ล่าสุดใหม่แกะกล่อง สัมภาษณ์ และ ด่านทั้งหมดของ SLB Field Engineer 2019

• Facebook
• Twitter
• Line

ล่าสุดใหม่แกะกล่อง การสัมภาษณ์ และ ด่านทั้งหมดของ Field Engineer Schlumberger 2019 – ยาวมากเลยครับ แต่ก็คุ้มที่จะอ่านกัน ขอบคุณตัวโตๆกับน้ำใจของน้องคนนี้เลยครับ อ่านแล้วฟินตามกันไปเลยครับ เห็นภาพ สนุกดีครับ

ล่าสุดใหม่แกะกล่อง

ล่าสุดใหม่แกะกล่อง การสัมภาษณ์ และ ด่านทั้งหมดของ Field Engineer Schlumberger 2019

สวัสดีครับ เนื่องจากเว็บนี้เป็นประโยชน์กับผมมากสำหรับแนวทางการสัมภาษณ์และความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวงการนี้ที่ผมไม่สามารถเรียนรู้ได้ในห้องเรียน วันนี้ผมเลยจะมาแชร์ประสบการสัมภาษณ์และด่านทั้งหมดของ Schlumberger ปี 2019 ตำแหน่ง Field Engineer ล่าสุดใหม่แกะกล่อง ทุกรายละเอียดจนถึง Field Exposure ในแผนก Wireline Services

ด่านแรก

หลังจากที่ส่ง Resume ไปประมาณ 3 เดือนกว่าทั้งใน เว็บ SLB และ JobsDB (ตอนนั้นประกาศรับ Field Specialist Trainee) มีเบอร์จากมาเลเซียโทรมา (Recruitment Manager ของ SLB โทรมา) ก็รับสาย แล้วก็เริ่มกระบวนการสัมภาษณ์สดผ่านโทรศัพท์ (ไม่ได้เตรียมตัวเลย ตื่นเต้นมาก Grammar ผิดกระจาย แต่ก็พอสื่อสารได้) โดยคุยกับคนมาเลเซีย ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด โดยเป็นคำถามทั่วไป ไม่มี Technical แต่อย่างใด คำถามจะมีคร่าวๆดังนี้ครับ

1. ถามเกี่ยวกับใน resume เกรด ชื่อ นามสกุล มหาลัย สถานที่มหาลัย บลาๆ วันเกิด อายุ

2. คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัท SLB บ้าง

3. อะไรคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคุณ (Biggest Achievement)

4. คุณจะจบตอนไหน เริ่มงานได้ตอนไหน

5. ถามเกี่ยวกับครอบครัว แนะนำครอบครัว

6. ถามเกี่ยวกับกิจกรรมที่เราทำ (ใน Resume นั่นแหละ ให้ขยายความ ใครเขียนอะไรลงไป เมคอะไรลงไปต้องอธิบายได้ 55+)

7. ต่อเนื่องจากกิจกรรมใน resume ถามว่าคุณได้รางวัลหรือประสบความสำเร็จหรือได้ประโยชน์อะไรจากกิจกรรมเหล่านั้น

8. ถามเกี่ยวกับที่ฝึกงาน อธิบายคร่าวๆ แผนกไหน ทำอะไร

9. มีคำถามไหม

ใช้เวลาสัมภาษณ์ไปทั้งหมด 10 กว่านาที หลังจากนั้นก็ประกาศผลในสายเลยครับ ผมคิดว่าด่านนี้เป็นการสแกนเราว่าเราสื่อสารได้ไหม พูดรู้เรื่องไหม อะไรประมาณนี้ครับ

ถ้าพูดรู้เรื่อง ตรงตามที่เขียนใน resume คำตอบโดนใจก็ผ่านได้ไม่ยากครับ หลังจากนั้น ประกาศผลว่าผ่าน ก็จะนัด มา Group Activities

