ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

Baker Hughes Experience 2012 + Skype 2016 interview รวมมิตร

Baker Hughes Experience 2012 + Skype 2016 interview – โพสต์ชุดนี้จะรวมมิตรไปด้วยหลายๆประสบการณ์ในขบวนการสัมภาษณ์ของ Baker นะครับ

  • สัมภาษณ์ทางไกลจาก Ohio ผ่าน Skype ปี 2016
  • Baker Hughes Experience ปี 2012 (เหมือนกับ group activity ของ Schlumberger)

Baker Hughes Experience 2012 + Skype 2016 interview

ไปอ่านประสบการณ์เพื่อนๆกันเลยครับ

สัมภาษณ์ทางไกลจาก Ohio ผ่าน Skype ปี 2016

ผมสัมภาษณ์ตำแหน่ง Field engineer ผ่านทาง Skype จาก Toledo, Ohio ผมนัดไว้ตอน 20.30 ติดต่อมาตรงเวลาเป๊ะ

ตอนเริ่มก็ทักทายตามปกติ ถามว่าเราจบจากที่นี่ใช่มั้ย เกรดเท่านี้ใช่มั้ยเหมือนเช็คว่าถูกตัวเหรือเปล่า หลังจากนั้นเค้าก็อธิบายว่าตำแหน่งนี้ต้องเปลี่ยนที่ทำงานไปทั่วโลกนะจากนั้นก็เริ่มคำถาม

  • คิดยังไงกับการทำงานในที่ๆไกลกันดาร และ สภาพแวดล้อมไม่ดี
  • มีงาน 3 ลักษณะให้เลือก (ผมจำได้แค่ 2) อยู่ในโลเคชั่นที่ดีแต่ทำงานนาน หรือ ต้องย้ายที่ไปเรื่อยๆเงินดี
  • มีงาน 2 Taskให้เลือก 1.ติดตั้งมอเตอร์ 2.นั่งวิเคราะห์ข้อมูล
  • เคยทำอะไรที่เป็นผู้นำมั้ย แล้วทำไมถึงเลือกงานนี้มาบอกเค้า

ถ้าผมผ่านไปรอบต่อไปจะมาเล่าต่อนะครับ

ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล

Baker Hughes Experience

ส่วนนี้จะมีหลายๆคนมาแบ่งปันกันไว้นะครับ ไล่อ่านไปทีล่ะคน

Baker Hughes Experience ราวๆเดือน มีนาคม 2012

ผมสมัครงานกับ Baker Hughes ในตำแหน่ง Graduate Field Engineer ตอนปลายเดือนพฤศจิกายน ผ่านทางเวบไซต์ของบริษัทครับ

ผ่านมาประมาณเดือนธันวาคม เค้าส่งเมลล์มาให้นัดวันสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ หรือ ถ้าเค้าติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ เค้าจะใช้วิธีคุยผ่าน Skype พออาทิตย์ถัดมาถึงวันที่นัดไว้ HR ผู้หญิงท่านหนึ่งโทรศัพท์ทางไกลมา เสียงชัดมากๆ พูดไม่เร็วเกินไป แถมใจดีด้วย ลดความกดดันของผมไปได้เยอะเลยครับ คำถามที่โดนถาม คือ

  • ถามยืนยันตัวตนของผม โดยถามชื่อ วันที่คาดว่าจะจบการศึกษา เกรดเฉลี่ย และถามว่าคุณสามารถทำงานในประเทศไทยอย่างถูกกฏหมายได้หรือไม่
  • Why do you want to work for Baker Hughes?
  • What is your favorite class/subject? Why? What did you learn from that class?
  • Tell me about the time when you had to work with a difficult person. How did you handle it? What was the outcome and what did you learn?
  • What would you be doing in the first year as a field engineer? What a day would be like?
  • Tell me about the challenge that you’ve had and how you overcame it. What did you learn?

ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 30 นาทีครับ

-------------------------------------------------------

ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ

กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น

จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ … อ้อ … อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น แล้วอย่าลืม mark as not junk or spam ด้วยนะครับ เวลาส่งเตือนคราวหน้า จะได้ไปอยู่ใน in box :)

หลังจากนั้นประมาณอาทิตย์กว่าๆ เค้าก็ส่งเมลล์มาบอกให้ทำการทดสอบภาษาอังกฤษออนไลน์ Global English STEP+ รูปแบบคล้ายๆ TOEIC เช่น …

  • มีรูปแล้วให้เลือก choice ที่อธิบายรูปได้ดีที่สุด,
  • listening test, ฟังบทสนทนา ความยากไม่เท่าไหร่ครับ พอๆกับ TOEIC แต่ที่มีเพิ่มเข้ามา คือ speaking test (ต้องใช้ Microphone) ให้อ่านออกเสียงบทความสั้นๆ 3-4 บรรทัด 1 บทความ, ตอบคำถามโดยเลือกอ่านจาก choice และตอบคำถาม 1-2 ข้อโดยคิดคำตอบเอง เช่น คุณคิดว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญต่ออาชีพของคุณอย่างไร

เมื่อทำเสร็จ จะรู้ผลสอบทันที ยกเว้น speaking part จะรู้ผลภายใน 2-3 วัน คะแนนโดยรวมสูงสุดคือระดับ 10 ผมเข้าใจว่า Baker Hughes ต้องการคนที่ทำได้อย่างน้อยระดับ 7 ขึ้นไปนะครับ

หลังจากนั้นเค้าก็หายเงียบไปนานมากจนกระทั่งปลายเดือนกุมภาพันธ์ เค้าส่งอีเมลล์มาเชิญไปร่วมงาน Baker Hughes Experience 3 วัน 2 คืน ที่โรงแรม Purimas Beach Hotel and Spa จังหวัดระยองครับ

เริ่มวันแรก

นัดเจอกันตอนเที่ยงที่ Office ของ BH (Baker Hughes) ตรงถนนวิทยุ แต่ต้องรอนานเพราะว่าต้องรอกลุ่มคนเวียดนามที่จะเดินทางมาร่วมกิจกรรมคัดเลือกด้วย

