Weatherford Group assessment 2012 ประสบการณ์

• Facebook
• Twitter
• Line

Weatherford Group assessment 2012 ประสบการณ์ – ในยุคที่วงการรุ่งๆ การคัดเลือกคนเข้าทำงาน นอกจากจะมีข้อเขียน สัมภาษณ์ เป็นมาตราฐานปกติแล้ว หลายๆบ.ยังมีอีกรอบ เป็นรอบที่ให้ผู้ผ่านด่านเข้าทำกิจกกรมกลุ่ม Baker เรียกว่า Baker Experience ส่วน Schlumberger เรียกว่า Group Activity พี่ใหญ่ สผ.ก็มี ผมจำชื่อไม่ได้

ส่วน Weatherford เรียกว่า Group assessment

Weatherford Group assessment 2012

Group assessment Weatherford ราวๆ ต้น พ.ค. 55

ไปสัมภาษณ์ weatherford มาละครับ

กิจกรรมกลุ่มก็จะเป็นสร้างสะพานโดยใช้หนังสือพิมพ์ กิจกรรมที่สองก็จะมีคำถามมาให้ discuss ครับ พูดภาษาอังกฤษหมดทั้งกิจกรรม

ส่วนสัมภาษณ์กับ manager ก็ทั่วๆไปครับ ตาม resume

Weatherford Assessment Day เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พค. 2555

สวัสดีอีกครั้งครับพี่นก ผม xxx นะครับ เขียนมาแชร์ประสบการณ์ Weatherford Assessment Day เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พค. 2555 ครับ

เริ่มแรก ผมส่ง CV ผ่านทาง website กลางของ Weatherford คือ http://www.weatherford.com

โดยเลือกหัวข้อการสมัครโดยไม่ระบุตำแหน่ง (Apply Without Selecting Job) เหมือนเป็นการทิ้ง CV เอาไว้เผื่อเค้าบังเอิญสนใจ ผลก็คือหลายเดือนผ่านไปก็ยังไม่มีใครติดต่อมาเลยครับ เรียกว่าแทบจะลืมไปแล้ว

จู่ๆวันหนึ่งรุ่นน้องที่เคยไปสัมภาษณ์งานมาด้วยกัน ก็มาบอกผมว่าทาง Weatherford กำลังรับคนอยู่ แล้วเค้าก็ให้เบอร์ติดต่อโดยตรงกับ HR ของ Weatherford มา

ผมเลยรีบโทรไป แล้วส่ง CV ตามไปผ่านทางอีเมลล์ ซักพักพี่ HR ผู้หญิงก็โทรกลับมาถามคำถามเล็กๆน้อยๆเป็นภาษาไทย เช่น จบอะไรมา ทำไมอยากมาทำ Field Engineer แล้วเค้าก็ขอสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ โดยถามเกี่ยวกับสิ่งที่เราเขียนมาใน CV ประมาณ 1 – 2 คำถาม

เสร็จแล้วเค้าก็บอกว่าจะส่ง CV ของเราไปให้คนอื่นรีวิวอีกที ถ้าเค้าสนใจจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง

ผ่านมาไม่กี่วัน พี่ HR โทรมาบอกให้ไปร่วมงาน Weatherford Assessment Day ในวันที่ 11 พค. 2555 ที่โรงแรม Rembrandt แถวๆอโศก

ในวันสัมภาษณ์ เริ่มลงทะเบียน 8.30 น. ที่หน้าห้องประชุม มี candidate ทั้งหมดประมาณ 24 คน ทั้งชาย-หญิง จบมาจากหลากหลายสาขา หลายมหาวิทยาลัยมากครับ

เริ่มงานราว 9 โมง เค้าให้แบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละราวๆ 5 – 6 คน นั่งประจำโต๊ะกลม

มีพี่ HR Manager ผู้ชายมากล่าวเปิดงานเป็นภาษาไทยแบบเป็นกันเอง ฮามากๆ คลายความกดดันไปได้เยอะครับ

