Oil price war begins ? ซาอุฯเอาจริง? รัสเซียจะยอมคุย? ไทย?

• Facebook
• Twitter
• Line

Oil price war begins ? ซาอุฯเอาจริง? รัสเซียจะยอมคุย? ไทย? – 9 มีนาคม พ.ศ. 2563 เห็นกันไปแล้วนะครับวันนี้ แดงเถือกไปทั้งกระดาน

9 มีนาคม พ.ศ. 2563 กากบาทไว้บนปฏิทินเลยครับ … หุหุ พรุ่งนี้ยังมีต่อภาค 2 ครับ

มันเกิดอะไรขึ้น …

Oil price war begins ?

ซาอุฯเอาจริง? รัสเซียจะยอมคุย? ไทย?

ป่านนี้หารายละเอียดอ่านได้เยอะแยะครับ ผมเอามาให้ดูเป็นน้ำจิ้มจาก 2 สื่อล่ะกัน …

ตลาดน้ำมันโลกป่วน ‘ซาอุฯ’ เปิดศึกสงครามราคา โบรกห่วงกดดันหุ้น PTT-PTTEP

มหาอำนาจแก้เกมกันสุดมันส์ สงครามน้ำมันเปิดฉากขึ้นแล้ว

ภาษาเทคนิคทางเศรษศสาตร์ ภาษาหุ้น ภาษาการเงิน ฟังแล้วงง ผมขออธิบายภาษาบ้านๆเลยนะครับ

อุปสงค์ อุปทาน

• สินค้าในตลาดเยอะ คนต้องการซื้อน้อย สินค้าจะราคาถูก
• สินค้าในตลาดน้อย คนต้องการสินค้ามาก สินค้าจะราคาแพง

มันก็มีเท่านี้ครับ

เวียนนาสัปดาห์ที่แล้ว

ความเดิม … ข้อตกลงเดิมที่โอเปกกับเพื่อนๆนอกโอเปคจำนวนหนึ่ง (ที่เรียกตัวเองว่าโอเปกพลัส) ตกลงอั้นการผลิตกันเอาไว้จนถึง 31 มีนาคม นี้ เพื่อให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่ต้องการ (คือสูงนั่นแหละ พ่อค้าก็งี้ เรียกว่าฮั้วระดับอินเตอร์)

เวียนนาสัปดาห์ที่แล้ว … โอเปกพลัสมานั่งคุยกัน ซาอุฯบอกว่าหลัง 31 มีนานี้ อั้นกันต่อนะพวก ราคาจะได้สูงๆต่อ พญาหมีขาวบอกไม่เอาด้วย อั๊วะไม่เล่นด้วย อยากผลิตออกมาเยอะๆ อั๊วะจะใช้เงิน ทำโน้นทำนี่

ซาอุฯกลับบ้านมือเปล่า …

ดื้อนัก จัดซักดอก

ซาอุฯเลยแพลงฤทธิ์ ลุยถั่วลดราคาลงขายลงอีก 6 – 8 เหรียญ (ขึ้นกับส่งไปขายทวีปไหน) แถมตบตูดด้วยการออกข่าวว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากวันล่ะ 8 ล้านบาเรล * ต่อวัน เป็น 12 ล้านบาเรล

*1 บาเรลก็ราวๆ 159 ลิตร นึกถึงเติมรถเก๋งได้ 3 คัน ประมาณนั้น

ตลาดก็พินาศสิท่านเจ้าประคุณ ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 40 – 50 เหรียญต่อบาเรลดีๆ เหลือ 30 เหรียญต่อบาเรล ก่าๆ ฮ่วย .. (ก่อนหน้านั้น WTI ก็โดนโควิด 19 ล่อราคาซะอ่มอรทัย)

ตอนต้นปี 2015 ที่ราคาน้ำมันดิ่งเหวนั้น WTI อยู่ที่ 23 เหรียญต่อบาเรล ยังจำบาดแผลครั้งนั้นกันได้ไหม … ไม่นานครับเราอาจจะได้เห็นภาพนั้นอีก แต่ด้วยกลไกที่แตกต่างกัน ขึ้นกับว่าครั้งนี้ ซาอุฯ กับ พญาหมี จะอึดกันแค่ไหน