สรุป candidates ทั้งหมด 20 คนประกอบด้วย

1. ชาวเวียดนาม 5 คน
2. คนไทย 14 คน
3. คนอินโดนีเซีย 1 คน (ซึ่งเคยมาเรียนป.โทที่เมืองไทย พูดไทยชัดมากกกกกก เป็นคนที่เก่งมากๆ และร้องเพลง “คันหู” กับเพลง “ตับ ตับ ตับ” ได้ด้วย แถมหน้าตาหยั่งกะบัวขาว !!!! 55555)

เดินทางโดยรถตู้ 3 คัน ไปถึงโรงแรมประมาณ 4-5 โมงเย็น เค้าจะเลือก roommate ให้เราเอง (ชาย-หญิงแยกกันนะครับ และผมได้ห้องเดียวกับชาวเวียดนามนิสัยดีมากๆคนหนึ่ง) วันแรกกินข้าว-พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สอง

นัดรวมตัวห้องประชุม 6 โมงเช้า (ต่อจากนี้จะเริ่มพูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด) เริ่มจากเค้าจัดให้ จนท.โรงแรม มาอธิบายเรื่อง Safety, ทางหนีไฟ, จุดรวมพล

หลังจากนั้นก็เริ่มกิจกรรมแรก คือ ให้แนะนำตัวเอง เช่น เรียนอะไรมา งานอดิเรก สั้นๆ พร้อมทั้งวาดรูป Symbol อะไรก็ได้ที่ใช้แทนตัวเองลงบนกระดาษพร้อมทั้งอธิบายเหตุผล รวมถึงให้คิด Adjective นำหน้าชื่อโดยใช้ตัวอักษรแรกของชื่อเรา ให้เหมาะกับบุคลิกของเรา (เช่น คนชื่อ “Boy” เป็นคนรักสวยรักงาม ก็อาจใช้เป็น “Beautiful Boy”)

ทั้งหมดนี้ให้เวลาคิด 2-3 นาที แล้วก็ให้เริ่มทีละคน ใครก่อนก็ได้ โดยคนที่เริ่มที่หลังต้องทวนชื่อ และ Adjective ของคนก่อนหน้าทั้งหมด

ผมชื่อ xxx ผมเลยเลือกใช้ Cool xxx โดยอธิบายว่าผมเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นง่าย คุยกับใครก็ได้ ใครชวนไป Hang out ที่ไหน ยังไง ผมไปหมด และเลือก Symbol เป็นรูปควายยิ้ม เพราะในไทยใช้ควายทำงานหนัก มันก็ทำจนเสร็จไม่มีบ่น เหมือนผมที่เป็นพวก hard-working ไม่ยอมแพ้ ส่วนที่ยิ้มก็หมายถึงผมมักจะมองโลกในแง่ดีเวลาเจอกับปัญหา เผชิญหน้ากับปัญหาด้วยรอยยิ้ม อะไรทำนองนี้ครับ

หาบ้านให้น้องหน่อยครับ :)

ขาวจั๊วะ กอดได้ อิงได้ วางประดับได้

ปาหัวคนข้างๆก็ได้ (เวลาใช้ให้ไปล้างจานแล้วไม่ยอมไป)

https://raka.is/r/XBBPp

ต่อมาพวก Assessors ก็มาทำกิจกรรมแนะนำตัวแบบเดียวกันกับพวกเรา มีทั้งหมด 6 คน คือ

  1. Julia แผนก University Recruitment จากมาเลเซีย เป็นคนน่ารักมากๆ คอยกำกับกิจกรรมทั้งหมด
  2. Mr.John เป็น Country Manager ที่ไทย เคยอยู่ BJ Services ดูแล Pressure Pumping มาก่อนควบรวมกับ BH ครับ
  3. Mr.Philips น่าจะเป็น Manager ดูแลเรื่อง Completion อยู่ที่ Vietnam
  4. Mr.Raveen MWD/LWD ชาวมาเลย์ ประจำที่ Office ใน Vietnam
  5. พี่กังวาล Wireline คนไทย ประจำที่เวียดนาม
  6. คุณ Suporn เป็น HR อาวุโสชาวไทย อยู่ BH มาราวๆ 20 ปีได้แล้วมั้งครับ

(เวลาเดินทางบนรถ เวลาพักกินของว่างสั้นๆ หรือระหว่างมื้ออาหาร ผมพยายามเดินเข้าไปถามนู่นนี่กับพวก Assessor ชวนคุยไปเรื่อย เพื่อให้เค้าจำผมได้ ซึ่งก็ได้ผล บางครั้งได้คุยกันยาวเลย และผมก็ได้รู้อะไรใหม่หลายๆเรื่องด้วย Assessor ทุกๆคนใจดีมากๆ เข้าถึงได้ง่าย ไม่วางท่าเลย ตั้งใจตอบทุกคำถามอย่างละเอียด ผมประทับใจสุดๆ)

หลังจากนั้น Assessors 4 คน present เกี่ยวกับบริษัท เช่น ประวัติ, product and services, core values และ lifestyles บนแท่น เสร็จแล้วก็ออกจากโรงแรม นั่งรถตู้ไปยังโกดังของ BH ที่สัตหีบ เปลี่ยนใสชุดทำงาน รองเท้า และหมวก Safety ทำกิจกรรม 3 อย่าง

1. เดินทัวร์รอบโกดัง ดูอุปกรณ์นู่นนี่ ร้อนมาก

2. ทดสอบ 5 ฐาน ให้เวลาฐานละ 10 นาที แต่ละฐานมี Assessor คุมอยู่ 1 คน คอยประเมินให้คะแนน