เค้าบอกกันตั้งแต่แรกเลยว่าวันนี้ 24 คน จะคัดเอาแค่ 12 คน !! แล้วก็แนะนำผู้ที่จะมาคอยประเมินให้คะแนนเรา เป็น Engineer คนไทยราว 3 – 4 คน ยังหนุ่มๆกันทั้งนั้น รวมทั้งมี Product line manager ชาวต่างชาติอีกราวๆ 2 – 3 คน มาคอยเดินดูและถามคำถามเราด้วย

กิจกรรมแรก มีกระดาษหนังสือพิมพ์เป็นปึกๆ และเทปกาวมาให้ 4 – 5 ม้วน ให้สร้างสะพานที่สามารถรับน้ำหนักขวดน้ำและมีความสูงพอที่จะให้ขวดน้ำลอดผ่านใต้สะพานได้ ให้เวลาวางแผน 10 – 15 นาที ลงมือทำ 10 – 15 นาที (จำเวลาไม่ค่อยได้ครับ)

หลังจากหมดเวลาเค้าก็จะให้ present ผลงานโดยไม่มีการถามคำถามอะไร

จากนั้นก็ทดสอบว่าผ่านมั้ยโดยเอาถ้วยใส่ลูกอมหนักๆที่วางอยู่บนโต๊ะมาวางบนสะพาน (เนื่องจากไม่สามารถหาขวดน้ำมาทดสอบได้ตามโจทย์ 5555) และเอาแก้วน้ำพลาสติกทรงสูงมาลองลอดผ่านใต้สะพานดู

เมื่อครบทุกกลุ่มแล้วก็ให้ยกมือโหวตกันว่ากลุ่มไหนทำผลงานออกมาได้ดีที่สุดแล้วก็แจกรางวัลกันไป (ลืมบอกไปว่ากิจกรรมทั้งหมดบังคับให้พูดกันเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ)

พักเบรค 15 นาที มีชา-กาแฟ น้ำส้ม ขนม ให้ทานกันอย่างเต็มที่ครับ อร่อยดีด้วย

กิจกรรมที่สอง จัดกลุ่มใหม่เป็น 4 กลุ่มเท่าเดิม ให้จับฉลากเลือก 1 case จากทั้งหมด 2 case

โดยกลุ่มผมได้โจทย์ประมาณว่าขณะนี้ชาวบ้านในชุมชนมีการประท้วงไม่พอใจบริษัทในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เราในฐานะบริษัทในวงการจะทำอย่างไรถึงจะทำให้คนอื่นๆเชื่อได้ว่าเราสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม และ มีมาตราการที่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยให้ยกตัวอย่างให้ดูด้วย ให้เวลาปรึกษาหารือรวมทั้งเตรียมตัว present ประมาณ 20 นาที (จำเวลาไม่ค่อยได้อีกแล้ว)

อันนี้จริงๆแล้วเค้าให้กระดาษแผ่นใหญ่ๆมาหลายแผ่นสำหรับใช้เขียนอะไรก็ได้เพื่อ present ด้วย

แต่เวลาผ่านไปเร็วมากๆครับ มีบางกลุ่มยังไม่ทันได้วาดรูปหรือเขียนอะไรเลยก็หมดเวลาซะก่อน รวมทั้งกลุ่มผมด้วย

กลุ่มผมเลยต้องด้นสด วาดรูปไป present ไป นัวมากๆ present จบ Manager ชาวต่างชาติที่ยืนดูอยู่ก็จะยิงคำถามแค่ประมาณคำถามเดียวครับ สำเนียงอังกฤษแท้ๆ ฟังยากหน่อย

พักกินข้าวครับ เป็น Buffet ของโรงแรม

เริ่มช่วงบ่าย มี Country Manager มา present เกี่ยวกับบริษัท จบแล้วเป็นการสัมภาษณ์เดี่ยว

โดยแต่ละ Product line ก็จะเรียกเฉพาะคนที่คุณสมบัติตรงไปสัมภาษณ์แยกกัน บางคนก็ถูกเรียกไปสัมภาษณ์ 2 ตำแหน่ง ต้องรอสัมภาษณ์ 2 ครั้ง ผมก็ถูกเรียกไปสัมภาษณ์ 2 ตำแหน่งเช่นกัน (ไม่ค่อยแน่ใจเรื่องชื่อตำแหน่งนะครับ)

