Forum

Please or Register to create posts and topics.

Extreme Assumption

วิธีหนึ่งที่ผมมักใช้เสมอเวลาต้องแก้ปัญหาทางวิศวกรรมไวๆ ผมไม่รู้ว่ามีชื่อเรียกวิธีนี้ไหม ผมตั้งชื่อของผมเองว่า extreme assumption

ถ้าปัญหาวิศวกรรมอะไรที่ดูก่ำกึ่งๆ ผมจะใช้วิธีสมมุติให้มันสุดๆ หรือ สุดขั้วไปข้างหนึ่ง โดยยังคงหลักการเดิมของปัญหาเอาไว้ แล้วสามัญสำนึกมันจะตอบได้เอง

ลองดูตัวอย่างง่ายๆ ดูรูปข้างล่าง น้ำถังไหนจะหมดก่อน ถ้าเจาะรูเยื้องไปทางถัง A นิดหนึ่ง

ถ้าต้องคำนวนคงปวดหัวตาย แต่ก็สามารถทำได้นะ โดยคิดว่า ความดันก้นถึงมันเท่ากันก่อนเปิดรู เพราะระดับน้ำในถังมันเท่ากัน แต่ระยะน้ำวิ่งจากถัง B มาที่รู ไกลกว่า น้ำที่วิ่งจากถึง A มาที่รูเดียวกัน พื้นที่หน้าตัดท่อเท่ากัน ดังนั้น แรงต้านทาง (friction) จากถัง B มาที่รูมันมากกว่า ดังนั้น น้ำที่มาจากถัง B ถึงรูมันต้องน้อยกว่า น้ำถัง B หมดช้ากว่า

แต่แอ๊ะ ก็ท่อมันเชื่อมกันนิ ตามหลักของปาสคาลแล้วน้ำมันต้องรักษาระดับกันทั้งสองถังไม่ใช่เหรอ ... เอาล่ะซิ ชักงง แล้วโมเลกุลน้ำที่ไหลออกจากรู จะรูได้ไงว่า โมเลกุลไหนมาจากถังไหน หรือ น้ำจะไหลหมดถังพร้อมกัน

ปวดหัว คิดแบบผมดีกว่า ง่ายๆเลย

1. อย่าคิดว่าเป็นรู เพราะถ้าคิดว่าเป็นรู ท่อมันจะเชื่อมกัน แล้วจะไปงงกับ กฏของปู่ปาสคาล ให้จิตนาการว่าท่อมันขาดออกจากกัน หรือ รูใหญ่เท่าขนาดหน้าตัดท่อ ... ขยายสมมุติฐานให้สุดๆขั้วไปเลย แต่คงหลักการปัญหาไว้ คือ น้ำไหลออกจากรูที่ขนาดเท่าๆกัน

2. ลด H ลงให้เหลือ 0 แล้ว ย้าย รูไปอยู่ก้นถัง A เห็นไหมครับ คิดแบบนี้ สมมุติฐานเดิมเลย คือ รูอยู่เยื้องไปทางถัง A แต่เลื่อนไปให้มันสุดๆไปเลย ให้อยู่ใต้ถัง A ส่วน H นั่น มันเท่ากันทั้ง 2 ถัง ถ้าลดเป็น 0 มันก็ยังรักษาโจทย์เดิมอยู่นิ

แค่นี้ก็ตอบได้แล้วว่า น้ำในถัง A หมดก่อนแน่ๆ

ลองเอาหลักการนี้ไปประยุกต์ใช้ดูนะครับ

(log in แล้ว comment กันได้เลยครับ ถ้ายังไม่ลงทะเบียนก็ลงทะเบียนกันน้าาา แป๊บเดียว ใช้แค่ชื่อเล่น กับ password จะได้เม้าส์มอยกันได้)

log in

registration

The Sweet Girl

ของมือสองของเฟิร์นค่ะ มีหลายชิ้นเลย ราคาดีสุดๆ (คลิ๊กที่รูปนะคะ ลิงค์จะพาไปที่ร้านค่ะ)

Fern shop

--------- คลิ๊ก - The Sweet Girl ----------