื่นช่วยมอง

แต่ถ้าถามมันไปทั่วรวมไปถึงหมูหมากาไก่รอบๆหมู่บ้านไปยันปากซอยแล้วยังหาเค้นอะไรมาเขียนในย่อหน้านี้แค่สัก 3 ข้อไม่ได้แล้วล่ะก็ ผมว่าคุณเป็นคนที่ประหลาดทีเดียว ถ้าคุณเข้าข่ายนี้บอกผมด้วย เกิดมาผมยังไม่เคยเจอ จะเอาไปลงกินเนสน์บุ๊ค

เหนื่อยหรือยังครับ 2 ย่อหน้าแล้ว ต่อไปย่อหน้าที่ 3

จงบอกในสิ่งที่เขาอยากรู้

ส่วนนี้ที่ผมเจอบ่อยคือ พร่ำพรรณาว่าทำไมฉันถึงชอบบ.คุณ ทำไมถึงอยากทำตำแหน่งนี้ ตำแหน่งนี้สำคัญกับฉันอย่างไร จะช่วยให้ฉันบรรลุโสดาบรรณ ค้นพบจุดหมายของชีวิตฉันยังโง้นยั่งงี้ งานนี้จะเสริมสร้างศักยภาพฉันยังไง … ฯลฯ … อะไรก็ ฉัน ฉัน และ ก็ฉัน …

ผมอ่านไปผมก็ถามตัวเองว่า ตูจะรู้ไปทำไม ไอ้ที่ตูอยากรู้ ทำไมมันไม่บอกตู สิ่งที่ผมอยากรู้และผมคิดว่าว่าที่นายจ้างคุณอยากรู้เหมือนกัน คือว่า คุณจะมาบันดาลประโยชน์โภคผลอะไรให้บ. แผนก หน่วยงานของตู ถ้ารับเอ็งมาแล้ว หน่วยงานฉัน บ.ฉัน จะโชติช่วงชัชวาลบานตะไทไห้ปลาร้าเต็มทุกฤดู …

ครับ … ย่อหน้านี้ต้องบอกว่า “คุณจะไปทำอะไรให้กับเขา” พูดเหมือนง่าย คุณต้องทำการบ้านพอควรที่จะเขียนย่อหน้านี้ได้ถูกใจเข้าตากรรมการ คุณต้องรู้ว่าตำแหน่งนี้นะ มันทำอะไร สำคัญอย่างไรกับบ. บ.เขาทำมาหารับทานกับอะไร มันขายอะไรกิน ใครเป็นลูกค้ามัน ปีที่แล้วยอดขายมันดีหรือไม่ดี ฯลฯ

สมัยก่อนอาจจะร้องโอย เพราะมันหาข้อมูลยาก สมัยนี้เหรอ บ.ใหญ่ๆ โดยเฉพาะพวกอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ข้อมูลเพียบ เว็บบอร์ดก็มี กระทู้ก็มี ถ้าคุณไม่งอมืองอเท้ามากจนจะหงิกเกินไปล่ะก็ บิดขี้เกียจหาข้อมูลหน่อย คุณจะเขียนย่อหน้านี้ได้ประทับใจกรรมการได้ไม่ยาก จนคนอ่านต้องร้องออกมาว่า โอ้ พระเจ้าจอร์จคนนี้ยอดมาก ต้องเรียกมาจับจูบลูบคลำคลึงทึ้งถลำขยำขยี้ เอ๊ย เอามาสัมภาษณ์ให้ได้

อย่าลืมว่าใบปะหน้านี้ ถือเป็นหีบห่อบรรจุภัณฑ์ที่สำคัญ คุณต้องเขียนให้คนอ่านไม่รำคาญสลบไปเสียก่อน ทำให้อยากพลิกไปหาส่วนที่สำคัญกว่าคือ CV

มีหลายฉบับที่คนใจดี(อิอิ)อย่างผมยังรำคาญพาลไม่พลิกไปอ่าน CV ซะงั้น เพราะพี่แกเล่นเอา CV มาเขียนในใบปะหน้าซะหมด ยาวยืด กินกาแฟไป 2 แก้ว เปิดดิกไป อ่านไป ต้องเรียกแม่เลขาฯเอาพาราฯมาโด๊ป

