Sharing ตู้ปันสุขเมื่อ 2020 ปี ที่แล้ว มุมมองเมื่อย้อนอดีต – ทุกๆศาสนาสอนให้ให้มีการเอื้อเฟื้อแบ่งกัน บ้างก็กำหนดไว้ชัดเจนว่าควรจะ หรือ ต้องมีสัดส่วนเท่าไรกับรายได้ บ้างก็ไม่ได้กำหนดลงไปละเอียดขนาดนั้น
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การแบ่งปันถือเป็นกลไกหนึ่งของทุกๆระบบความเชื่อ ทุกปราชญ์ และ ทุกศาสนา ต่างก็มีเหมือนๆกัน
ช่วงที่โควิด 19 ระบาดนี้ เราได้เห็นตู้ปันสุขเกิดขึ้นมากมายทั่วประเทศ ทำให้ผมนึกถึงคำสอนในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลตอนหนึ่งที่กล่าวถึงเรื่องการแบ่งปันนี้ แต่ออกจากเป็นแนวๆปาฏิหาริย์ๆหน่อยๆ
ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะเรื่องราวปาฏิหาริย์ มักจะเป็นส่วนหนึ่งของทุกศาสนา ในบริบทของความเป็นกุศโลบาย (อุบายอันเป็นกุศล พูดง่ายๆคือ หลอกให้คนทำดีว่างั้น) เพียงแต่ศาสนิกชนมักจะยึดติดกับปาฏิหาริย์อย่างไม่ใช้ปัญญาเพื่อเข้าถึงหลักคำสอนเบื้องหลังปาฏิหาริย์เหล่านั้นมากกว่า
เอะอะอะไรก็ จะขัด จะขอ จะส่อง ออกมาเป็นตัวเลขให้ได้ไปหมด 555
ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล
Sharing ตู้ปันสุขเมื่อ 2020 ปี ที่แล้ว
เรื่องราวในพระคัมภีร์ตอนนี้ กล่าวถึงปาฏิหาริย์ของการแบ่งปันกัน ในรูปแบบที่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นไปได้ ตอนเด็กๆผมก็ไม่เข้าใจหรอก ก็ได้แต่งงๆ เพราะมันขัดกับหลักตรรกะแบบ 1+1 = 2
ลองอ่านข้อความในพระคัมภีร์ตอนนี้ดูซิครับ
พระเยซูทรงเลี้ยงคนห้าพันคน
13 เมื่อพระเยซูทรงทราบสิ่งที่เกิดขึ้นก็ลงเรือเสด็จจากที่นั่นไปยังที่สงบเงียบเป็นการส่วนพระองค์ ประชาชนจากเมืองต่างๆ ได้ยินเช่นนี้ก็เดินไปหาพระองค์ 14 เมื่อพระเยซูเสด็จขึ้นจากเรือ และ ทรงเห็นคนกลุ่มใหญ่ พระองค์ก็ทรงสงสารเขา และ ทรงรักษาคนเจ็บป่วยในหมู่พวกเขา
15 พอตกเย็นเหล่าสาวกมาทูลพระองค์ว่า “ที่นี่ห่างไกลมาก และ ตกเย็นแล้ว ขอทรงให้ประชาชนไป เขาจะได้ไปซื้อหาอาหารกินตามหมู่บ้านต่างๆ”
-------------------------------------------------------
ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ
กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น
16 พระเยซูตรัสตอบว่า “พวกเขาไม่จำเป็นต้องไป พวกท่านจงเลี้ยงพวกเขาเถิด”
17 เหล่าสาวกทูลว่า “ที่นี่เรามีเพียงขนมปังห้าก้อน กับ ปลาสองตัว”
18 พระองค์ตรัสว่า “เอามาให้เราที่นี่” 19 แล้วทรงให้คนทั้งหลายนั่งลงบนหญ้า ทรงรับขนมปังห้าก้อน และ ปลาสองตัวนั้นมา เงยพระพักตร์ขึ้นมองฟ้าสวรรค์ ขอบพระคุณพระเจ้า และ หักขนมปังส่งให้เหล่าสาวก เหล่าสาวกก็แจกจ่ายให้แก่ประชาชน 20 พวกเขาทุกคนได้กินอิ่มหนำ และ เหล่าสาวกเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองตะกร้าเต็ม 21 จำนวนคนที่รับประทานอาหารนั้นมีผู้ชายประมาณห้าพันคนไม่นับผู้หญิง และ เด็ก
มัทธิว 14:13-21
เหลือ L สองชุด M 1 ชุด นะคร๊าบ
ด้วยตรรกะคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ แบบมนุษย์เราๆ ก็คงไม่สามารถอธิบายเรื่องราวที่เขียนเล่านี้ได้อย่างสมเหตุสมผล
ต้องบอกก่อนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมา มีผู้บันทึกหลายคน ในพระธรรมใหม่ ที่เป็นทางการของศาสนาคริสต์ มีผู้บันทึกเอาไว้ (เรียกตามภาษาพวกเราว่า นักบุญ) 4 ท่าน คือ มาระโก (Mark) ลูกกา (Luke) มัทธิว (Mathew) และ ยอร์น (John)