2.1. ประกอบอุปกรณ์ รูปร่างคล้ายๆท่อโลหะ สูงราว 1 ฟุต มีส่วนประกอบประมาณ 9-10 ชิ้น เล็กบ้างใหญ่บ้าง พร้อมหมายเลขสลักอยู่บนแต่ละอุปกรณ์ มีคู่มือให้พร้อมรูป เป็นแผ่นกระดาษแข็งเคลือบพลาสติก 3-4 หน้า มีราวๆ 10 ขั้นตอน ต้องใส่ถุงมือด้วย

หยิบอุปกรณ์เล็กๆออกจากซองยากมากๆ มีคะแนนให้ 3 ระดับ คือ 1. Complete 2. Partially complete 3. Incomplete

จุดที่ยาก คือ ต้องกดกระบอกโลหะลงบนสปริงค้างไว้ แล้วเสียบสลักไม่ให้สปริงดันกระบอกนั้นขึ้นมา ผมเริ่มต้นด้วยความลน พลิกชิ้นส่วนไปมา ดูรูปไม่ออก จนเค้าบอกผมว่าให้พลิกอุปกรณ์ให้อยู่ในแนวเดียวกับรูปก่อน แล้วจะง่ายขึ้น ซึ่งก็ง่ายขึ้นจริงๆ ผมเริ่มประกอบได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน ขาดอีกแค่ 2 ชิ้นก็เสร็จแล้ว เลยได้แค่ Partially complete แย่เพราะความลนแท้ๆ

2.2. วัดความต้านทานของตัวต้านทานอันเล็ก เริ่มต้นเค้าถามก่อนว่าวัดความต้านทานได้กี่วิธี อะไรบ้าง ผมตอบว่า 2 วิธี คือ ใช้มิเตอร์วัด ได้แก่ โอห์มมิเตอร์ หรือ มัลติมิเตอร์ และอ่านแถบสีบนตัวต้านทาน

แล้วจึงเริ่มวัดตัวต้านทาน 2 ตัวโดยใช้มัลติมิเตอร์ และอ่านค่าจากแถบสีตัวต้านอีกตัวหนึ่ง โดยเค้าให้ตารางค่าแถบสีมาด้วย อันนี้ง่ายมากๆสำหรับผม เพราะจบไฟฟ้ามา ผมทำ 2-3 นาทีก็เสร็จ เลยมีเวลาคุยเล่นกับเค้ามากหน่อย

2.3. ประกอบอุปกรณ์อีกแล้ว รูปร่างคล้ายๆอันแรก แต่ยากกว่าเดิม เพราะรูปวิธีการประกอบไม่ค่อยชัดเจน ชิ้นส่วนเยอะขึ้น แต่ผมประกอบได้จนเสร็จแบบสบายๆ เพราะเริ่มชินแล้ว แต่ที่แสบก็คือ พอผมประกอบเสร็จอย่างใจเย็น เวลาเหลือๆ เค้าดันให้ผมแยกชิ้นส่วน และเก็บใส่ถุงเหมือนเดิมด้วย ทำไมไม่บอกแต่แรกหล่ะเนี่ย สุดท้ายผมก็ได้ Complete ไป

2.4. ให้แบบ Drawing งงๆมาหนึ่งแผ่น และอุปกรณ์ทรงกระบอกมาหนึ่งชิ้น พร้อมทั้ง vernier แบบ digital มาวัดค่าความยาว ความลึก เส้นผ่านศูนย์กลางทั้งหมด 5 ค่า ผมทำอันนี้แทบไม่ได้เลย งงมาก ลืมวิธีใช้ไปแล้ว แถมบางอันต้องเอาค่าที่วัดได้แล้วมาหักลบกับค่าที่ระบุไว้ในรูปอีก พอวัดอันนึงไม่ได้ เลยทำให้วัดอีกอันนึงไม่ได้ รูดยาวเลยครับ

2.5 ทดสอบค่า pH ของสาร 2 สาร โดยใช้กระดาษลิตมัส ดูสีกระดาษ แล้วอ่านค่าจากตาราง กับวัดค่า pH โดยใช้ pH มิเตอร์ แล้วตอบว่าสารใดเป็นกรดมากกว่า อันนี้พอถูไถ

จบ 2 กิจกรรมแรก พักกินข้าวกล่อง มีไก่ย่างห่อมา ฉีกแทะกันเลอะๆ

3. ทำทดสอบข้อเขียนในห้องแอร์เย็นเจี๊ยบ เย็นจนมีคนนึงป่วยไปเลย เจอเดี๋ยวร้อนจัด เดี๋ยวเย็นจัดทำต่อไม่ไหว น่าเสียดายมากครับ เพราะพี่เค้าเป็นคนที่ทำได้ดีมากมาตลอด

3.1 คำนวณเลขของเผ่ามายัน http://en.wikipedia.org/wiki/Maya_numerals โดยให้คำอธิบายมายาวยืดพร้อมตัวอย่าง 2-3 ข้อ (ถ้ามัวแต่อ่านคงไม่ทัน) ทั้งหมดประมาณ 20 – 30 ข้อ มี 4 แบบ คือ ให้เลขมายามาแล้วแปลงเป็นเลขอารบิก ให้เลขอารบิกมาแปลงเป็นเลขมายา บวก ลบ คูณหาร เลขมายา โดยตอบเป็นเลขอารบิก และเกมส์คล้ายๆซูโดกุแบบง่ายๆ แต่เป็นเลขมายา ให้เวลาทำทั้งหมด 1 ชม. อันนี้สนุกดีครับ เหมือนเล่นเกมส์

3.2 .ให้ case study มา เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ safety policy บนแท่น ประมาณว่า ลูกค้าต้องการเปลี่ยนแผนการเจาะแบบกะทันหัน แล้วบนแท่นไม่มีใครรู้เรื่อง tools ใหม่ที่จะใช้เลย

ทำให้ต้องบังคับผู้เชี่ยวชาญ ที่เพิ่งกลับเข้าฝั่งไปพักได้ไม่นาน ให้ขับรถข้ามวันข้ามคืน และ ขึ้นคอปเตอร์มาทำงานที่แท่นทันทีโดยให้เวลาพักแค่ชั่วโมงเดียว