คิดถึงบู๊ทขายสินค้าออกใหม่ในซุปเปอร์ฯซิครับ เขาทำให้เราเห็นแต่ไกลเลย กระโปรงสั้นมากก่อน ขาวจั๊วตามมา ผมยาวตามสูตร สินค้าอะไรก็ไม่รู้ ขอเดินเข้าไปดูใกล้ๆไว้ก่อน ชิมไปชิมมา กว่ารู้ว่ามันคืออะไร ก็หยิบใส่รถเข็นไปแล้ว 2 กล่อง แขนเขียวเป็นจ้ำเพราะแม่อีหนูเข็นรถเข็นตามมาหยิก

… เห็นป่ะ ย่อหน้านี้ก็ต้องแบบนี้ แต่อย่าทะลึ่งไปเขียนอะไรเกินจริงล่ะ เอาพอท้วมๆ (อย่าให้ถึงกับอ้วนลงพุง)

ตบท้ายด้วยย่อหน้าที่ 4 สุดท้ายแล้ว (ทนหน่อย) ส่วนนี้ต้องท้าทาย บอกรักให้ติดตาม ทิ้งที่อยู่ อีเมล์ เบอร์โทรฯ อ่อยเต็มที่ประมาณว่า คุณจะได้รู้ว่าที่ผมฝอยไว้จริงแค่ไหนก็ลองเรียกผมมาสัมภาษณ์ซิครับ อะไรทำนองนี้

แต่อย่าไปเขียนแบบนี้เข้าจริงๆล่ะ เอาแค่ I will be please to demonstrate my capability if you kindly permit me to interview …. อะไรเทือกๆนี้ประมาณนี้ แล้วก็ระบุไปด้วยว่าแจ้งล่วงหน้ากี่วันสำหรับการเรียกสัมภาษณ์ เพราะวันๆเราไม่ได้นอนเกาสะดือรอคุณเรียกฝ่ายเดียวเมื่อไร คนต้องกินต้องใช้ต้องทำงานมีภาระกิจ และ เราก็สมัครไว้หลายๆที่ (ฮ่า)

การระบุเช่นนี้เป็นผลบวกเพราะทำให้คนอ่านรู้ว่าถึงฉันจะไม่ใช่พวกสวยเลือกได้ แต่ฉันก็ไม่ได้ว่างเสมอไปสำหรับคุณนะย่ะ และเราเป็นคนมีระบบระเบียบในชีวิต กรุณาบอกล่วงหน้า 5 วันก่อนเรียกสัมภาษณ์ (ทั้งๆที่อยากจะไปใจจะขาดรอนๆ)

อารมณ์ไม่ต่างกับสาวยสวยจะรับนัดหนุ่มๆที่เพิ่งจะจีบหรอกครับ รับนัดง่าย ไลน์มาปุ๊บๆ ออกจากห้องปั๊บ มันก็เกินไป … จริงไหมครับสาวๆ

เสร็จสรรพก็หาหมึกมาระบายนิ้วหัวแม่มือปั๊มมันลงไป เอ๊ย เซ็นต์ชื่อปิดท้าย อันนี้ไม่มีเหตุผลตรรกะแต่อย่างใด แต่ผมว่าใช้ปากกาหมึกซึม หรือ หัวสักหลาด (เมจิเข็ม) หัวหนานิดนึง สีน้ำเงิน จะดูเท่ห์และน่าเชื่อถือกว่าใช้ปากกาลูกลื่น (ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ)

เห็นป่ะ ไม่ยาก เคล็ดวิชาไหมฟ้า (เด็กรุ่นใหม่จะรู้มุขนี้ไหมเนี่ย) สรุปคือ พิมพ์ออกมาแล้วดูโปร่งๆสบายตา font 12 (ภาษาอังกฤษนะครับ) น่าอ่าน อ่านจบได้ภายใน ไม่เกิน 1 นาที อ่านแล้วน้ำลายหก อยากพลิกไปดู CV จะดีอย่างยิ่ง ดูเหมือนง่ายนะครับ แต่คุณจะต้องทำการบ้านมาดีพอควร โดยเฉพาะย่อหน้าที่ 2 (รู้เรา – ข้อดีของเราที่เกี่ยวกับงานของเขา) กับ ย่อหน้าที่ 3 (รู้เขา – เขาอยากได้อะไรจากเรา)