แต่!!! ผมเป็นกรณีแปลกประหลาดครับ พอดี๊วันที่เขานัด Group Activities ผมติดไปทำกิจกรรมที่ต่างประเทศเกี่ยวกับสายอาชีพนี้แหละครับ เขาเลยใจดีเลื่อนวันให้ผม ไม่ต้องมา Group Activities บอกผมว่า กลับมาให้อีเมลไปบอกเขาเพื่อนัดวันสัมภาษณ์

ด่านสอง

หลังจากที่ผมกลับมาจากต่างประเทศ ผมก็ Email ไปหาเขาทันที เขาก้นัดสัมภาษณ์อีกรอบภายในอาทิตย์นั้นเลย คราวนี้จะเป็น Video Conference โดยสัมภาษณ์กับคนเดิม Recruiting Manager ที่มาเลเซีย (ส่วนใหญ่แผนกรับสมัครคนเข้าทำงานของ SLB โดยตรงจะเป็นคนมาเลเซียครับ) โดยคำถามเพิ่มความรู้ในสายอาชีพมาเพียงเล็กน้อย ที่เหลือเป็น Attitude กับประวัติเราเหมือนเดิมครับ คำถามมีดังนี้ครับ

1. ถามเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผมไปทำที่ต่างประเทศ เป็นอย่างไร ได้รางวัลไรไหม ได้อะไรกลับมา

2. ถ้าผมส่งคุณไป Mexico คุณไปได้ไหม ไหวเปล่า ทำงานต่างแดนได้ไหม ทำไมคิดงั้น

3. ถ้าผมส่งคุณไปอิรักคุณสามารถไปได้ไหม

4. คุณรู้อะไรเกี่ยวกับ Wireline กับ MWD บ้าง (เนื่องจากผมบอกไปว่าผมสนใจ 2 แผนกนี้ ใน Resume) >> คุณรู้มาจากไหน รู้ได้ไง

5. ถามซ้ำเรื่องจบตอนไหน เริ่มงานได้ตอนไหน

6. เงินเป็นแรงจูงใจให้คุณทำงานไหม?

7. ถามกิจกรรมเพิ่มเติมที่มีใน resume ที่ยังถามไม่หมด

8. ถามกิจกรรมนอกเหนือจาก Resume งานอดิเรก นั่นนู่นนี่ เรื่องชีวิตการเรียนของเรา

9. คุณเห็นตัวคุณเองใน 5 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไร

10. คุณมีทุนอะไรรึเปล่า

11. วิชาที่ชอบเรียน

12. มีคำถามไหม

13. เล่าเรื่องจิปาถะ เกี่ยวกับบริษัท ตัวเขา เหมือนเพื่อนคุย 55+

สัมภาษณ์ประมาณ 30 นาที หลังจากสัมภาษณ์รอบนี้เสร็จก็ประกาศผลเลยเช่นกัน (ไวมาก) บอกให้ไปสัมภาษณ์ต่อ กับ Operation Manager ที่ตึกรสาที่กรุงเทพ พร้อมกับทำข้อสอบ ซึ่งเขาบอกผมว่าเป็นด่านสุดท้ายแล้ว หลังจากนั้นก็รอประมาณ 2-3 อาทิตย์ ถึงจะอีเมล์มานัดสัมภาษณ์บวกทำข้อสอบ

ด่านสาม

เราจะมาพูดถึงข้อสอบกันก่อนนะครับข้อสอบเป็นข้อสอบพื้นฐาน วิศวะทุกสาขาสามารถทำได้เพราะเป็นวิชาพื้นฐานวิศวะที่เรียนตอนปี 1 และ ปี 2 โดยมีวิชาดังนี้ (ข้อกาทั้งหมด และเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด)

1. ภาษาอังกฤษ พื้นฐานครับ Grammar ทั่วไป If clause ,Tense ,Vocab , คำเชื่อม, สำนวนพื้นฐาน, preposition ให้แก้คำผิด บอก V มา ให้กาข้อที่เหมาะกับประโยค ง่ายกว่า TOEIC ครับ ไม่ต้องห่วง