โดยพวก operation manager และ HSE บนแท่นมัวแต่นั่งคุยกัน ไม่มาสนใจ อ่านจบให้ตอบคำถาม เช่น คุณคิดว่าใครบ้างที่ทำงานแบบไม่ปลอดภัย อะไรคือสาเหตุของความไม่ปลอดภัย ใครคือผู้ที่ควรรับผิดชอบต่อการทำงานอย่างไม่ปลอดภัยในกรณีนี้ และคุณสามารถนำ case study นี้ไปปรับใช้กับกิจกรรม BH Experience นี้อย่างไร

ให้เวลาทำทั้งหมด 1 ชม. ผมใช้เวลาอ่านมากเกินไปนิด เลยตอบไม่ทันไปข้อนึง เซ็งตัวเองมาก

กลับมาที่โรงแรม ให้เวลาพักแค่ 15 นาที เข้าห้องประชุม เค้าแบ่งกลุ่มให้ กลุ่มละ 5 คน

สร้างแท่นเจาะฯ

ให้โจทย์ คือ มีเงินปลอมให้ 2000 บาท เลือกแบบแท่นขุดเจาะ 1 ใน 3 แบบจากภาพที่เค้ามีให้ (เป็นแท่นบก) แล้วไปซื้อของตามที่มีในลิสต์ เพื่อเอามาสร้างแท่นตามแบบที่เราเลือก โดยแท่นต้องมีความสูงเกิน 1 เมตร และ ทนแผ่นดินไหวได้ !!!

ตัวอย่างของที่ให้ซื้อ เช่น A4 15 แผ่น 1000 บาท นสพ. 15 แผ่น 500 บาท เทปกาวแถบกว้าง 500 บาท เทปกาว แถบแคบ 250 บาท ไม้เสียบลูกชิ้น xxxx บาท หลอด xxx บาท

ให้เวลาอ่านโจทย์ วางแผนว่าจะซื้ออะไร แล้วไปซื้อมา 5-10 นาที (ผมลืมไปแล้วว่าจริงๆแล้วเค้าให้กี่นาทีแต่รู้ว่าน้อยมาก) ตอนแรกคิดว่าค่อยๆเดินไปเลือกซื้อชิลๆ ปรากฏว่าของที่จะซื้อมีจำนวนจำกัด เลยเกิดการยื้อแย่งกับกลุ่มอื่นเล็กน้อย

สรุปผมได้หลอด ไม้เสียบลูกชิ้น และเทปกาวมา ให้เวลาทำ 15-20 นาทีรึเปล่า? จำไม่ค่อยได้ครับ ระหว่างทำก็มีคนคอยจ้องให้คะแนน โชคดีมากที่ได้หลอด มันเอามาเสียบต่อๆกันแป๊บเดียวเสร็จเลย สูงปรี๊ด เบาด้วย ส่วนฐานก็ใช้ไม้เสียบลูกชิ้นทำเอาง่ายๆ ยึดด้วยเทปกาว เสร็จกลุ่มแรกเลย

ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเหมือนแบบที่เลือกก็ตาม กลุ่มอื่นเค้าเงียบๆกัน กลุ่มผมโวยวายกันสุดๆ ตลกดี หมดเวลาได้ทดสอบกลุ่มแรก พอยกขึ้นไปวางบนโต๊ะปุ๊บ เจอเค้าแซวเลยว่าหยั่งกะตึก Burj ที่ Dubai ไม่เห็นเหมือนแบบที่เลือกเลย ความสูงผ่าน เค้าก็ทดสอบแผ่นดินไหวโดยเดินมาเขย่าๆๆโต๊ะ แท่นผมมันเบามันก็โอนเอนไปมาแต่ไม่ล้ม เค้าก็แซวว่าออกแบบได้ยืดหยุ่นดี

แล้วก็ถามคำถามว่าในกลุ่มเนี่ยมี Leader มั้ย? ผมตอบว่าไม่มี เค้าก็ถามต่อว่าถ้ามี Leader จะทำงานได้ดีกว่านี้มั้ย? ผมตอบว่าดีกว่านี้แน่นอน

ส่วนกลุ่มอื่นๆเค้าก็ถามคำถาม เช่น …

  • วางแผนอย่างไร
  • ใครทำอะไร
  • ส่วนนี้เป็น Idea ของใคร
  • ทำไมกลุ่มคุณถึงได้อุปกรณ์มาน้อยจัง
  • พราะวางแผนซื้อช้าใช่มั้ย
  • จะ manage เวลาให้ดีกว่านี้อย่างไร
  • ทำไมน้องผู้หญิงในกลุ่มพูดแล้วไม่มีใครเชื่อเลย
  • จะทำยังไงให้คนอื่นซื้อไอเดียของคุณ

เหตุการณ์สมมุติ

กิจกรรมต่อมา คือ มีโจทย์มาให้อ่านบนจอใหญ่เป็นเหตุการณ์สมมุติ ให้เลือกตอบ choice 4 สี แดง เขียว เหลือง น้ำเงิน

ถ้าเลือก choice ไหนก็ให้เดินไปอยู่ตรงมุมห้องที่มีกระดาษสีนั้นแปะอยู่ ตัวอย่างโจทย์ เช่น คุณทำงานให้ BH และกำลังจะได้ contract งานชิ้นใหญ่ซึ่งจะสร้างผลกำไรได้มาก แต่ต้องแลกกับการจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้กับ จนท. รัฐบาล คุณจะทำอย่างไร

ตัวอย่างอีกข้อ คือ ถ้าคุณเป็น Field Engineer ที่มีประสปการณ์ ในระหว่างที่ทีมของคุณกำลังจะเอาอุปกรณ์ตัวหนึ่งของบริษัทที่เพิ่งสั่งมาไปใช้ในงานที่กำลังเร่งมาก และมี cost/hour สูงมากๆ มี Field Eng เด็กจบใหม่คนหนึ่งทักขึ้นมาว่าอุปกรณ์ตัวนี้มันไม่ได้มาตราฐาน มันมีปัญหา อย่าเอาไปใช้เลย คุณจะทำอย่างไร