สรุปการเขียนใบปะหน้าแบบสั้นๆ

ก่อนจบใบปะหน้าของ CV and cover letter  ผมอยากให้คิดถึงการจีบสาว (สำหรับคุณผู้หญิงก็คิดว่าเป็นการจีบหนุ่มก็ได้)

ย่อหน้าแรก ต้องบอกสาวเจ้าก่อนว่า ได้เบอร์มือถือคุณเธอมาจากไหน ได้มาอย่างสุจริตหรือเปล่า เพื่อนของพี่ของแฟนน้องสาวอา ให้มานะ ไม่ได้แอบจดมาจากผนังห้องน้ำชายในห้างแถวบางกระปิ แล้วก็ต้องบอกว่าที่โทรฯมาเนี้ย ขอเป็น(ตำแหน่ง)แฟนนะ ไม่ใช่แทงกั๊กมัวแต่เหนียม เดี๋ยวก็กลายเป็นพี่ชาย(หรือเป็นน้องสาว)ไปซะ …

ย่อหน้าสองก็ต้องบอกเจ้าหล่อนว่า ฉันนะมีดีอะไร รูปหล่อพ่อรวยกล้ามใหญ่และจบนอกนะจ๊ะ เอาแต่เนื้อๆ ปลีกย่อยให้หล่อนไปค้นหาเอาตอนจะคบกัน(ในCV) ….

ย่อหน้าสามก็เปรยประมาณว่า ถ้าคบผมเป็นแควนควงแขนออกงานวัดแล้ว จิ๊กโก๋ไม่กล้าแซว และคุณเธอจะสำเริญสำราญเบิกบานสุขโขสุขีสะดือบานตะติ๊งโหน่งยังไง

และสุดท้ายก่อนจาก ก็ต้องท้าทายนิดๆว่า ไม่ลองไม่รู้นะตัว เรียกมาดูตัว ลองสด๊วบกันสักท่าสองท่า เอ๊ยคบกันสักตั้งไหม รับรองติดใจนะตัวเอง พร้อมทิ้งเบอร์บ้าน เบอร์ที่ทำงาน เบอร์มือถือ แฟกซ์ อีเมล์ ที่อยู่ พร้อมสรรพ …

ไงครับ ใบปะหน้าที่ผมคิดของผมเองว่าน่าจะได้ผล ย้ำนะครับ นี่เป็นแค่ความเห็นของคนๆเดียว ที่มีโอกาสได้โยนใบสมัครของหลายๆคนลงตะกร้า และ ก็รับหลายๆคนมาแล้ว เดี๋ยวพี่ HR มืออาชีพจะออกมาเต้นเร้าๆว่าไม่ใช่ๆ ผมก็ยอมรับนะครับว่า อาจจะไปใช้แบบที่ดีที่สุด แต่ผมว่าผมอ่านแบบนี้แล้วประหยัดเวลาทำมาหากินผมที่สุด

อย่าลืมว่าท้ายที่สุดแล้ว คนที่จะพิจารณารับหรือไม่รับคุณไม่ใช้ HR แต่เป็นหัวหน้าหน่วยงานนั้นๆที่จะเอาคุณไปใช้ HR เป็นเพียงหน่วยจัดหาคัดกรองเบื้องต้น และหัวหน้าหน่วยงานนั้นๆเขาก็มีงานประจำอันยุ่งเหยิงของเขาอยู่แล้ว บ.ไม่ได้จ้างเขามาให้มีความอดทนอ่านใบปะหน้าหรือ CV เป็นสิบๆฉบับต่อวัน

ผมถึงย้ำว่าใบปะหน้าเนี่ย คนอ่านภาษาอังกฤษคล่องๆแบบปานกลางๆแบบไทยๆ อย่างมาอย่าให้เกิน 1 นาที วิธีทดสอบคือ เอาไปให้คนไทยที่มีความสามารถภาาาอังกฤษขั้นปานกลาง พ่อ แม่ เพื่อน พี่น้อง ฯลฯ ลองอ่าน แล้วจับเวลา ก็จะรู้ว่าพอโอเคไหม

ให้ไปพักดื่มน้ำปัสสาวะก่อนค่อยมาอ่านช่วงต่อไปที่เรียกว่า CV

…..