2. คณิต เป็นคำนวณพื้นฐาน หาสูตรพื้นที่ สูตรหาปริมาตร รูปทรงเรขาคณิต (บางศัพท์ก็ลืมแต่ดีอ่านไป) เปลี่ยนหน่วย ไปมาๆ (มีตารางเทียบหน่วยให้) คิดเปอร์เซนต์ แก้สมการ 1 ตัวแปร 2 ตัวแปร สมการความชัน ถ้าคุณมีพื้นฐานคำศัพท์ภาษาอังกฤษทางคณิตมา คุณไม่ต้องกลัว ไม่ยากครับคำนวณไม่ซับซ้อน

3. Mechanical ก็คือฟิสิกส์ 1, 2 กลศาสตร์ ของไหลความดัน รอก ทอร์ค สูตรหาความดัน เวกเตอร์ คาน ทฤษฎีนิดหน่อย แรงลอยตัว แตกแรง

4. Electrical ไฟฟ้าพื้นฐาน กระแสตรง V=IR หาในสมการนี้แหละครับ แปลงไปแปลงมา หา C ประจุ ทฤษฎี To reverse the direction of rotation in a 3hp, AC motor, สูตรกำลัง(watt) ประยุกต์กับ V=IR ทฤษฎีจ่ายไฟ DC AC การต่อแบตเตอรี่ ทั้งอนุกรม ขนาน มีกระแสสลับเล็กน้อยพื้นฐาน แปลง R เป็นตัวต้านทานอื่น (แต่ผมไม่ได้อ่านกระแสสลับไป 55+ เกมม)

5. Aptitude เชาว์ปัญญา รูปนี้เป็นงี้ รูปถัดไปเป็นอะไร แนวคิดตาม “Sense Engineer” มีหลายข้อมาก รอกนี้หมุนงี้อีกรอกหมุนไง อันใหญ่อันเล็กหมุนอันไหนได้รอบเยอะสุด ความหนาแน่น บลาๆ ROM RAM CPU ย่อมาจากอะไร (เผื่อเห็นเคยมีคนโดนถาม)

แนวจะประมาณนี้ครับแต่ไม่เป๊ะทุกข้อนะครับ บางข้อก็ลืม บางอันก็ไม่ได้เจอเอง แต่เอาแนวมาบอกตามที่เคยออกรุ่นก่อนๆครับ มันจะคล้ายๆกันเลย โดยรวมถ้าเตรียมตัวไปดีอ่านพื้นฐานมาครบ แปลออก ไม่ยากครับข้อสอบ PAT ยากกว่าครับ

ข้อสอบให้เวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมงครึ่ง จำนวนข้อก็เยอะอยู่ครับ จำไม่ได้ ประมาณ 70-80 นี่แหละครับ

หลังจากที่ผมทำข้อสอบเสร็จ ก็รอสัมภาษณ์กับ Operation Manager แผนก Wireline (ที่ผมคิดว่าเป็นคนที่ใหญ่ที่สุดในแผนกนี้ แต่จริงๆไม่ใช่ เพิ่งรู้ตอนไป Field Exposure)

ตอนแรกก็คิดว่าเป็นคนไทย ที่แท้เป็นคนเวียดนาม 5555 แต่งงเลยตอนสัมภาษณ์เสร็จมีถามเป็นภาษาไทยว่าข้อสอบยากหรอ เลยนึกว่าเป็นคนไทย ฮ่าๆ รอบนี้สัมภาษณ์ กับ Manager และ Hr คนไทยครับ ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ โดยคำถามมีประมาณนี้ครับ

1. ให้แนะนำตัวเอง เรียนที่ไหน มาจากไหน ยังไง ครอบครัว

2. ถามเกี่ยวกับกิจกรรมใน Resume เหมือนเดิม แต่จะเน้นกิจกรรมที่เราเด่นๆ ว่าทำไรมางานเกี่ยวกับอะไร ทำหน้าที่อะไร ได้รับอะไรจากงานนี้