พ่อค้าหั่นราคากัน คนซื้อก็สบาย แต่คนขายหน้าเขียวหน้าเหลือง รายได้เข้าประเทศพ่อค้าลดลงแบบหน้ามือเป็นหลังตีน ไทยแลนด์ ในฐานะผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิก็เปรมไป ได้ใช้ของถูกไปพักใหญ่

เปิดดูต้นทุนพ่อค้ากันหน่อย

ตารางข้างบนนั่คือ ต้นทุนการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ยต่อ 1 บาเรล คอลัมภ์แรก คือ ต้นทุนการผลิตล้วนๆ (production cost)

ส่วนคอลัมภ์ถัดมาเป็นต้นทุนการผลิตที่รวมการบริหารจัดการ ภาษี ดอกเบี้ย ภาระทางการเงิน และ อื่นๆ (total cost) ซึ่งถ้าจำเป็นส่วนพวกนี้ที่เพิ่มมาสามารถกดลงไปได้อีก แต่ production cost นั้นไม่สามารถลดได้เยอะ เพราะเป็นต้นทุนการผลิตจริงๆ

ดูต้นทุนของอาเสี่ยทั้งหลายแล้วเป็นไงครับ ใครจะยืนระยะได้นานกว่ากัน งานนี้เจ็บกันถ้วนหน้า ใครทนกลืนเลือดได้นานกว่ากันเท่านั้นแหละ

เช่น … ถ้าราคา WTI เหลือ 25 กว่าๆ Shale oil ของพี่ทรัมป์ก็คงต้องเก็บฉาก หยุดขุด หยุด frac หุหุ

และที่สำคัญราคา WTI ปัจตุบันที่ 30 นิดๆ ไม่สามารถยืนระยะได้นาน เพราะผู้ผลิตจะกระอักเลือดตายกันหมด ซึ่งไม่มีใครอยากตาย เมื่อไม่มีใครอยากตาย ความไม่อยากตายก็จะบังคับให้มานั่งคุยกันเองแหละ

จะลงไปต่ำสุดแค่ไหน และ จะยาวไปอีกเท่าไร

ภาษาฝรั่งเรียกคำถามแบบนี้ว่า คำถามล้านเหรียญ ( 1 million dollars question) แปลว่าใครตอบได้ก็รวยล่ะ ผมกำลังจะบอกว่า ผมก็ไม่รู้หรอก ถ้าผมรู้ ผมคงไม่มานั่งทำงานงกๆแลกเบี้ยเดือนไม่กี่บาทหรอก

เอาว่าเป็นความเห็นผมคนเดียวล้วนๆ …

ภายในช่วงเดือนนี้ คือ จบที่ 31 มีนาฯ (เนื่องจากข้อตกลงยังอยู่ให้อั้นกำลังการผลิตกันอยู่) ก็น่าจะเป็นภาพของวันนี้อยู่ ไม่ลงจากนี้ และ ไม่ดีกว่านี้ ระหว่างนั้น ซาอุฯกับพญาหมีขาวคงต้องคุยกันล่ะ จะยอมตายกันไปทั้งคู่ไหม (แล้วลากอเมริกา และ เพื่อนๆผู้ผลิตล่องจุ้นไปด้วยกัน)

ซาอุฯคงหมั่นไส้เคจีบีนั่นแหละ ก็เลยให้บทเรียนกันหน่อย ให้รู้ว่าไผเป็นไผ

ซึ่งความเห็นส่วนตัวผม คิดว่า วิกฤตินี้เราระบุคู่กรณีได้ชัดๆ ทุกคนก็จ้องดู + กดดันอยู่  ซาอุฯกับพญาหมีขาว ก็ต้องรีบๆหาทางออกที่สวยๆให้ได้เร็วๆล่ะ ทุกคน(ฝั่งพ่อค้า)อาสาเป็นกาวใจ ตอนนี้ผมก็ทราบมาว่าก็ได้คุยกันแบบไม่เป็นทางการไปแล้วล่ะ (ทำเหมือนวงใน เปล่าหรอก อ่านข่าวมาอีกที อิอิ)