สำเนาที่ผมยกมาข้างต้นเป็นของท่านนักบัญ มัทธิว
ถ้าไปอ่านจากสำเนาอื่นที่บันทึกโดยนักบุญท่านอื่นข้อความจะแตกต่างๆเล็กน้อยในประเด็นจำนวนขนมปัง ปลา และ จำนวนคน อันเนื่องมาจากความโบราณของเหตุการณ์ที่เล่ากันต่อๆมา
นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักของคำสอน คำสอนอยู่ตรงที่ว่า ของกินมันน้อย แต่คนมากมาย แบ่งอย่างไรก็ไม่มีทางจะพอได้ด้วยสามัญสำนึกแบบมนุษย์ๆโลก
หาบ้านให้น้องหน่อยครับ :)
ขาวจั๊วะ กอดได้ อิงได้ วางประดับได้
ปาหัวคนข้างๆก็ได้ (เวลาใช้ให้ไปล้างจานแล้วไม่ยอมไป)
ไม่มีเฉลย
จึงเป็นที่มาของคำว่ามหัศจรรย์ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ บลาๆ ที่สอนๆ เล่าๆกันต่อมา
เมื่อผมโตขึ้นก็เริ่มศึกษา ตั้งคำถาม หาคำตอบ เพื่อจะเข้าใจรากเหง้าที่มาที่ไปของความเชื่อบรรพบุรุษว่านิทานเรื่องนี้มันเป็นไงมากไง ได้ความว่ามีหลายคำอธิบายอยู่เหมือนกันนะ
หนึ่งในคำอธิบายที่ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ …
สมัยก่อน ชนชาติยิวเร่ร่อน อยู่ไม่เป็นที่ ดินแดนก็แล้งแค้นขาดแคลนอาหาร และ น้ำดื่ม ไม่ใช่ในน้ำมีปลาในนามีข้าวแบบบ้านเรา เราอยู่ติดที่ เราไม่เดินทางไปไหน เราเก็บข้าว ผัก ปลา ใส่ยุ้งฉางใส่ไห ใส่ตู้กับข้าว
แต่ชาวยิวสมัยนั้นมีเสบียงติดตัวไปไหนมาไหนตลอดเวลา พูดง่ายๆคือมีตู้กับข้าวติดตัวว่างั้นเถอะ และ ก็ไม่ได้มีกันแค่มื้อเดียว มีพอกินไปได้หลายวันเลยล่ะ และ โดยธรรมชาตินั้น ต่างคนก็ต่างอยู่ต่างกินของตัวเองกัน ถ้าดูในภาพยนตร์ก็จะเห็นว่า คนฮีบรูในทะเลทราย จะมีอุปกรณ์ยังชีพพื้นฐานอยู่บนหลังอูฐ อารมณ์ว่า ไปไหนไปกัน ค่ำไหนนอนนั่น ก็อยู่รอดได้
ดังนั้น พระเยซูก็คงสอนให้รัก และ แบ่งปัน สิ่งของอาหารต่างๆที่มีติดตัวกัน ให้นั่งล้อมวงกันเป็นวงย่อยๆ กลุ่มๆ เล็กๆ ใครมีอะไรก็หยิบออกมาหยิบยื่นให้กับคนที่มีน้อยกว่า หรือ ไม่มี ซึ่งก็คือ ตู้ปันสุขสมัยโบราณดีๆนี่เองครับ
เป็นคำอธิบายที่น่าเชื่อและเป็นไปได้ที่สุดแล้วในสายตาผม
(จริงๆแล้วมีคำอธิบายอื่นอีก แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ออกแนวๆอภินิหารเสียเยอะ ก็เลยคิดว่าไม่เอามาเล่าดีกว่า 555)
อ้อ … ในตอนจบเลรื่องเล่านี้ ยังเล่าไว้ด้วยว่า ขนาดเอามาแบ่งกันกินจนอิ่มพุงกางแล้ว ยังมีเหลือมีมากมาย นั่นเหมือนกับบอกเราซึ่งเป็นรุ่นหลัง 2020 ปีถัดมาว่า คนสมัยก่อน ก็เก็บทรัพยากรต่างๆไว้เกินความจำเป็นมากมาย ถึงขนาดที่เอามาแบ่งกันกินจนอิ่ม แล้วยังเหลือ
ทำให้คิดว่า ถ้าเราเอาทรัพย์สินของคนไทยทั้งประเทศมารวมๆกองๆกัน แล้วเลี้ยงดูทุกคนในประเทศจนเพียงพอ ก็น่าจะยังเหลือเหมือนเรื่องเล่าอิงปาฏิหาริย์ในพระคัมภีร์ตอนนี้
Miracle หรือ เพราะว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง ? แด่เธอผู้ไม่ยอมแพ้
Miracle หรือ เพราะว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง ? แด่เธอผู้ไม่ยอมแพ้
ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ
(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)
 https://raka.is/r/qlzXR |
https://raka.is/r/gP7GV |
--- มีคำถามเพิ่มเติม พูดคุย เม้าส์มอย ไปต่อกันได้ที่กระดานสนทนา (webboard) นะครับ
คลิ๊กเลย