3. ทำไมถึงมาสมัคร SLB บริษัท Service มีตั้งหลายที่ ทำไมเลือกที่นี่

4. เล่าถึงความหนักของงาน Wireline และถามว่าจะทนได้ไหม อธิบาย

5. คุณรู้อะไรเกี่ยวกับแผนกนี้

6. คุณเคยมีปัญหาอะไรในชีวิตไหม ทั้งตอนฝึกงานและกิจกรรมที่เคยทำ เคยมีปัญหากับเพื่อนไหม แล้วคุณแก้ปัญหาอย่างไร (ตอบดีๆ)

7. ถามเรื่องส่วนตัว กิจกรรมยามว่าง ทำอะไรบ้างตอนอยู่มหาลัย

8. ทำไมถึงสมัครตำแหน่งนี้ คุณเรียน…มาทำไมไม่ไปทำ …เข้าที่ ….

9. คุณเรียนอะไรมาบ้างในมหาลัย (ผมเล่าวิชาสาขาที่ผมเรียน)

10. คุณมองอนาคตตัวเองอีก 5 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไร

11. ถ้าคุณไม่ไปงานรับปริญญาจะเป็นไรไหม ส่งไปนู่นตปท กันดานจะเป็นไรไหม

12. มีคำถามไหม

หลังจากสัมภาษณ์ไป 30-40 นาที เขาก็แจ้งว่าประกาศอย่างเร็วสุด คือ 1 เดือน

ก็รอประกาศผลกันไป รอมาเป็นเวลา 2 เดือน (นึกว่าจะแห้วซะแล้ว) Recruiting Manager ที่มาเลเซีย ก็โทรมาว่ายังสนใจ SLB อยู่ไหม ตอบสนสิครับรออะไร 5555

ตอนแรกเขาก็มาเล่ารายละเอียดว่าจะส่งผมไป Wireline School ที่อะบูดาบี คุณโอเคไหมอยู่แผนกนี้ แล้วก็ให้รอเซ็นสัญญา และผมก็ดั๊นไปถามเขาว่า แล้ว Field Exposure ล่ะครับ ผมไม่ต้องไปละหรอ (สัมภาษณ์รอบสองเขาบอกจะให้ผมไป) เขาก็ถามผมอยากไปไหมล่ะ ผมก็ดันไปถามเขากลับว่ามันสำคัญไหมสำหรับ job นี้ เขาก็บอกสำคัญ ผมก็บอกงั้นผมไป เขาก็เลยจัดให้ผมเลย 5555 (หารู้ไม่ว่ามันเป็นด่านอีกด่านนึงของการคัดเลือกพนักงาน เหมือนหาเรื่องใส่ตัว แต่ก็ดีที่ได้เพิ่มความท้าทายให้ตัวเอง)

เขาก็ส่งผมไปอยู่ Base ที่หาดใหญ่ 4 วัน (แปลกอีกแล้ว ปกติเขาจะส่งกัน 1 สัปดาห์) มาเริ่มที่ Field Exposure กันต่อเลย

Field Exposure Program – Wireline Services 2019 ด่านสุดท้าย และ ท้ายสุด

เหมือนต้องการให้เราไปดูการทำงานในแผนกนี้ สภาพแวดล้อม ว่าเราชอบมันไหม เรียนรู้เกี่ยวกับแผนกที่จะเป็นงานของเราในอนาคต โชคร้าย(หรือโชคดี) ที่งาน Wireline ของ SLB ตอนนี้มีแค่ Offshore ผมเลยได้สิงอยู่ที่ Base

