4 non core skills for engineer 4.0 – core technical skill อาจจะไม่พอแล้วครับ

• Facebook
• Twitter
• Line

4 non core skills for engineer 4.0 – แค่ core skill อาจจะไม่พอแล้วครับ เนื่องด้วยตอนนี้งานผมได้เลี้ยวออกมานอกเส้นทางการขุดเจาะฯ ตามกรรมตามวาระของเส้นทางอาชีพ ทำให้เห็นอีกมุมหนึ่งของงานขุดเจาะฯที่ดูๆไปแล้วก็ไม่ต่างกับงานวิศวกรรมด้านอื่นๆเลย ที่แนวโน้มจะไปในทางเดียวกัน

แนวโน้มที่ว่า คือ core technical skill หรือ ทักษะทางเทคนิคหลัก อาจจะไม่พอสำหรับการเติบโตในสายอาชีพในระยะยาว

จริงครับที่ทักษะทางเทคนิคหลัก เป็นใบเบิกทางให้เราเข้ามาทำงานที่เราทำอยู่ ในกรณีผมก็คือ วิศวกรรมขุดเจาะฯ แต่เมื่อเราผ่านการทำงานมาระดับหนึ่งแล้ว เราจะเห็นว่ามีอะไรบางอย่างที่จำเป็นต้องรู้ ถ้าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเรา เพื่อจะก้าวไปข้างหน้าได้ดีขึ้น (โดยไม่ต้องไปเทียบกับใครหรอก)

4 non core skills for engineer

พ.ศ.นี้ที่ทุกงานวิศวกรรมจมอยู่ใต้ข้อมูลมหาศาล แนวโน้มของทุกงานวิศวกรรมที่ต้องบริหารจัดการ และ ใช้ประโยชน์จากข้อมูลมหาศาลเหล่านี้

นอกจากทักษะทางเทคนิคหลักที่เราทำมาหากินกันอยู่นี้แล้ว ผมคิดว่า อีก 4 ทักษะ ที่เราจำเป็นต้องเรียนรู้ไว้ เพราะจะช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้น แม่นยำขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น (ได้งานมากขึ้น ใช้เวลาทำน้อยลง)

Query tool

คุ้นๆไหมครับ ที่เวลาจะหาข้อมูลอะไรจากข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบไฟล์ excel ขนาดใหญ่ หรือ ฐานข้อมูลแบบต่างๆที่บ.ใช้อยู่ เราต้องไปง้องอน IT หรือ Database Admin ไปเอาออกมาให้ เพื่อนเราเหล่านี้ เขาทำงานประจำเขาหลายๆอย่าง บางที ป่วย ลาพักร้อนบ้างไรบ้าง กว่าจะได้ข้อมูลมาให้เราทำงานต่อ ก็เสียเวลากันไปหลายวัน

บางทีได้ข้อมูลมา ก็ไม่ใช่ที่ต้องการ ก็ต้องเปลี่ยนเงื่อนไขการค้นหาข้อมูลอีก ก็ต้องวนกลับไปขอให้ช่วยอีก ก็ไปเข้าต่อคิวงานเขาอีก เผลอๆก็โดนบ่นกลับมา หุหุ

งานเราที่ควรจะเร็วก็ช้าซะงั้น …

Query tool ครับ เป็นเครื่องมือที่เริ่ดมากครับ ใช้ดึงเอาข้อมูลจากฐานข้อมูลหลายๆรูปแบบภายใต้เงื่อนไขที่เรากำหนดได้ เช่น ผมอยากได้ ชื่อหลุม ชื่อยี่ห้อหัวเจาะ ความลึก อุณหภูมิ ของหลุมที่ขึ้นต้นด้วย ABC ที่เจาะในปี 2015 เป็นต้น