พอเลือก choice ที่ต้องการเรียบร้อย เค้าก็จะสุ่มถามว่าทำไมเลือกข้อนี้ ทำไมไม่เลือกสีนั้นหล่ะ ถ้าเหตุการณ์มันกลายเป็นแบบนี้แบบนั้น คุณจะยังคงอยู่ที่สีเดิมมั้ย คุณจะโน้มน้าวคนที่เลือกสีอื่นให้มาอยู่กับคุณได้อย่างไร

จบเกือบ 2-3 ทุ่ม พักกินข้าวเย็น พอกินเสร็จเค้าเดินมาบอกให้เตรียมตัวตอบคำถาม 3 ข้อ โดยเค้าจะเรียกให้เข้าไปตอบในห้องทีละคนเรียงตามลำดับอักษรแรกของชื่อจริง

1. จะให้คะแนน performance ของตัวเองกี่คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 และมีอะไรอยากจะแก้ไขมั้ย? ผมให้ตัวเอง 9/10 (เยอะไปมั้ยเนี่ย 555) บอกว่าผมคิดว่าทำได้ดี เข้ากับทุกคนได้ดี ส่วนเรื่องกลับไปแก้ไขข้อผิดพลาด ผมก็บอกไปว่าผมประกอบอุปกรณ์หนึ่งได้ไม่สมบูรณ์ และผมทำสอบข้อเขียนไม่ทันข้อนึงด้วยเพราะมัวแต่อ่าน แต่ผมขอไม่กลับไปแก้ เพราะความผิดพลาดก็ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น แต่ถ้าผมต้องเจอการทดสอบแบบวันนี้อีกในอนาคต ผมจะพยายามไม่ประหม่า ไม่ตื่นเต้น และ โฟกัสอยู่กับการทดสอบมากกว่านี้

2. ใครคือคนที่คุณอยากทำงานด้วยมากที่สุด หรือทำงานด้วยง่ายที่สุด? ผมตอบน้องผู้ชายคนนึงไป เพราะมันตลกดี งานกลุ่มเค้าเครียดๆกันอยู่ มันยังทำให้เราขำกันได้ บรรยากาศในกลุ่มดีขึ้นทันที แถมความคิดของผมกับเค้ายังไปในแนวทางเดียวกันซะเป็นส่วนมาก ทำงานด้วยแล้วสบายใจ

3. Will you fit well in Baker Hughes? ผมตอบว่าแน่นอน ผมเป็นคนที่ทำงานหนัก ไม่ยอมแพ้ และทำงานกับใครก็ได้ เสร็จทั้งหมด 5 ทุ่มครึ่ง เข้านอน

ตอนเช้านัดรวม 6.30 น.

กินข้าวเช้า เสร็จแล้วเข้าห้องประชุม เค้าแบ่งกลุ่มให้อีกแล้ว 5 คน ให้กระดาษแผ่นยักษ์ 1 แผ่น กับปากกาเขียนบอร์ดมา โจทย์ คือ ถ้าเราเป็น Junior Field Eng ของ BH แล้วต้องไปออกงาน Job Fair ที่มหาลัย คุณจะ Present อะไรให้น้องๆฟังให้เค้าอยากมาร่วมงานกับบริษัท โดยมีข้อแม้ คือ ต้องพูดทั้งข้อดีและข้อเสียของ Field Engineer ให้เวลาประชุม เตรียมการ Present ราวๆ 15-30 นาที (ไม่แน่ใจอีกแล้วครับ) ให้เวลา present 10 นาที ถ้าเกินจะให้หยุดทันที

กลุ่มผมทำได้ดีมากๆ ใช้เวลาไป 9 นาที 27 วินาที เค้าชมเรื่องการบริหารเวลา และการนำเสนอ หลัง present จบ เค้าถามคำถามน้องผู้หญิงในกลุ่มว่าใครเหมาะจะเป็น leader ที่สุด น้องเค้าตอบว่าเป็นผม เพราะผมตัดสินใจอะไรไป สมาชิกในกลุ่มก็เชื่อหมด เค้าถามต่อว่ามีใครในกลุ่มจะแย้งมั้ยที่ให้ผมเป็น leader ผมยกมือขอแย้ง แล้วเสนอว่าคนเวียดนามอีกคนเหมาะจะเป็น leader มากกว่าผม เพราะเค้ามีไอเดียที่สุดยอดมาก จัดลำดับความคิดได้ดี และสามารถทำให้คนอื่นในกลุ่มเชื่อในไอเดียที่เค้าเสนอได้ แถมยังเป็นคนคอยจัดแจงดูเรื่องเวลาอีกต่างหาก

จบการทำกิจกรรม คุณ Julia เค้าก็ฉาย power point นำเสนอเกี่ยวกับ career path และ training course ที่ BH เตรียมไว้ให้ new field engineer และอธิบายว่าแต่ละปีจะต้องทำอะไรบ้าง ต้องผ่านเกณฑ์อะไรบ้าง ใครจะเป็นคนที่คอยดูแลเราในช่วง 3 ปีแรกของการทำงาน ดูจบแล้วผมรู้สึกอยากร่วมงานด้วยสุดๆ ทุกอย่างเค้าเตรียมไว้ให้เราอย่างดีจริงๆ รู้สึกว่าผมสามารถฝากอนาคตไว้กับบริษัทนี้ได้

หลังจากนั้นเค้าบอกให้เราเก็บของ check out แล้วมารวมกันที่หน้าห้องประชุม เค้าเรียกเข้าไปสัมภาษณ์ทีละคน เข้าไปนั่งต่อหน้ากรรมการทุกๆท่าน candidate แต่ละคนจะโดนถามอย่างน้อย 1 คำถาม แต่ของผมโดนเข้าไป 4-5 คำถาม !!!