CV หรือ Resume

CV หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Resume สมัยก่อนตอนผมจบใหม่ๆ ไม่รู้ไปงมหอย(โข่ง)อยู่ที่ไหนมา อ.คงไม่ได้สอนหรือมั่วแต่เมาอยู่หลังตึกตอนเรียน เรียก Resume ว่า รีซูม เฉยเลย ไก่บ้านนอกกระเจิงออกหมดเล้า … ฮ่าๆ …

สมมุติว่าผมอ่านใบปะหน้าคุณแล้วน้ำลายไหล เผลอพลิกไปดู CV คุณก็แปลว่าคุณทำสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว …

รูปนั้นสำคัญไฉน

สิ่งที่ผมจะเห็นอย่างแรกที่ผมพลิก CV คุณขึ้นมาดูคือ รูป ครับ รูปนั้นสำคัญไฉน ตะก่อนผมเคยคิดว่า คุณจ้างไอ้สิ่งที่อยู่ในกระโหลกผมนี่นา ไม่ได้จ้างรูปร่างหน้าตาผม ผมไม่ได้มาสมัครโดมอนแมน หรือดัชชี่บอยซะหน่อย ไปดู transcript ผมซิ A กับ B+ เบียดกันแน่นปั๋ง …

ผิดอย่างจังครับ สาวๆทุกคนรู้ความจริงข้อนี้ดี (แต่ไม่เคยบอกผมเลยให้ตายซิ) เธอจึงต้องดูดีเสมอ ครับผม ผมกำลังจะบอกว่า ถึงผมจะจ้างไอ้ที่อยู่ในกระโหลกคุณแต่ผมก็ไม่อยากอยู่กับ หรือ ให้คนของผมอยู่กับ ไอ้ตัวอะไรที่ดูไม่โสภา พาลจะให้บรรยากาศการทำงานเสียหาย ประสิทธิภาพการทำงานลด

ไม่เชื่อลองดูผลงาน หรือ อัตราการลา การสาย การลาป่วย ของวิศวกรหนุ่มๆตอนช่วงซัมเมอร์ที่มีน้องนศ.สาวๆสวยๆมาฝึกงานซิครับ ต่างกับตอนก่อนหน้ายังกับหน้ามือเป็นหลังเท้า … (ผมเองก็เป็น อิอิ)

ต่อมา ส่วนที่คนส่วนใหญ่ชอบนักเอาขึ้นมาไว้ตอนบนสุด คือ bio data กับที่อยู่ แต่ผมคิอแตกต่างไปนะครับ bio data กับที่อยู่เนี่ย เอาไว้ท้ายสุดเลยครับ เพราะอะไร เพราะมันไม่ใช่จุดขาย ถ้าเขาจะเอาคุณ ที่อยู่เบอร์โทรฯคุณแทรกอยู่ตรงไหน CV แค่ 2 หน้า เขาก็หาเจอจนได้แหละ

เพศไหนคุณก็ไม่ต้องไปกลัวว่าเขาจะไม่รู้ ยกเว้นรูปคุณมันจะกำกวม (ฮ่าๆ) ไม่ต้องไปบอกว่า เพศชายนะครับ เชื้อชาติสัญชาติศาสนาก็ไม่ต้องไปบอก ยกเว้นแต่คุณจะไม่ใช่สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย เพราะอาจจะมีผลต่อค่าจ้าง และ ระบบภาษี

ข้อมูลสุขภาพต้องบอกไหม บอกแค่ไหนดี

แล้วที่ชอบบอกกันจัง ไม่รู้จะบอกไปทำไม คือส่วนสูง น้ำหนัก ทำไมไม่บอกทรวดทรงองค์เอวพร้อมขนาดปิ๊กกาจู้ไปซะเลยล่ะ ไม่ต้องครับ เปลืองที่ ยกเว้นคุณจะสมัครงานที่ต้องใช้รูปลักษณ์ภายนอก เช่น พนักงานต้อนรับ เซลส์ขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ พนักงานรักษาความปลอดภัย คนคุมบ่อน คุมวินมอเตอร์ไซด์ ก็ว่าไปอย่าง

แล้วก็อีกอย่างบอกกันจังคือ สุขภาพ healthy นะจ๊ะ ไม่ต้องบอกครับ เพราะผมไม่เคยเห็นใครเขียนว่าไม่ healthy สักคน