Query tool มีเยอะครับ หลายยี่ห้อมาก แต่ที่ผมแนะนำคือ Microsoft query (MS query) เพราะ ใช้ง่าย ฟรี (ติดมากับ excel) และ ที่สำคัญ ตัวช่วยเยอะ ใช้ตรงไหนไม่ได้ ไม่เป็น กูเกิลก็เจอเคล็ดลับต่างๆ

เดี๋ยวนี้ผมไม่ง้อ IT หรือ data admin แล้วครับ ผมแค่ขอ authorization กับ ชื่อ ที่อยู่ (location) ของ ฐานข้อมูล Driver ที่ต้องใช้ (อาจจะต้องง้อให้ IT มาลงให้ครั้งแรกครั้งเดียว) ผมเอา MS query จิ้มเข้าไป สบายใจโก๋ อยากได้ข้อมูลอะไร เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขอย่างไร เปลี่ยนใจกี่ครั้ง ก็ไม่ต้องรอให้ใครมาทำให้

ได้ข้อมูลมา ก็เอาไปใช้งานต่อได้เร็วดังใจ เรียนรู้ไม่ยากครับ ไดโนเสาร์อย่างผม ไปอ้อนสาวๆ data admin ให้เริ่มพื้นฐานให้ พอมีพื้นนิดๆก็กูเกิลต่อได้เองแล้ว สบายบรื้อ …

VBA (Visual Basic)

คนคิด Excel น่าจะได้รับรางวัลโนเบล ว่าไหมครับ ลองคิดดูว่าถ้าวันนี้เราไม่มี Excel วิศวกรอย่างเราๆจะทำงานอย่างไร แต่อย่าลืมว่า ปี 1969 ตอนปู่นีลไปเหยียบดวงจันทร์ เราก็ไม่มี Excel นะ 555 🙂

Excel ทำงานได้สารพัดอย่าง สามารถโยง ลิงค์ กันไปมาระหว่าง tab และ file ได้อย่างเริ่ด แต่เคยไหมครับที่เราต้องทำงานซ้ำๆกันกับ Excel เรื่อยๆ ทุกๆเช้า ทุกเย็น เป็นงานซ้ำๆ เช่น เอาตัวเลขนั้นจากไฟล์โน้นมาใส่ตรงนี้ แล้วเอาไปทำโน้นทำนี้ โดยที่เขียนสูตรเอาไว้ไม่ได้ ต้องทำ manual ทุกเช้า ทุกเย็น

หรือ อีกทีก็ต้องคำนวนอะไรที่ สูตรใน Excel ทำไม่ได้ เช่น การทำซ้ำ วน loop หาคำตอบอะไรสักอย่าง ที่ใช้สูตรไม่ได้ หรือ ไม่มีสูตรพิศารเฉพาะกิจที่เราต้องการ

หรือ ต้องการทำแบบฟอร์มโต้ตอบ (user interface) เป็นคล้ายๆหน้ากาก เพื่อใช้ในการคำนวนผลอะไรสักอย่าง

Visual Basic (VBA) เป็น ภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาหนึ่งที่ยังหลงเหลือมาถึงทุกวันนี้ (จากสมัยผมที่เรียน Assembly, COBAL, FORTRAN, Pascal, BASIC, C กันมา)  VBA สิงอยู่ใน Excel ครับ เขียนง่าย เข้าใจง่าย มีตัวช่วยเยอะ หัดเองได้ ซื้อหนังสือมาเล่ม จิ้มๆตาม 2 วัน เสาร์ อาทิตย์ ก็เป็นแล้วครับ

คราวนี้ล่ะ คุณจะเป็นเทพเลย ทำได้ทุกอย่างบน excel ชนิดที่คนอื่นก็ทำไม่ได้ งานที่ซ้ำๆต้องมานั่งทำ manual ทุกเช้าทุกเย็น วันล่ะ ครึ่งชม. วันล่ะชม. เหลือไม่ถึงเสี้ยวนาทีเสร็จ