ไม่ถึงปลายมีนาฯ ผมว่าน่าจะตกลงกันได้ ราคาน้ำมันก็จะกลับไปใกล้ๆเดิม …

แต่ที่ผมคาดเดาไม่ถูกจริงๆคือ ถ้า 31 มีนาฯ ยังตกลงกันไม่ได้ คราวนี้ล่ะ(มรึง) ทุกประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบก็จะจัดเต็มกัน เพราะใครจะยอมอั้นผลิตน้อยๆที่ราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดินล่ะ รายได้หายไปตรึม

ราคาลดน้อยลง อยากได้เงินเท่าเดิม ก็ต้องขายปริมาณมากขึ้น เด็กประถมก็รู้

แล้วเจ้าโควิด 19 ก็ยังคงแผลงฤทธิ์ ออกฤทธิ์ออกเดชอยู่ คนก็ไม่มีอารมณ์เดินทางไปไหน ไม่เที่ยว ไม่ดูหนังดูละคร โป๊งชึ่งๆอยู่กันแต่ในบ้าน ปริมาณการใช้พลังงานก็ไม่เยอะนัก … เอ้า … ก็ไม่มีใครซื้อน้ำมัน(พลังงาน) คราวนี้ น้ำมันก็ท่วมโลกล่ะซิ 555 🙂

ยินดีด้วยเพื่อนๆพลังงานทางเลือก เลื่อนเวลาทำคลอดเชิงมหภาคออกไปอีกนะเพื่อน

เหมือนที่กูรูหลายท่าน (ไม่ใช่ผม) ในวงการพลังงานเคยพูดเอาไว้ว่า คนจะเลิกใช้ พลังงานฟอสซิล ไม่ใช่เพราะมันหมดไป แต่เพราะ 1. ราคามันแพง หรือ 2. เหตุผลทางสิ่งแวดล้อม

ข้อแรก ราคาแพง ผมว่าคงไม่เกิดในเร็ววันแน่ๆ เพราะดูต้นทุนการผลิตน้ำมันของประเทศต่างๆดิ แถมปริมาณสำรองอีกเป็นกระตั๊กๆ …

ก็คงจะข้อ 2. แหละ แต่กว่าจะเป็นข้อ 2. ก็ต้องแหกด่านมะขามเตี้ยข้ามศพก๊าซ (ที่โลกยังมีอีกบานตะเถือก) ไปก่อน ก๊าซเป็นพลังงานฟอสซิลที่น่ารักกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าน้ำมันเยอะ และอยู่ในโซนที่นักสิ่งแวดล้อมยอมรับได้

อ้าว … นอกเรื่อง ซาอุฯกับพญาหมีขาวไปไหนเนี้ย …

ผลต่อธุรกิจในอ่าวไทย

ตลาดก๊าซในอ่าวไทยเรา เป็นตลาดระยะยาว พูดง่ายๆคือ ทำสัญญิงสัญญาผูกข้อไม้ข้อมือกับคนซื้อก๊าซไว้แล้ว ไม่เหมือนตลาดน้ำมันที่เป็นตลาดซื้อขายณ.จุดผลิต (spot market) ที่ราคาผันผวนได้ง่าย

การผลิต และ ซื้อขาย นำส่ง ก๊าซต้องใช้ระบบขนส่งทางท่อที่ต้องมีการลงทุนล่วงหน้าเยอะกว่า จึงมักเป็นตลาดสัญญาซื้อขายระยะยาว ยืดหยุ่นน้อยกว่า ปลอดภัยกว่า แต่ในทางตรงกันข้าม เวลาราคาน้ำมันขึ้น ก็ไม่ได้รับอานิสงฆ์เช่นกัน

แหล่งข่าวที่ไม่ยืนยันก็บอกว่า รายได้ของพี่ใหญ่ก็ขายแต่ก๊าซนี่แหละเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้กระเทือนรายได้อะไรมากมาย แถมมีการประกันความเสี่ยงไว้ล่วงหน้าแล้ว (ทุกบ.ก็ทำประกันกันทั้งนั้น) กับ ถือเงินสดไว้บาน ราวๆ 3000 พันล้านเหรียญ (อันนี้ดูในผลประกอบการที่แถลงให้ตลาดหลักทรัพย์เมื่อปลายปีที่แล้ว)

