ความภูมิใจของคนไทย ที่หลายคนไม่รู้ !!! (ข่าว) – ข่าวประชาสัมพันธ์ของปตท.สผ.

• Facebook
• Twitter
• Line

ความภูมิใจของคนไทย ที่หลายคนไม่รู้ !!! (ข่าว) … ข่าวประชาสัมพันธ์ของปตท.สผ.ครับ เห็นว่าช่วงนี้วันเกิดครบรอบ 32 ขวบ ด้วย คงมีข่าวพีอาร์ (PR – Public Relation) ออกสื่อบ่อยหน่อย  เรื่องปกติครับ องค์กรก็มีหน้าที่ต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับภาคส่วนอื่นๆของสังคม กลองดีไม่ตีจะดังได้อย่างไร จริงไหมล่ะครับ

ภาคส่วนอื่นของสังคมก็มีหน้าที่รับฟังสิ่งที่องค์การสื่อสารออกมาอย่างวิเคราะห์ ไตร่ตรอง ว่าจริงไม่จริงอย่างไร

เนื้อๆของข่าวนี้ก็นำเสนอในส่วนข้อเท็จจริงล้วนๆว่า ทำอะไร อย่างไร เมื่อไร ผลิตได้เท่าไร ผมคงไม่มีความเห็นมากนัก เพราะไม่รู้ว่าจะวิจารณ์ข้อเท็จจริงเชิงตัวเลขอย่างไร

รอว่าเมื่อไรปตท.สผ.จะเปิดแท่นให้สื่อต่างๆลงไปทำข่าวกัน คงจะได้เห็นคลิปวีดีโอที่เป็นทางการออกมาตามสื่อสำนักต่างๆมากขึ้น

มีประเด็นที่ชวนคุยนิดเดียวตอนท้ายเรื่องผลกระทบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย

ปตท.สผ.เป็นบ.ของไทย เป็นมือเป็นเท้าของภาครัฐ แต่ขาข้างหนึ่งอยู่ในระบบทุนนิยม เพราะมีหุ้นในตลาดฯ ดังนั้นบ.นี้จึงถูกตรวจสอบอย่างที่เรียกว่ากระดิกไม่ได้เลยเมื่อเทียบกับบ.น้ำมันเอกชนต่างชาติ ปตท.สผ.โดนตวรจสอบโดยกลไลทั้งจากภาครัฐและเอกชน และด้วยสำนึกว่าเป็นเจ้าของบ้าน ดังนั้นการที่จะทำอะไรให้กระทบอู่ข้าวอู่น้ำบ้านตัวเองนั้น ก็ต้องมีสามัญสำนึกยั้งคิดในระดับหนึ่ง เพราะอย่างไร บ.นี้ก็ชิ่งหนีไปไหนไม่ได้เหมือนบ.ต่างชาติ (ไม่รู้ว่าผมจะมโนโลกสวยไปเองคนเดียวหรือเปล่านะครับ)

หลายคน (รวมถึงผมด้วย) มักคิดว่า แหม … คงต้องมีแต้มต่อ (ในการแข่งขัน) มีหยวนๆ (ในการโดนตรวจสอบ) กันบ้าง โดยสามัญสำนึกเนอะ เพราะเป็นมือเป็นเท่ารัฐฯ แต่มองอีกแง่นึง ก็เพราะคนคิดกันแบบนี้ จึงทำให้ภาคส่วนที่คุมกติกาการแข่งขัน คุมกติกาการตรวจสอบ มักจะใส่ความเข้มข้นเพิ่มเติม(เกินความจำเป็นในบางครั้ง)เพื่อป้องกันการครหาเหล่านั้น หรือ เพื่อจะได้ตอบสังคมได้ว่า นี่ไงใส่ความเข้มแล้วนะ

แต่กับบ.เอกชนที่ไม่โดนจับตามองมากนัก ก็อาจจะไม่เข้มข้นจัดเต็มกันเท่านี้ …

เรื่องสิ่งแวดล้อมนี่ก็เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเดี๋ยวนี้ คนงานจากทุกภาคส่วนอยู่ในอ่าวเป็นร้อยๆชีวิต ทุกคนพกมือถือ ติดกล้อง มีเฟสบุ๊ค มีไลน์กันหมด เรียกว่า พร้อมจัดเต็มถ้าเจออะไรผิดกลิ่น ถ้าเป็นข่าว ก็เรื่องใหญ่ล่ะครับ คนทำงานเองก็หายใจกันไม่ทั่วท้อง

ส่วนเองความปลอดภัยในการทำงานนั้น พูดก็พูดเถอะครับ งานก่อสร้างบนบกที่เราเห็นกันสองข้างถนน ไม่ว่าจะรถไฟฟ้าสารพัดสี ตึก สะพาน อุโมงค์ ถนน ไฟฟ้า ประปา ฯลฯ ผมเห็นคนงานทำงานแล้ว เสียวแทนเลยครับ มาตราฐานเรื่องความปลอดภัยต่ำเมื่อเทียบกับคนงานที่ทำงานบนแท่นเจาะฯ ทั้งๆที่ระดับความเสี่ยง (risk probability) และ ความรุนแรงจากอุบัติเหตุ (risk impact) ไม่ต่างกันเลย เผลอๆบางงานบนบกที่เห็นๆกัน ความเสี่ยงสูงกว่าด้วย

เข้าข่าวกันเลยดีกว่า …

ความภูมิใจของคนไทย ที่หลายคนไม่รู้ !!! (ข่าว)