ผมชอบจ้างคนเก่งที่ขี้เกียจ คนแบบนี้ มักจะหาอะไรมาช่วยให้งานเดิมๆเสร็จเร็วขึ้น เชื่อผมเถอะ ถ้าคุณหัด พวก MS query + VBA เป็น ทำงานอะไรสักอย่างให้มันเสร็จเร็วขึ้นกว่าเดิม ดีกว่าเดิม สักงาน 2 งาน หัวหน้างานคุณสักเหตุเห็นได้แน่นอนครับ เรียกว่าเข้าตากรรมการแน่ๆ

Visualization software

เคยไหมครับที่นำเสนออะไรแล้ว หัวหน้าหรือที่ประชุม อยากเห็นมุมมองการนำเสนอที่แตกต่างไปจากที่เราเตรียมมา เราก็ต้องกลับไปทำมาใหม่ การตัดสินใจอะไรที่ควรจะทำได้ในการประชุมนั้นๆก็ต้องเลื่อนไปอีก

เราเองผู้นำเสนอก็ถูกมองว่าทำการนำเสนอไม่ถูกจุด(ไม่โดน ไม่เข้าประเด็น ไม่ถูกใจ บลาๆ)

วิธีหนึ่งที่สามารถทำได้คือ pivot graph ใน Excel ซึ่ง พวกเราคงไม่มีใครทำไม่เป็น

ไหนจะเรื่องความเป็นปัจจุบันของข้อมูลอีกล่ะ เช่น เราอุตส่าห์ทำแทบตาย ใช้ข้อมูลถึงปลายเดือนที่แล้ว แต่กว่าจะนัดท่านๆมาประชุมได้ ล่อไปจะปลายเดือนอีกเดือนหรืออีก 2 เดือน

พอนำเสนอ โดนถามว่า ข้อมูลที่เอามาวิเคราะห์นี่ถึงเมื่อไร อ้าว แค่เดือนที่แล้วนี่นา อยากเห็นภาพจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะความเป็นปัจจุบันของข้อมูลมีผลต่อการตัดสินใจนะ ในกรณีนี้ … ซวยเลย กลับไปทำมาใหม่ นัดท่านๆมาประชุมใหม่

วิธีหนึ่งที่สามารถทำได้คือ pivot graph + MS query ใน Excel โดยเปลี่ยนมุมมองการนำเสนอ โดย pivot graph แล้ว กด MS query คลิ๊กเดียว pivot graph ก็เชื่อมกับ ฐานข้อมูล graph ก็ออกมาเป็นปัจจุบัน (แน่นอนว่าปัจจุบันเท่าที่ฐานข้อมูลมี) ทันที

ปัจจุบันนี้มีสิ่งที่เรียกว่า Visualization tool ครับ คือ มันเอา pivot table + MS query มารวมเป็นแพ็คเดียวกัน แถม template graph สวยๆเริ่ดๆ ดูมือโปร และ ฟรี เยอะแยะ บางยี่ห้อ เชื่อมต่อกับแผนที่ได้ด้วย กูเกิลดูเอาได้ครับ คงไม่มีใครไม่รู้จัก

Visualization tool ที่ใช่แพร่หลายกันก็มี Power BI, Tableau และ Spotfire

รักค่ายไหน ปลื้มค่ายไหน ก็ไปหัดกันได้เลย 90% ใช้งานได้ เหมือนกันหมด แตกต่างกันในความสามารถบางอย่างปลีกย่อยเท่านั้น ไปกูเกิลเอาเอง มีตารางเปรียบเทียบอยู่ว่ายี่ห้อไหนทำอะไรได้ไม่ได้ตรงไหนอย่างไร แต่ถ้าคิดอะไรไม่ออกก็ Power BI แหละ ฟรีด้วย