ส่วนวันเดือนปีเกิด กับ อายุ ตะก่อนผมเชียร์ให้เขียนแค่อย่างเดียว แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจ เพราะขี้เกียจลบเลขในใจเพราะสมองฝ่อไปแล้ว หรือ บางทีเก็บ CV ข้ามปี อะไรแบบนี้ ใส่มาทั้งสองอย่างเลยดีก่าเนอะ

สถานะสมรส อันนี้จำเป็นครับ เพราะมีผลต่อลักษณะงาน คนมักจะคิดว่าคนโสดมีโอกาสมากกว่า ไม่จริงเสมอไปครับ คนแต่งงานแล้วมีข้อดีเหมือนกัน (เชียร์พวกเดียวกัน อิอิ) หลายๆด้าน แต่ด้านหนึ่งที่เห็นชัดเจนคือจะไม่วู่วาม ไม่ใจร้อน อดทนมากกว่า

ไม่ใช่อะไรๆผิดใจหน่อยก็จะลาออกบอกเลิกท่าเดียว เพราะคนมีครอบครัวมีภาระที่ต้องรับผิดชอบ น้ำอดน้ำทนต่อความผิดหวังและอยุติธรรมจะมากกว่า เนื่องจากโดนฝึกซ้อมกันมาอย่างดีจากนังมารร้าย หรือ ขุนแข้ง ที่บ้าน ฮ่าๆ นอกเรื่องอีกแล้ว จบ bio data แต่เพียงเท่านี้

แล้วกรุณาเอาไปไว้หลังสุดของ CV อ๋อ สำหรับน้องๆวัยใส ปลดประจำการทหารหรือยัง เรียนร.ด.ไหม ยกเว้นการเกณฑ์มาด้วยวิธีไหน บอกไว้ด้วยในส่วนนี้นะครับ เกือบลืม อีกอย่าง กรุ๊ปเลือดไม่ต้องบอก จดหมายสมัครงาน ไม่ได้แจ้งอุบัติเหตุศูนย์นเรนทรนะครับ

การศึกษา และ ประสบการณ์ทำงาน เอาไรขึ้นก่อนดี

ส่วนแรกที่ผมให้คุณเลือกเอาว่าจะเอาไว้บนสุดระหว่าง การศึกษา และ ประสบการณ์ทำงาน ขึ้นกับคุณมีอะไรที่เด่นกว่ากัน

ใหม่ซิ่งๆ เพิ่งจบไม่กี่ปี (ไม่เกิน 3 ปี) หรือ คร่ำหวอดทำงานมานาน เลือกเอา แล้ววิธีเรียง กรุณาเรียงจากปัจจุบันย้อนไปหาอดีต วันที่ไม่ต้อง ระบุแต่เดือนพอ

เช่น March 2007 – present ปั๊มซีดีเถือน, May 2001 – Feb 2007 คุมบ่อน อะไรแบบนี้ โอเคป่ะ

แล้วก็อย่าเว้นว่างให้คนอ่านสงสัยว่า ช่วงนี้มันไปไล่จับปูลมที่หาดไหนว่ะ ไม่เห็นมันบอกตู อยู่ๆก็หายไปดื้อๆ เอ๊ะ หรือมันอกหักหยุดงานทำใจไปปีครึ่ง ถ้าไม่ได้ทำอะไรจริงก็เขียนลงไปว่า ทำกิจการที่บ้านก็ได้ ไม่ต้องระบุว่าอะไร พอเรียกสัมภาษณ์ก็ค่อยบอกว่าไปรับจ้างขายข้าวแกง หรือ เกาะกิ๊กกินก็ว่าไป

อ๋อ … เรื่องวุฒิการศึกษาอีกอย่าง กรุณาอย่าหมกเม็ด อย่าเขียนคลุมเครือ แล้วคิดไปว่าคนอ่านจะแปลในทางที่เป็นประโยชน์กับคุณ เพราะถ้าผมสงสัยผมเดาในแง่ร้ายไว้ก่อน จบที่ไหน วิทยาเขตอะไร ปีไหน หลักสูตรอะไร วิชาเอกอะไร โทอะไร เกรดเท่าไร ชื่อเป็นทางการของปริญญาบัตรก็สำคัญมากอย่านั่งเทียนแปลเอง ไปถามที่คณะว่าชื่อเป็นทางการเขาเขียนยังไง สะกดยังไง ชื่อ คณะสะกดยังไง