โดยงานที่ได้รับมอบหมายคือ “Presentation” เกี่ยวกับ Wireline Layout ที่นี้ Wireline คืออะไร คุณได้เรียนอะไรที่นี่บ้างตลอด 4 วัน พี่ Wireline Manager ที่นี่ก็พาผมไปแนะนำสถานที่ ต่างๆ และเล่าเรื่องงานให้ฟัง และพี่เขาก็ทดสอบภาษาอังกฤษเรา (อีกแล้วว) ปิดประตูห้อง คุยสด สัมภาษณ์สด ให้เราเล่าเรื่องเรา และพี่ก็เล่าเรื่องการทำงานของเขา ประวัติพี่เขาการทำงานประสบการณ์ที่พี่เขาเคยผ่านมา เกี่ยวกับ Wireline Engineer การไป School การสอบ Post School ถือว่า การสนทนาแบบงูๆปลาๆของผมเป็นประโยชน์มากในครั้งนี้ สำหรับการทำ Presentation

กลายเป็นว่ามา Field Exposure ครั้งนี้เหมือนมาทัศนศึกษา ได้เยี่ยมชมอุปกรณ์ Wireline Tools Logging Unit และอื่นๆ และได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบ Safety อีกด้วย ว่ามันสำคัญมากกกก!!!! เคร่งมากเพราะเป็นเรื่องที่ควรจะเคร่ง!!

แล้วผมก็ให้เด็กฝึกงานที่นั่นค่อยไกด์ให้เกี่ยวกับการเดินชมอุปกรณ์ที่บริษัท เพราะเด็กฝึกงานผ่านการเทรน Safety มาแล้ว 3 วันและมีการให้ความรู้ไปแล้ว ทำให้เด็กฝึกงานรู้อะไรเกี่ยวกับ ที่ Base เยอะมาก ผมก็ต้องพึ่งน้องๆเขาไป

สรุปคือ ดูอุปกรณ์ เรียนรู้อุปกรณ์ด้วยตนเองเกี่ยวกับ Wireline โดยการถามพี่ Manager Technician เรียนรู้เรื่องความปลอดภัยต่างๆ เช่น ความปลอดภัยในการยกของครับ สำหรับ Field Exposure ของผมที่หาดใหญ่ ไม่มีการใช้งานหนักแต่อย่างใด เหมือนมาเป็น Intern 4 วันครับ แต่หารู้ไม่ว่า ด่านหฤโหดจริงๆ มันคือต่อจากนี้

เนื่องจาก พี่ Manager ต้องเข้ากรุงเทพโดยด่วน ผมเลยต้องเข้าไป Present ในกรุงเทพวันสุดท้าย (พอดีเลยกลับบ้านเร็วขึ้น)

ผมก็ได้ไปที่ตึกรสาอีกครั้ง ไป present ให้พี่ Manager ฟัง แต่มันไม่ได้มีแค่นั้น Boss ของพี่ Manager ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ มานั่งฟังผม present ด้วย (ตื่นเต้นมาก)

หลังจากที่ผมพรีเซ็นต์เสร็จก็เป็นช่วง Q&A ช่วงนี้แหละเป็นช่วงที่ เซอไพร์สมาก เพราะผมไม่ทราบมาก่อนว่า Boss จะมาฟัง เพราะ Plan เดิมคือพรีเซ็นต์ ที่หาดใหญ่ ผมได้พบกับการสัมภาษณ์ครั้งที่ 4 แบบที่ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า (ด่าน 2 ด่าน 3 ผมยังพอมีเวลาเตรียมตัว มีสคริปบ้าง แต่สำหรับด่าน 1 และด่านนี้ สด!!!) โดยคำถามเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเหมือนเดิม คำถามไม่เยอะครับแต่กดดัน

คำถามจะเหมือนแนวดังกล่าว (เหมือน ด่าน 1 2 และ 3 แต่เปลี่ยนเป็น Boss ใหญ่สัมภาษณ์และผมไม่ได้เตรียมตัวสัมภาษณ์มา แม้ว่าจะเคยสัมภาษณ์กับคนอื่นไปแล้ว แต่ถ้าไม่เตรียมตัวมา มันก็จะไหลออกทะเลไปหน่อย แหะๆ) แต่จะมีคำถามที่แตกต่างจากเดิมคือ