  1. ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณเหมาะกับการเป็น Field Eng ของ BH ?
  2. ไหนลองเล่าเรื่องการทำงานใน harsh condition ให้ฟังทีซิ
  3. นอกจาก xxx แล้ว มีอย่างอื่นอีกมั้ย?
  4. รังเกียจมั้ยถ้าจะต้องทำงานแบบ labor งานเลอะๆ เปื้อนๆ
  5. คุณมีประสปการณ์ทำงาน hands-on อะไรมาบ้าง?

พักกินข้าวเที่ยง เสร็จแล้วเค้าจะเรียกเข้าไปในห้องทีละคนเพื่อบอกว่าผ่านการคัดเลือกและได้งานหรือไม่? (หยั่งกับพวกรายการ American Idol 5555)

คำตอบที่แต่ละคนจะได้ คือ 1 ใน 3 ข้อนี้

  • คุณผ่านการทดสอบ และ BH มีตำแหน่งให้เลย เช่น Wireline, Casing etc.
  • คุณผ่านการทดสอบ แต่ยังไม่มีตำแหน่งที่เหมาะสมกับคุณในตอนนี้ เราจะโทรไปแจ้งคุณทันทีที่มีตำแหน่งว่างที่เหมาะกับคุณ
  • คุณไม่ผ่าน

รออยู่นาน ผมเป็นคนสุดท้ายเลย ผลคือ xxx

สรุปผลโดยรวมใน BH Experience ครั้งนี้:

คนไทยที่ได้รับ offer เลยมี 3 คน

  1. Drilling เป็นน้องผู้ชาย เรียนเครื่องกล จุฬา เคยฝึกงานไปแท่นกับ Chevron ด้วย เก่งมากๆ สมควรแล้วที่ได้ เจอปัญหาอะไรก็นิ่งๆชิลๆ ไม่ตื่น ตอบคำถามได้ดีทุกครั้ง
  2. Coil Tubing เป็นน้องผู้ชายจาก SIIT เป็นเพื่อนมาด้วยกันกับคนแรก เก่งเหมือนกัน
  3. Casing เป็นน้องผู้หญิงเรียนป.โทเคมี จากจุฬา ตอนเด็กๆย้ายตามคุณพ่อไปอยู่หลายๆประเทศ ภาษาดีมาก ตอบคำถามได้ดี ยิ้มแย้มอารมณ์ดีตลอดเวลา

คนไทยที่ได้รับคำตอบข้อ 2. มี 5 คน รวมทั้งผมด้วย (หนึ่งในนั้นคือน้อง xxx เรียนวิศวะไฟฟ้าที่จุฬา เค้าบอกว่าเคยเขียนมาคุยกับพี่นกด้วย เป็นสาวตัวเล็กๆ แต่ลุยสุดๆ มั่นใจมากๆ ตลกด้วย ระหว่างทำกิจกรรม BH Experience ก็มีคนโทรมาบอกว่าเค้าได้งานที่ xxx แล้ว เก่งจัง ผมแอบปลื้มเลย (แบบปลื้มน้องสาวคนหนึ่งนะครับ แหะๆๆๆ))

คนเวียดนาม มาทั้งหมด 4 คน รู้สึกจะได้ offer เลย 3 คน ไม่ผ่าน 2 คน (จำไม่ค่อยได้ครับ)

คนอินโด ได้เป็น Wireline คนนี้ผมว่าทำได้ดีที่สุดในบรรดา candidate ทั้งหมด ทุกอย่างเหมือนเป็นธรรมชาติ ตอบคำถามได้คมมาก ดูไม่ fake นิสัยดี ตลก ถามเยอะ

โดยรวมแล้วผมสนุกมากๆ ได้เพื่อนดีๆเยอะ ได้ประสปการณ์อะไรมากมาย พวกเราซี้กันพอสมควรในเวลาเพียง 1-2 วัน จนถึงขั้นกลับมาตั้งกลุ่ม “BHI Experience” กันใน Facebook เลยทันทีที่กลับมา แสดงให้เห็นเลยว่าประทับใจกันแค่ไหน ดังนั้นถ้ามีโอกาสอยากให้ทุกคนมาลองดูนะครับ

(สุดยอดเลยครับ เล่าละเอียดดีมาก เป็นฉากๆเลย หวังว่าข้อมูลที่เพื่อนอุตส่าห์นั่งพิมพ์เล่าให้เรามาจะเป็นประโยชน์กับพวกเรา และ เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเรากลับมาเล่าประสบการณ์ของพวกเราบ้างนะครับ … พี่นก)

Baker Hughes Experience ต้นปี 2012

บริษัทเบเกอร์ฮิวจ์ มารับสมัครที่งานจ๊อบแฟร์ที่มหาวิทยาลัย ช่วงวาเวนไทน์ค่ะ

ในงานมีให้เลือกเวลาสอบข้อเขียน ซึ่งมี 4 รอบให้เลือก คือ บ่าย หรือเย็น วันพฤหัสที่ 16 กับ บ่าย หรือเย็นวันศุกร์ที่ 17 กุมพาพันธ์ ค่ะ โดยจัดสอบที่ตึก 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ค่ะ การสอบแบ่งออกเป็น 2 ฉบับ

  1. ภาษาอังกฤษ จะมี reading, error, vocabulary คำศํพท์ค่อนข้างยากนะคะ คิดว่าเป็นข้อสอบภาษาอังกฤษที่ยากพอตัวเทียบกับที่เคยเจอมา
  2. ความถนัด เป็นพวกโจทย์ปัญหา มีทั้งให้เติมคำ และเป็นช๊อยส์

หลังจากนั้นคืนวันศุกร์ประมาณเกือบเที่ยงคืน จึงมี messege ส่งมาในมือถือ เรียกผู้ที่ผ่าน รอบข้อเขียนให้ไปสัมภาษณ์ที่โรงแรมโนโวเทล ในวันรุ่งขึ้นค่ะ