เชื่อป่ะ ผมเจอคนสะกดชื่อปริญญาตัวเองผิด ชื่อคณะก็ผิด ถ้าจงใจ ผมถือว่าไม่ศึกษามาให้ดี ถ้าพิมพ์ผิด ผมถือว่าไม่รอบคอบ ซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง

อย่าลืมว่าคุณกำลังจะเปิดบู๊ทนำเสนอสินค้า กระดาษแค่ 3 แผ่น ทำให้ถูกต้องไม่ได้ ผมก็ไม่รู้จะรับเอามาทำปุ๋ยอะไร เดี๋ยวงานผมเจ๊งกะโบ๊ง

อืม … แล้วก็เรียนชั้นอนุบาลหมีน้อยกลอยใจที่ไหนก็ไม่ต้องบอก เปลืองหน้ากระดาษ ขี้เกียจอ่าน เอาตั้งแต่อนุปริญญาหรือปริญญาตรี ขึ้นมา ชั้นมัธยมและต่ำกว่านั้นไม่เอา ที่อยู่ บ้านเลขที่ของสถานศึกษาก็ไม่ต้องเอา เอาแค่จังหวัดพอ

ประสบการณ์การทำงาน ไม่ต้องเขียนละเอียดยิบ เอาเนื้อๆ ว่าตำแหน่งอะไร รับผิดชอบอะไร พอ จบได้แล้ว แต่ถ้ามันอดไม่ได้จริงๆอยากจะบอกรายละเอียดมากๆ ไม่ได้บอกแล้วมันจะขาดใจตาย หรือ คิดมันจะมีประโยชน์ต่อการพิจารณา ให้เอาไปไว้ในภาคผนวก หรือ เอกสารแนบตั้งชื่อให้เป็น Details of work experience คราวนี้คุณอยากจะเขียนยังไง ยาวแค่ไหน ไม่จำกัด

แล้วต้องบอกไว้ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องใน CV ด้วยว่า รายละเอียดส่วนนี้เพิ่มเติมอยู่ในเอกสารแนบนะจ๊ะ เดี๋ยวผมไม่รู้ไม่ตามไปอ่านนะเออ แล้วก็ใช้ตัวหนังสือตัวหนา ตัวเอียง ขีดเส้นใต้ เน้นข้อความสำคัญก็จะเป็นเทคนิคนึงที่ทำให้อ่านแล้วไม่น่าเบื่อ และ เป็นการสื่อสารถึงคนอ่านด้วยว่าคนเขียนคิดว่าส่วนนี้สำคัญนะ

แต่ไม่ใช่ว่าใช้จนเกลื่อน ทั้งหนาทั้งเอียงขีดเส้นใต้หนึ่งเส้นสองเส้น แถมไฮไลท์สีอีกต่างหาก เดี๋ยวมันจะกลายเป็นโปสเตอร์ละครเวทีแม่นาคฯไปซะ

ความสามารถพิเศษ กิจกกรม งานอดิเรก

ใบประกาศเกียรติคุณ ใบ Certificate รางวัล ถ้วย ต่างๆ ฯลฯ ใส่มาให้ครบแต่กระชับ เอาหลักๆ ที่เหลือเอาไว้ในเอกสารแนบ

กิจกรรมพิเศษ สมาชิกองค์วิชาชีพ NGO เสื้อแดง เสื้อเหลือ เสื้อดำ กิจกรรมสาธรณะกุศล เอา 4 – 5 อย่างเด่นๆพอ ถ้ามีเยอะอยากอวด เอาไว้ในเอกสารแนบได้เลย

ความสามารถพิเศษ – อันนี้ขอพูดถึงเยอะหน่อย ภาษาอังกฤษไม่ใช่ความสามารถพิเศษแล้วนะครับ สำหรับงานเทคนิคระดับวิศวกร เป็นความสามารถพื้นฐานครับ การเรียนต่อใช้ TOEFL วัด แต่การทำงานใช้ TOEIC นะครับ ควักกระเป๋าไปสอบซะ ไม่กี่ตังค์ จะทำให้ CV คุณดูดีมีสง่าราศีขึ้น (ยกเว้นคุณเคยทำงานบ.ฝรั่งใช้ภาษามาช้านาน)

ตำแหน่งงานอะไรควรได้คะแนนเท่าไร ผมจำไม่ได้ ผมว่าเปิดเว็บ TOEIC ดูก็น่าจะมีคำตอบ ถ้าภาษาที่สามได้ก็จะดี จีน ฝรั่งเศษ ลาว เขมร ก็ว่าไป