Predictive Analysis

การวิเคราะห์ข้อมูล มี 4 ประเภทใหญ่ๆ

3 ทักษะแรก (Query, VBA, Visualization) พาเรามาแค่ 2 กลุ่มแรกคือ ตอบคำถามที่ว่า เกิดอะไรขึ้น และ ทำไม่ถึงเกิดอะไรที่ว่านั่น แต่ไม่ได้ตอบว่า อะไรจะเกิดขึ้น และ จะทำให้เกิดขึ้นได้อย่างไร

Predictive analysis จะช่วยเราตอบคำถามที่สาม “จะเกิดอะไรขึ้น”

เราตอบคำถามนี้ได้จากการสร้างตัวแบบ (model) ความสัมพันธ์ของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แล้วเอามาใช้ทำนายอนาคต

ตัวแบบหนึ่งที่พวกเราที่เป็นวิศวกรต้องรู้จักกันก็คือ Simple Regression และ Multiple Regression คิดว่าอยู่ในหลักสูตรวิศวกรรมทุกสาขานะครับ จำได้ว่าผมเรียนตอนม.6 ด้วยซ้ำในวิชาสถิติเบื้องต้น แต่เรียนแค่ Simple Regression คือ ตัวแปรเดียวนั่นแหละ

ตัวแบบที่ว่านั่น เราเรียก Machine Learning (ML) model ซึ่งก็มีหลายๆ model โดย regression ก็เป็น 1 ในนั้น สำหรับมือใหม่ มี 10 ML ที่แนะนำว่าควรรู้จักเอาไว้ อย่างน้อยคุ้นชื่อก็ยังดีก็ตามนี้นะครับ

Top 10 Machine Learning Algorithms for Beginners

เครื่องมือ predictive analysis ที่ใช้กันมีมากมายในตลาด ที่ผมแนะนำคือ Rapid Miner (โหลดมาติดตั้งได้ฟรี) และ Azure (ใช้บนเมฆ) เพราะใช้ง่าย มีต้นแบบ(ML model)ที่จำเป็นกับงานเราครบ และ ที่สำคัญ ฟรี 555 🙂

ไปกูเกิล ทำการบ้านต่อเอาเองในรายละเอียดว่าจะใช้ได้อย่างไร มีหลักสูตรให้เรียนมากมาย ทั้งเสียตังค์ และ ฟรี ในยูทูบ

ใน https://www.lynda.com/ ก็เป็นแหล่งคอร์สมากมายให้เรียนรู้ ฟรีบ้าง เสียเงินบ้าง ก็สามารถเลือกเอาได้ครับ

สรุป

โลกก้าวไปไกลว่าวิชาการ เทคนิค ดั้งเดิม ที่เราเรียนมาในตำรา การจะหวังว่า ตำรา และ มหาวิทยาลัยจะสอนทุกอย่างมาให้เรานั้น (หรือ บ.นายจ้างเราจะต้องป้อนต้องสอนเรา) เป็นความคิดที่ผิดมากๆ เราต้องเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเองตลอดเวลา

ถ้าเราไม่เรียนรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่องาน และ ความก้าวหน้าของเรา ก็ไม่มีใครบังคับ แต่อย่าโวยวายตอนเพื่อนที่เข้ามาทำงานพร้อมกันที่เขาเรียนรู้เพิ่มเติมแล้ว ทำงานได้ดีกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า เขาก้าวหน้าไปกว่าเรา

หรือไม่ก็โดนเด็กจบใหม่ที่ทันสมัยเกี่ยวกับเครื่องมือต่างๆที่ผมแนะนำ ใช้ visualization tool เป็น ใช้ Predictive tool แก้ปัญหางานได้ ทำงานแป๊บๆก็ไปถึงไหนต่อไหน

… ส่วนเราผู้หยิ่งทะนงในประสบการณ์(เก่าๆ เครื่องมือเก่าๆ วิธีการเดิมๆ) ก็ยังอยู่ที่เดิมนั่นแหละ …

• Facebook
• Twitter
• Line