รอบสัมภาษณ์

จะแยกเป็น 2 ห้อง แล้วแต่ว่าจะถูกเรียกไปห้องไหน

ผู้สัมภาษณ์จะเป็นชาวต่างชาติ เพราะฉะนั้นการสัมภาษณ์ทั้งหมดจะเป็นภาษาอังกฤษ สิ่งที่ถามจะเป็นเรื่องกิจกรรมของเรากับการทำงานเป็นทีม และ วัดว่าเราทราบเกี่ยวกับลักษณะงานของ field engineer มากแค่ไหน

สรุปๆ สิ่งที่ต้องเตรียมไปสำหรับรอบนี้

  1. แนะนำตนเอง
  2. กิจกรรมที่ภูมิใจนำเสนอ
  3. เหตุผลที่สนใจในงานแบบนี้
  4. ศึกษาลักษณะงาน field engineer ว่าต้องทำอะไรบ้าง ใช้ชีวิตอย่างไร จะไปเจออะไร แสดงให้เค้าเห็นว่าเรารู้ตัวว่ากำลังจะไปเจออะไร และว่าเรามีความสามารถพอที่จะทำ
สัปดาห์ต่อมา BH Experience

ประมาณวันอังคารก็มี อีเมล์ส่งมา นัดให้ไป BH Experience ช่วงวันที่ 7-9 มีนาคม นัดวันที่ 7 ตอนเที่ยง เดินทางไปถึงที่โรงแรมตอนเย็น จำนวนคนที่ไปมีทั้งหมด 20 คน

โดยในวันแรกจะยังไม่มีกิจกรรมอะไร เราสามารถใช้เวลาได้ตามอิสระ ทำความรู้จักเพื่อนๆไปพลางๆ กิจกรรมจะเริ่มในวันถัดมา คือวันที่ 8 ตั้งแต่ 6 โมงเช้า

ตารางกิจกรรมวันที่ 8

  • แนะนำตัวที่โรงแรม
  • ออกเดินทางไป warehouse ที่ชลบุรี
  • เข้าฐาน
  • ทัศนศึกษารอบ warehouse
  • ทำข้อสอบ
  • กลับโรงแรม
  • ทำกิจกรรมกลุ่มสร้างแท่นจากอุปกรณ์ต่างๆ
  • กิจกรรม debate
  • ข้าวเย็น
  • สัมภาษณ์เดี่ยว

เสร็จสิ้นวันก็ 5 ทุ่มครึ่งพอดี

ช่วงแนะนำตัว จะมีให้เราพูดเกี่ยวกับตัวเองคร่าวๆ เลือก adjective ที่เป็นตัวเองและ ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะตัวแรกของชื่อเรา และเลือก symbol ที่แสดงความเป็นตัวเรา ของหนูใช้ Thoughtful xxx เพราะเป็นคนชอบวางแผน และมีความคิดอยู่ในหัวตลอดเวลา และใช้สัญลักษณ์ กระทิง

โดยอธิบายว่า กระทิงจะมองเห็นแต่ผ้าแดงอยู่ข้างหน้ามัน เหมือนหนูเวลาที่มีเป้าหมาย จะมองไม่เห็นอย่างอื่น เห็นแต่เป้าหมาย หลังจากแนะนำตัวเองจบ เราจะต้องพูดไล่ ชื่อและ adjective ของคนที่ผ่านมาทั้งหมดด้วย

เช่น cool xxx, scary xxx, unforgetable xxx หลักสำคัญในกิจกรรมนี้ : พูดเสียงดังฟังชัด , ศึกษาและจำสมาชิกที่เหลือให้ได้

ในส่วนการเข้าฐาน แบ่งออกเป็น 5 ฐาน

Baker Hughes Experience

  1. ประกอบอุปกรณ์ตามดรออิ้ง (ต้องใส่ถุงมือก่อน!! เค้าจะไม่บอกอะไรต้องรู้เอง และอ่านเอกสารให้ดี จะมีบางชิ้นที่ไม่มีอุปกรณ์)
  2. วัดขนาดอุปกรณ์ด้วย เวอร์เนีย (บางส่วนวัดไม่ได้ ก็ต้องบวกลบเลขเอา ตามแต่พิจารณา)
  3. วัดค่า PH สารด้วย กระดาษ universal และ อุปกรณ์วัด (เหมือนเดิมคือต้องใส่ถุงมือ และคนคุมแอบกระซิบมาว่าเค้าดูว่าเราอ่านคู่มือก่อนใช้หรือเปล่า)
  4. ระกอบอุปกรณ์ตามดรออิ้งอีกรอบ
  5. วัดค่าความต้านทานด้วยมัลติมิเตอร์และอ่านจากสีโดยมีกระดาษบอกค่าสี (ความต้านทานสูงๆให้ระวังอย่าเอามือเราไปโดนตัวต้านทานตอนวัด เพราะเราจะนำไฟฟ้าทำให้วัดค่าผิดให้จับขาตัวต้านทานทำเป็นตะขอ แล้วเกี่ยวมิเตอร์ไว้)

ทั้ง 5 ฐานนี้สำคัญมาก ถ้าหากพลาดก็มีผลให้ไม่ผ่านได้เลย ทางที่ดีควรทำให้ผ่านทุกฐาน

หลังจากเสร็จครบทุกฐาน เค้าจะพาดู warehouse ซึ่งไม่รู้ว่าวัดความอดทนด้วยหรือเปล่า เพราาะแดดร้อนนรกมาก หรืออาจเป็นกลุ่มเราที่โชคร้าย เพราะเป็นกลุ่มเดียวที่โดนเดินกลางแดด

กลับมาเหงื่อชุ่มโชกกายทั้งกลุ่ม แล้วก็เข้าห้องแอร์ไปทำข้อสอบ เพื่อนคนหนึ่งปรับตัวไม่ทัน ร้อนแล้วเย็น ไข้ขึ้นสอบต่อไม่ไหว เสียดายมาก