อีกอย่างที่ใส่กันมาคือ โปรแกรมใช้งานคอมพิวเตอร์ ไมโครซอฟออฟฟิต word, excel,  powerpoint, internet, photoshop, PDF ไม่นับว่าเป็นความสามารถพิเศษของวิศวกรด้วยนะครับ พ.ศ.นี้ ถ้าไม่เป็นไม่คล่อง ผมว่าหางานลำบากนะครับ พิมพ์ดีดได้กี่คำต่อนาทีก็ไม่ต้องใส่มา พ.ศ.นี้ ไม่ได้ใช้เท่าไรแล้วโดยเฉพาะงานวิศวกร

บุคคลอ้างอิง ถ้ามีก็เอามาใส่ไว้ก่อนปิดท้าย แล้วก็ปิดท้ายด้วย bio data กับที่อยู่ที่ติดต่อได้ + เบอร์โทรฯ + อีเมล์ ต่างๆ

แล้วอีกอย่างพักหลังๆชักเห็นบ่อย คือเอาอีเมล์บริษัทปัจจุบันไปใช้ใน CV สำหรับคนอื่นผมไม่ทราบ แต่สำหรับผมมันเหมือนกับเอากระดาษหัวจดหมายบริษัทปัจจุบันไปพิมพ์ใบสมัครงาน ยังไงยังงั้นเลยครับ ระวังด้วยครับ เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ อย่าพลาด มันทำให้เห็นถึงความไม่รอบคอบ ละเอียดละออ

ไงครับ ไม่ยากใช่ไหมกระทัดรัด ในส่วนของ CV นี่ ผมว่าอย่างมากสุดๆ 3 หน้า A4 font 12 ก็น่าจะพอ ถ้าจะให้ดี 2 หน้าพอครับ ที่เหลือเอาไปไว้กับเอกสารแนบ จัดรูปแบบให้โปร่ง อ่านสบายตา CV ควรใช้เวลาอ่านหน้าล่ะ 1-2 นาที ถ้าคุณทำออกมาแล้วให้เพื่อนอ่าน มันอ่าน 4-5 นาที แปลว่าคุณยังทำอออกมาไม่ดี

เรื่องสุดท้ายที่อยากจะพูดถึงคือ template หรือ format ปัจจุบันนี้มีของฟรีมากมาย ทั้งในอินเตอเน็ต บ.จัดหางานออนไลน์ หรือ แม้แต่ ใน Word ของ ไมโครซอฟต์ สามารถเอามาใช้ได้เลย

แต่อยากให้ดูไว้นิดหนึ่งว่า แต่ล่ะ format / template นั้น อาจจะเหมาะกับงานที่แต่กัน เช่น งานโฆษณา งานราชการ งานวิศวกร เด็กจบใหม่ คนทำงานมาแล้วนานๆ พนักงานเทคนิค ผู้บริหาร ฯลฯ เลือกเอา format / template ที่เหมาะสม แล้วเอามาปรับแต่เอาตามสมควรนะครับ อย่าเอามาทั้งดุ้น อาจจะผิดพลาดหรือไม่เหมาะสมกับ เรา และ งานที่เรากำลังจะสมัคร

… ขอให้โชคดีสวัสดีมีชัย หางานได้งานดังใจทุกคน ด้วย CV and cover letter  เจ๋งๆ นะครับ

คลิ๊ก … รวมลิงค์ การสมัครงานและสอบสัมภาษณ์

ข้างล่างนี้ผมก๊อปมาจาก https://www.energyjobline.com/article/how-to-write-a-cover-letter/

How To Write A Cover Letter

Covering letters are an important part of any job application. A well thought out and researched letter can be the difference between a hiring manager inviting you for an interview, or inviting another candidate instead. Despite this, many candidates only submit their CV with their application, and fail to include a cover letter altogether.

Savvy candidates use their covering letters as an opportunity to stand out from the crowd and convince the employer that they should be invited to an interview.

NES Global Talent have hundreds of discipline specific recruiters who have helped thousands of candidates during their job application process – we understand that it can be daunting knowing where to start when you’re staring at an empty page. It may be tempting to skip this step, but you should always include a cover letter in your application unless a job advert specifically advises you not to include one.