ตำแหน่งแรก ผมถูกเรียกเข้าไปในห้อง นั่งต่อหน้าคนสัมภาษณ์ 4 คน เป็น Manager ชาวอังกฤษ 1 คน (เป็นคนสัมภาษณ์ซะ 95%) อีก 3 คนเป็นคนไทย คำถามเท่าที่ผมจำได้ คือ

• ทำไมคุณถึงมาที่นี่หล่ะ? (คือประมาณว่าทำไมถึงสนใจมาสมัครงานแนวนี้)
• คุณเคยไปร่วมกิจกรรมคัดเลือกกับบริษัทอื่นมาบ้างมั้ย?
• เวลาว่างทำอะไรบ้าง?
• ทำ Thesis อะไรมา?
• รู้จัก Weatherford ครั้งแรกจากที่ไหน?
• ศึกษา Website ของเรามาบ้างมั้ย? อยากทำ Product line ไหน? เพราะอะไรหล่ะ?
• คุณคิดว่าตัวคุณเป็นแนว Academic หรือ Physical ? (คือถามว่าเป็นแนวบู๊หรือบุ๋น นั่นแหละ)
• เคยทำงานกลางแดดร้อนๆมั้ย?
• คุณคิดยังไงกับการต้องย้ายไป-มา อยู่ห่างบ้าน?
• ครอบครัวจะว่าอย่างไรถ้ารู้ว่าต้องไปทำงานเสี่ยงๆ?
• เป็นลูกคนเดียวหรือมีพี่น้อง?
• ถ้าถูกสั่งให้แบกค้อนไปทำงานตอกๆๆๆๆๆๆกลางแจ้งต่อเนื่องเป็น 10 ชม. จะไหวมั้ย?
• สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เคยเจอคืออะไร?
• (อันนี้เพื่อนที่สัมภาษณ์กับอีก Product line บอกมา) Static pressure และ Hydraulic pressure ต่างกันอย่างไร?

คนสัมภาษณ์เป็นกันเองมากๆครับ ใช้เวลานานพอสมควรเพราะผมพูดเยอะมากๆ 5555

หลังจากนั้นผมก็ถูกอีก Product line เรียกไปสัมภาษณ์ โดยคนสัมภาษณ์ คือ พี่ HR Manager ชาวไทย เพราะคนสัมภาษณ์ตัวจริงมาไม่ได้

สัมภาษณ์ชิลๆเป็นภาษาไทยครับ ออกแนวคุยกัน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ พี่เค้าถามว่า

• วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
• สนุกมั้ย?
• เรียนที่ไหนมา?
• เรียนมัธยมปลายที่ไหน?
• เรียนมัธยมต้นที่ไหน?
• CV คุณมีอะไรน่าสนใจบ้าง?
• มีประสบการณ์การทำงานมั้ย?

สั้นๆก็เสร็จครับ

สัมภาษณ์เสร็จราวๆ 4 โมง พี่ HR ก็มาบอกว่าจะแจ้งผลภายในอาทิตย์หน้า และเริ่มงานจริงในวันที่ 1 มิย. นี้ครับ

ส่วนนี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ Weatherford Assessment Day ครั้งนี้เป็น Batch#3 หมายถึงเพิ่งมีการจัดกิจกรรมแบบนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งต่อไปพี่ HR บอกว่าอาจจะเป็นปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ให้ลองติดตามดู

เท่าที่ผมทราบ candidate เกือบทั้งหมดในครั้งนี้ สมัครผ่านทาง Job Fair ของมหาวิทยาลัย และ Website JobsDB ตัวผมเองพลาดงาน Job Fair ของมหาวิทยาลัย รู้สึกเสียดายมากๆๆๆๆครับ เพราะว่าทั้ง 4 บริษัทดังของวงการ มาตั้งซุ้มรับสมัครทั้งหมดเลยครับ ดังนั้นใครอยากสมัครงานโดยตรงง่ายๆ ก็อย่าพลาด Job Fair นะครับ

(ขอบคุณน้องคนนี้มากๆเลยครับ เล่าได้ละเอียดดีจัง … พี่นก)

• Facebook
• Twitter
• Line