ข้อสอบ จะมีสองชุด

  1. อ่าน case study แล้ววิเคราะห์ ตอบคำถาม
  2. เลขเผ่ามายัน เป็นการจับหลัก แล้วเอามาใช้ ใครชอบเล่นเกมซูโดกุ น่าจะชอบอันนี้

หลังจากนั้นกลับโรงแรม ทำกิจกรรมสร้างแท่นจากอุปกรณ์ต่อ แบ่งเป็นกลุ่ม

ให้เงินมาจำนวนหนึ่ง เลือกบริหารเงิน บริหารเวลาเอาเอง อันนี้คล้ายๆของ slb หลังจากนั้น กิจกรรม debate เค้าจะขึ้นคำถามยกตัวอย่างสถานการณ์บนกระดาน แล้วมีช้อยให้เลือก

ถ้าเราเลือกช็อยส์ไหนก็ไปยืนตามตำแหน่งที่เค้ากำหนด แล้วเค้าจะไล่ถามว่าทำไมเราถึงเลือกอันนั้น มีคำถามประมาณ 5 ข้อ ทั้งหมดก็จะเป็นสิ่งที่แสดง value และ วัฒนธรรมของบริษัท อันนี้ตอบผิดไม่ซีเรียส แต่เหตุผลต้องมีดีพอ

หลังจากกินข้าวเย็นจะเรียกสัมภาษณเดี่ยวไล่ตามชื่อ คำถาม 3 ข้อ

  1. กิจกรรมวันนี้ ให้คะแนนตัวเองเท่าไร เราบอก xxx/10 เพราะ จากกิจกรรมคิดว่าตัวเองมีจุดบกพร่องคือ xxxx
  2. ทำงานกับใครสบายใจที่สุด เลือก xxx ที่ทำกิจกรรมด้วยกัน เพราะ xxx
  3. ความรู้ที่มีตอนนี้ คิดว่า fit กับบริษัทแค่ไหน

ของวันที่ 9 ขอมาต่อวันหลังนะคะ

(เอ้า มาปูเสื่อรอกันเร็ว … ถ้าช้า มีทวงนะหนู … พี่นก)

Baker Hughes experience

ผมก็เป็นเด็กกำลังจะจบคนนึงที่ได้ไปสัมภาษณ์กับ Baker Hughes สามวันสองคืน ที่สัตหีบครับ กะว่าสอบเสร็จจะมาเขียนลงblogพี่ เพราะจำได้ว่าไม่มีคนเคยไปมาก่อน แต่โดนพี่ xxx เล่าตัดหน้าไปซะแล้ว T-T (พี่แกเขียนละเอียดยิบย่อยจริงๆ ถ้าผมเขียนคงได้แค่ครึ่งนึงของแก)

ผมขอเสริมนิดนึงละกันนะครับ ว่า ให้เป็นตัวของตัวเองจะดีที่สุด ยกเว้นว่ามีอะไรที่สุดโต่งเกินไปก็อย่าไปแสดงให้เค้าเห็น เพราะจากที่ผมไปมานี่ หลายคนที่คิดว่าน่าจะได้กลับไม่ได้ คนที่ว่ามันไม่น่าจะเหมาะก็ดันได้ ^^” คือไม่มีทางรู้เลยว่าเค้าใช้อะไรเป็นตัววัดครับ

ตัวอย่างเช่น เวลาทำงานกลุ่มเสร็จเค้าจะถามว่า คุณคิดว่าใครเป็นผู้นำกลุ่ม? บางคนที่เพื่อนชี้ว่า ไอ้คนนี้เวลาทำงานกลุ่มกันแล้วรู้สึกว่าเป็น leader สุดท้ายไม่ได้งานก็มี คนที่ได้งานกันก็ไม่เคยโดนชี้ว่าเป็น leader หรือบางคนรู้สึกว่าต้อง active พยายามทำตัวเด่นให้กรรมการเห็น สุดท้ายก็ไม่ได้งาน คนที่ได้ 2 จาก 3 คนนี่ไม่เด่นเลยครับ คือถ้ากรรมการไม่ถามก็ไม่พูด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่ทราบนะครับว่าเวลาเค้าตอบสัมภาษณ์เดี่ยวอาจจะตอบดีก็ได้

(อ่านแล้วก็ชื่นชมน้องๆ 4 คนนี้ ที่เอามาเล่าบอกต่อกันแบบไม่มีกั๊ก เนื่องจากที่สัมภาษณ์กันนี้ก็ปี 2012 นานมากมาแล้ว น้องๆ 3 คนนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในวงการฯเรานี่แหละครับ ไม่รู้ว่าย้ายค่ายเบอร์เดิมกันไปบ้างไหม แต่ก็วนๆกันอยู่ในอ่างเดียวกันนี่แหละครับ

ใครมีประสบการณ์สัมภาษณ์อะไรที่ไหนมา เล่าสู่กันฟัง แบ่งปันกันนะครับ อย่าลืมว่า แค่ประโยคเดียวที่คุณเอามาเล่าให้ฟัง อาจจะพลิกชีวิตของใครบางคนได้เลยทีเดียว ส่งมาที่ nongferndaddy@hotmail.com นะครับ … พี่นก)

ประสบการณ์สัมภาษณ์อื่นๆของ Baker

ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

--- มีคำถามเพิ่มเติม พูดคุย เม้าส์มอย ไปต่อกันได้ที่กระดานสนทนา (webboard) นะครับ

คลิ๊กเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

The Sweet Girl

ของมือสองของเฟิร์นค่ะ มีหลายชิ้นเลย ราคาดีสุดๆ (คลิ๊กที่รูปนะคะ ลิงค์จะพาไปที่ร้านค่ะ)

Fern shop

--------- คลิ๊ก - The Sweet Girl ----------