ส่วนต้นทุนต่อบาเรลนี่ ผมไม่ทราบแน่ชัด แอบบอกได้แค่ว่าไม่มากเท่าไร ติด TOP 12 ในตารางข้างบนนั่นแหละ เพื่อนบอกว่าพี่ใหญ่ยังสบาย ยืนระยะต่อได้แบบชิวๆ …

ซื้อหุ้นพลังงานได้หรือยัง

ก็นะ หาอ่านที่วิเคราะห์กันตามสื่อต่างๆล่ะกัน ข้าน้อยมิอาจๆแนะนำ 555

วันนี้ก๊วนผมก็คุยกันเยอะมากเรื่องนี้ (แทบไม่ได้ทำงานทำการกันล่ะ 555) ต่างคนก็ต่างกลยุทธ์ ผมก็ไม่รู้ของของใครผิดใครถูก

ส่วนตัว(อีกตามเคย) ผมกันเงินสดไว้ก้อนหนึ่งใส่ตู้เย็นไว้ที่เรียกว่า เงินเย็น นั่นแหละ แปลว่า ผมไม่ใช้มันในระยะ 5 – 10 ปี ผมก็เอามันหาร 5 ผมเรียกของผมเองว่า 5 ไม้ แล้วทะยอยเก็บหุ้นพลังงานไปเป็นซ๊อตๆ โดยตั้งเป้าอิงไว้กับราคาหุ้นพลังงาน เช่น วันนี้ผมก็จัดให้พี่ใหญ่ไปไม้นึง

พอหุ้นที่ผมหมายตา ลงไปอีกเท่าที่ผมวางราคาไว้ในใจ ไม่ว่าจะมีข่าวอะไร บวกหรือลบ ผมก็จัดไปอีกไม้ ถ้าขึ้นก็นั่งดู … ถ้าลงไปที่ราคาเป้าหมาย ก็จัดไปอีกไม้ … แบบนี้เรื่อยๆ จนหมด 5 ไม้ แล้วออกจากสนามมาเป็นผู้ดู 555 🙂

เอาล่ะ มาเม้าส์ตามสัญญาล่ะ … ไปนอนละนะครับ พรุ่งนี้เผื่อจะได้จัดอีกไม้ 🙂

(อัพเดท) ……………………………

ตอนนี้เห็นมี infographic ออกมาเยอะเกี่ยวกับต้นทุนการผลิตน้ำมันต่อบาเรลของประเทศต่างๆ อารมณ์ว่า ใครจะยืนระยะได้นานกว่ากันถ้าอัดกันจังๆด้วยราคา ก็อยากจะให้เข้าใจนิดว่า ต้นทุนใน inforgraphic ต้องแยกดีๆว่าเป็นต้นทุนประเภทไหน เป็นต้นทุนผลิต (production cost) หรือ ต้นทุนรวม (total cost)

ต้นทุนการผลิต คือ ต้นทุนจริงๆของการผลิต ค่าท่อ ค่าขุด ค่าคน ค่าของ ค่าขนส่ง เก็บรักษา บลาๆ ถัวๆออกมาว่าบาเรลล่ะเท่าไร

ซาอุดิอาระเบีย 5-9 (จิ้มพรวดๆก็ไหลเอาไหลเอา)
รัสเซีย 15-20 (มันหนาวน่ะ เข้าใจกันหน่อย 555)
สหรัฐ 30-40 (เพราะเทคโนโลยีที่ใช้สูงกว่า shale oil นะ ต้อง frac ต้องไรเยอะ)

สมมุติ​ว่า เราผลิตน้ำมัน​ได้ 50 บาร์เรลต่อวัน เราจะได้เงินเท่าไรต่อวันครับ

สมมุติ​ว่า เราผลิตน้ำมัน​ได้ 50 บาร์เรลต่อวัน เราจะได้เงินเท่าไรต่อวันครับ

Why Greenland matters? เพราะน้ำมัน จริงหรือ? ไปทัวร์ขั้วโลกเหนือกัน …

• Facebook
• Twitter
• Line