1. คุณได้อะไรจากการไปหาดใหญ่ (เหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายเลยที่จะตอบให้โดนใจ ผมตอบไปประมาณ 3 รอบได้ครับ ถึงจะเปลี่ยนคำถามให้ ถามเจาะลึกและเค้นมากเพื่อให้เรากดดัน) ผมตอบเกี่ยวกับ การเรียนรู้งาน Safety และ ยืนยันว่าเราชอบงานจริงๆ

2. SIPP คืออะไร (Schlumberger Injury Prevention Program) ข้อนี้ผมตอบไม่ได้เนื่องจากผมไปเทรนแค่ 1 ชม. กว่าๆ รู้จักแค่ท่าการยกของที่ถูกต้อง รู้ชื่อใบประกาศ ทำการทดสอบเพื่อรับใบ Cer แต่ไม่มีใครเคยบอกชื่อโปรแกรมผมแต่อย่างใด 555+

3. ให้วาด Rig Up Wireline บนบอร์ด (ไปดูได้ใน เน็ตครับมีอยู่)

4. คุณไม่กลัวหรอว่าจะตกงาน บริษัทเราไล่ออกบ่อย และก็ตอนนี้น้ำมันกำลังขาลง

5. มีคำถามไหม (ต้องมี!!555)

ก็ประมาณนี้ครับ บอกเท่าที่จำได้ครับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. รวมพรีเซ็นต์ สัมภาษณ์ และการแนะนำในการทำงานในอนาคต ตอนนี้ผมเพิ่งจบ FEP (Field Exposure Program)  เมื่อ วันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมานี่เอง

ตอนนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการเพื่อที่จะเซ็นสัญญาต่อไปและส่งไป School (Recruiting Manager บอกประมาณเดือนสิงหา) ถ้าเกิดผมได้ไป School เมื่อไหร่ ผมจะมารีวิว อีกแน่นอนครับ

ฝากถึงน้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่อยากจะสมัคร Field Eng กับ SLB หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ จะบอกเรื่องที่จำเป็นมากสำหรับการสมัครงานที่นี่

1. ความมั่นใจพกมาเลยเต็มร้อย อย่าไปกดดันตัวเองครับ

2. พูดภาษาอังกฤษต้องได้ สื่อสารได้ แกรมม่าไม่สำคัญ สื่อสารได้คือจบ ที่นี่ไม่ได้เรียกผล TOEIC (แต่ผมก็ส่งไป โดยที่ผลคะแนนของผมก็ไม่ได้เด่นอะไร อยู่ที่ระดับกลางๆสำหรับคนทำงานในสายนี้ เพราะคนทำงานในสายนี้หลายคนเทพอังกฤษ)

3. เกรดตอนสมัคร สูงไว้ก็จะโดดเด่น แต่ผมคิดว่าเขาดูหลายๆอย่าง เพราะเคยได้ยินว่าคนเกรดไม่เยอะก็โดนเรียกสัมภาษณ์

4. กิจกรรมสำคัญมาก! เพราะผมเป็นเด็กกิจกรรมด้วย เลยมีเรื่องไปโม้เยอะ555 ก็เป็นจุดขายอย่างนึง ใครๆก็บอกว่าที่นี่ชอบเด็กทำกิจกรรม

5. ทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะบางคำถามต้องด้นสด

ถ้าเรามั่นใจและเตรียมตัวมาดี อะไรๆก็จะออกมาดีครับ แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ Bye!!

จาก เด็กจบวิศวะ ในมหาลัยแห่งหนึ่ง ในโคราช

---

สุดยอดมากๆครับ ล่าสุดใหม่แกะกล่อง จริงๆครับ สดๆด้วย เล่าในละเอียด มีประโยชน์ สนุก และ เห็นภาพมากๆเลย ตังตารอรีวิว training school ของน้องคนนี้นะครับ ปูเสื่อรอกัน  ใครสนใจก็ไปอ่านประสบการณ์เก่าๆของท่านอื่นๆได้ที่ลิงค์นี้นะครับ

ประสบการณ์สัมภาษณ์งานตำแหน่งต่างๆของ Schlumberger

• Facebook
• Twitter
• Line