To help you, here’s our advice and tips on how to write a good covering letter.

Why are cover letters important?

Including a cover letter increases your chances of getting invited for an interview. They enable you to provide an extra layer of detail that isn’t typically included in a CV.

The letter is your chance to add a personal touch and introduce yourself, really explaining what this individual job means to you, and how you’re suited to this specific role. A CV alone provides a functional overview of your skillset and experience, without demonstrating a personal touch.

They’re also an easy access route to your contact details.

Hiring managers may revisit the cover letters at a later stage in the recruitment process. Because of this, you should never use a generic cover letter. If you’re applying to more than one position or company, it’s vital to tailor each covering letter to both the company and specific position you are applying for. Using the same cover letter for every job that you apply for will make you look insincere, which is a big turn off for employers.

How should you layout a cover letter?

Your covering letter should be clearly laid out and to-the-point, making it easy to read for time-pressed employers.

•Put your contact details at the top right

•Put the hiring manager’s name and address to the left, the date

•Start your letter with the name of your recipient ‘Dear Mr/Mrs/Ms/Miss [Name]’ – if you don’t know the name then simply ‘Sir/Madam’ or ‘Hiring Manager’.

•It’s recommended your cover letter is concise; aim for at least half a side of A4 but don’t exceed one page of A4.

•Use a common, easy-to-read font type, such as Arial.

•Don’t use pictures or word art – this isn’t necessary and lacks professionalism.

How to start your cover letter

Before you even begin writing your cover letter, spend some time looking into the role and the company and use this information to inform your letter.

You should research:

•Company history

•Company culture/values

•Their competitors

•What skills they’re looking for and what the role involves

Once you’ve made a few notes you can use these to make it clear in your letter that you match up to what the employer is looking for, and that you’ll fit in with their culture.

In your opening paragraph, state why you’re writing the cover letter – include the job title you are applying for, how you found out about the position and why it appealed to you. It also helps the hiring manager if you include the job reference number (if one has been provided). Ensure to keep this opening paragraph concise and no longer than three sentences.

If you’re not applying for a specific position that has been advertised, but rather to the company itself, then clearly and concisely set out who you are, your experience, why you are speculatively sending your CV, and what type of position you would be looking for.

What should you include in a cover letter?

After crafting your opening paragraph, you’re then ready to move onto the details. Bear in mind that many hiring managers have limited time to read your application as they receive hundreds for each position they advertise – keep it concise!

The most important things should be prioritised such as your topmost qualifications, skills, experiences and achievements that are relevant to the job role you’re applying for. This should be an overview only which complements your application, and not a word-for-word copy of the detail that you have provided in your CV.

•Consider the use of bullet points, as these make an impact whilst remaining brief and easy to read.

•Use the same keywords that are mentioned in the job advert and job description and use these to highlight your achievements that are relevant to the position.

•If you can, use tangible numbers to demonstrate your competencies, for example, if you raised efficiencies on a project you could say ‘I improved efficiencies in XYZ project by 20%’.

•Remember to remain positive. Although it’s important to be realistic and honest, you should avoid drawing upon any weaknesses you feel you may have relating to the role. The covering letter is the opportunity to tell the hiring manager why you are perfect for the role and why you should be invited to an interview, so always keep an upbeat tone.

How to end a cover letter

Your final paragraph needs to leave a lasting impression – simply because this is the last thing that the Hiring Manager reads.

Be confident and let the reader know why you would be a good fit, and state how you would welcome the opportunity of an interview and thank them for their time. When signing off, use ‘yours sincerely’ if you know the name of the Hiring Manager or ‘yours faithfully’ if you don’t, followed by your name.

Before sending you must ensure there are no typos and that you’ve used correct grammar. Always proofread (more than once!) and ask a friend to check it for you or consider using a spell check tool.

ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

--- มีคำถามเพิ่มเติม พูดคุย เม้าส์มอย ไปต่อกันได้ที่กระดานสนทนา (webboard) นะครับ

คลิ๊กเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

The Sweet Girl

ของมือสองของเฟิร์นค่ะ มีหลายชิ้นเลย ราคาดีสุดๆ (คลิ๊กที่รูปนะคะ ลิงค์จะพาไปที่ร้านค่ะ)

Fern shop

--------- คลิ๊ก - The Sweet Girl ----------