ที่มา : http://www.nationtv.tv/main/content/economy-business/378552523/

“บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าสี่พันตารางกิโลเมตรกลางอ่าวไทย ที่ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชว่า “พื้นที่ปิโตรเลียมนวมินทร์” ตัวแทนของคนไทยในโครงการผลิตปิโตรเลียมที่ชื่อว่า “บงกช” และ “อาทิตย์” กว่า 500 ชีวิต ทำงานอย่างมุ่งมั่นกับภารกิจที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและอันตราย เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้มีพลังงานใช้อย่างไม่ขาดตอน

 

“พื้นที่ปิโตรเลียมนวมินทร์” นี้ไม่เพียงเป็นแหล่งต้นน้ำแห่งพลังงานแต่ยังเป็นพื้นที่ที่ทำให้คนไทยได้สั่งสมประสบการณ์ และเพาะฟักบุคลากรด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของคนไทยอีกด้วย ปตท.สผ. หรือ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของคนไทยที่ดำเนินการมานานกว่า 30 ปี มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการแสวงหาพลังงานอยู่สูง

จนปัจจุบันมีโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมไปถึง 37 โครงการ ใน 10 ประเทศทั่วโลก แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดเริ่มต้นของ ปตท.สผ. คือบ้านเกิดในอ่าวไทยนั่นเอง

 

แท่นอาทิตย์

“โครงการอาทิตย์” เริ่มสำรวจตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 และจากการเตรียมการที่เข้มข้นและยาวนานถึง 10 ปี โครงการอาทิตย์ก็คว้าความสำเร็จในการเป็นโครงการผลิตปิโตรเลียมแห่งแรกที่คนไทยเข้ามาดำเนินการเองทุกๆ ขั้นตอน

ตั้งแต่การสำรวจ การพัฒนา และการผลิต (ในสมัยก่อน การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมนั้นเป็นธุรกิจที่มีความซับซ้อนมากและคนไทยไม่มีความรู้เพียงพอ การสำรวจและผลิตในประเทศไทยจึงยังจำเป็นต้องพึ่งความเชี่ยวชาญของคนต่างชาติโดยตลอด) และในวันนี้ โครงการอาทิตย์มีส่วนสำคัญในการจัดหาพลังงานให้กับประเทศและคนไทยมาได้กว่า 1 ทศวรรษแล้ว

แท่นบงกชเหนือ

แท่นบงกชใต้

ไม่เพียงเท่านั้น รู้หรือไม่ว่า “โครงการบงกช” เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (ประกอบด้วย แหล่งบงกชเหนือและแหล่งบงกชใต้) โครงการนี้เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่นำทรัพยากรพลังงานใต้พื้นพิภพมาหล่อเลี้ยงประเทศไทยเป็นเวลากว่า 24 ปี (เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536)

ก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้นั้นมีปริมาณสูงถึง 900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน คิดเป็น 20% ของปริมาณก๊าซธรรมชาติทั้งหมดที่ผลิตได้ภายในประเทศ

แท่นบงกชเหนือ

ก๊าซธรรมชาติที่ผลิตขึ้นมาได้นั้น จะนำมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก แต่ที่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจ คือก๊าซธรรมชาติเหล่านี้ยังเป็นอีกหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของประเทศอีกด้วย เพราะเป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมพลาสติก ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอีกมากมาย

สรุปสั้นๆว่า ก๊าซธรรมชาติเป็นเคล็ดที่ไม่ลับในการพัฒนาและขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

อีกเรื่องที่หลายคนอาจเข้าใจผิดคือ การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องมาพร้อมกับการทำลายสิ่งแวดล้อมเสมอไป ปตท.สผ. เป็นองค์กรที่มีความเชื่อว่าความเก่งต้องมาควบคู่กับความดีและการมีความรับผิดชอบ เขาให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยและการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก

ทุกกระบวนการทำงานนั้นถูกกำกับด้วยมาตรฐานและระเบียบที่เข้มงวดระดับโลกเลยทีเดียว สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นได้ชัดเลยคือ ถ้ามองลงไปใต้แท่นผลิต จะพบว่ามีสัตว์ใต้ท้องทะเลอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ทางชีวภาพที่เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการคงอยู่ของแท่นผลิตนั่นเอง

ความอุดมสมบูรณ์ใต้แท่นอาทิตย์

ภูมิใจได้เลยว่าคนไทยมีความสามารถที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก ขอปรบมือให้กับ ปตท.สผ. ที่เป็นตัวแทนคนไทยในวงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมนี้ และในอนาคตเราจะได้เห็นแท่นสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยฝีมือคนไทยเพิ่มขึ้นอีกในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลกแน่นอน

ทำความรู้จักกับแหล่งผลิตปิโตรเลียมหลักทั้ง 2 แห่งของ ปตท.สผ. ผ่านตัวหนังสือไปแล้ว เร็วๆ นี้ ปตท.สผ. จะเปิดบ้านกลางอ่าวให้เนชั่นได้พาชมแท่นผลิตแบบใกล้ชิด เราจะได้เห็นทุกพื้นที่แห่งความตั้งใจ ทุกตารางเมตรแห่งความมุ่งมั่น พร้อมหัวใจอันศรัทธาของเหล่าผู้กล้านักสำรวจและผลิตปิโตรเลียม บนพื้นที่เสี่ยงภัยและอันตราย

มาร่วมค้นพบพลังและแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ของ ปตท.สผ. ไปพร้อมกัน… ติดตามได้เร็วๆ นี้

• Facebook
• Twitter
• Line