Master degree in Oil Gas engineering @ U of Aberdeen ตอนที่ 2

Master degree in Oil Gas engineering … มารู้ฟังประสบการณ์ดีๆสนุกๆ(แถมความรู้ด้วย) ตอนที่ 2 กันครับ กับชีวิตการไปเรียนที่อเบอร์ดีน ที่ๆถูกขนานนามว่า เมืองหลวงของวงการฯขุดน้ำมันของโลก

ข้างล่างนี้เป็นลิงค์ไปตอนที่ 1 นะครับ

Master degree in Oil & Gas engineering @ University of Aberdeen ตอนที่ 1

Master degree in Oil & Gas engineering @ U of Aberdeen ตอนที่ 1

Master degree in Oil Gas engineering (2)

ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ของผู้คนที่นี่นะครับ ความรู้สึกส่วนตัวคือผู้คนที่นี่อัธยาศัยดีมากๆ ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราขึ้นลิฟท์ในเมืองไทย ทุกคนก็จะก้มหน้าก้มตาหรือพยายามอยู่นิ่งๆเงียบๆใช่มั๊ยครับ แต่เท่าที่ผมอยู่ที่นี่มา จะมีโอกาสเยอะมากที่เราจะทักทายกับคนแปลกหน้าในลิฟท์ หรือแม้กระทั่งเวลาเดินสวนกับบนถนน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่นี่ บางทีเรายิ้มให้เค้า เค้าก็ทักทายเรากลับ แล้วก็ถามสารทุกข์สุขดิบ (คนสูงอายุที่นี่จูงสุนัขเดินเล่นออกกำลังกายเยอะมากๆครับ)

เมืองAberdeen เป็นเมืองใหญ่ราวๆอันดับสามของประเทศสก็อตแลนด์ครับ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็น oil capital of the world เลยทำให้หลายๆคนสนใจมาเรียนที่นี่กัน เขตตัวเมืองเลยก็จะมีถนนเส้นหลักที่เรียกๆกันว่า city center หรือ Union street เหมือนเป็นศูนย์รวมแหล่งช็อปปิ้งร้านอาหารของเมืองครับ พวกห้างหรือซุปเปอร์มาเก็ตกับร้านอาหารก็จะมากระจุกกันตรงนี้เยอะ(มีร้านอาหารไทยด้วย)

เมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองเล็กๆน่ารัก ส่วนใหญ่ตึกจะสร้างจากหินแกรนิต เมืองก็จะสีเทาๆหม่นๆครับ อากาศที่นี่ก็ส่วนใหญ่ก็จะเย็นทั้งปี แต่ปัญหาของคนที่นี่จะไม่ใช่ความเย็นครับ แต่เป็นลมกับฝน ที่นี่ลมแรงมากๆ เนื่องจากเมืองติดทะเล แล้วฝนก็ตกบ่อยๆมากจนน่าเอือมระอาอยู่เหมือนกันครับ คนส่วนใหญ่ถ้าฝนตกก็จะไม่หยุดรอเหมือนคนไทย แต่จะหยิบเสื้อกันฝนออกมาแล้วเดินลุยฝนออกไปแทน

ฝนที่นี่กับเมืองไทยจะค่อนข้างต่างกันอยู่ครับ ที่นี่ฝนจะเป็นเม็ดเล็กๆไม่มีตกหนักๆเหมือนที่ไทย แล้วฝนที่นี่จะตกเป็นแนวนอน 5555 เพราะฉะนั้นถือร่มไปก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ควรหาชุดกันฝนดีๆมาใส่มากกว่า

อีกเรื่องที่อยากจะพูดถึงคือเรื่องเพื่อนแล้วก็การเรียนในมหาลัยของที่นี่ครับ (เฉพาะของOil and Gas นะครับ แต่ละคณะจะเรียนต่างกันมากอยู่)

คะแนนของที่นี่จะคิดรวมจากคะแนน course work กับ final examครับ งานส่วนใหญ่ที่เค้าให้ก็จะต้องคิดวิเคราะห์เยอะ ยกตัวอย่าง เช่น วิชา project management เค้าจะมีเหตุการณ์มาให้ แล้วให้เราทำเอกสารรายงานของโปรเจค โดยอ้างอิงจากสิ่งที่เราทราบ หรือ สอบถามเพิ่ม กับ ข้อมูลบางส่วนที่ต้องหาเพิ่มด้วย

ส่วนคะแนนงานบางวิชาก็อาจจะมาจากแลปหรือ การสอบย่อยเล็กๆ แล้วแต่ละสัปดาห์ก็จะมีคาบ tutorial ของวิชานั้นๆ เพื่อให้เราฝึกทำโจทย์ ซึ่งส่วนนี้จะไม่มีคะแนนเก็บ แต่จะเหมือนเตรียมพร้อมสำหรับการสอบ final มากกว่า การเรียนในห้องเรียนส่วนใหญ่จะเรียนรวมกับเพื่อนๆจากสาขาอื่นๆ เช่น petroleum engineering, reservoir engineering

ที่นี่นักเรียนจะค่อนข้างเงียบเวลาอาจารย์สอน(มีบ้างที่แอบคุยกันซุบซิบๆ) ใครสงสัยอะไรก็ยกมือถามได้เลย สามารถถามได้ตลอดเวลา หรือ ถ้าไม่กล้าถามหรือสงสัยนอกเวลาก็สามารถนัดพบ หรือ อีเมลไปถามเป็นการส่วนตัวได้

นักเรียนในคลาสจะมาจากหลากหลายประเทศมากครับ เรียกได้ว่าทั่วโลกเลยก็ได้ ยกตัวอย่างคนที่ผมสนิทด้วย เช่น บราซิล ซูดาน แม็กซิโก อิหร่าน ไนจีเรีย โปแลนด์ อายุของแต่ละคนก็หลากหลายมาก ผมถือว่าเด็กสุดในคลาสเพราะว่าเรียนจบ ป.ตรี แล้วก็มาศึกษาต่อด้านนี้ทันที

อายุของคนส่วนใหญ่จะอยู่ราวๆ 25-30 ปี ครับ จบมาจากหลากหลายสาขาเลย แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นด้านปิโตรเลียมโดยตรง เพื่อนๆทุกคนก็เป็นมิตรดีครับ เจอกันในเมืองก็ทักทายกันปกติ

ส่วนการทำงานกับคนต่างชาติ เค้าจะไม่มีเรื่อง seniority ทำให้เราสามารถกล้าที่จะแสดงออกความคิดเห็นได้เต็มที่ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องยอมรับความผิดพลาดของตัวเองได้ดีด้วย

ส่วนใหญ่ก็ราวๆนี้ครับ ผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงสองเดือน ยังไม่ได้เดินทางไปไหนมากนัก เรื่องการท่องเที่ยวหรือต่างเมืองก็ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่ เลยยังไม่มีข้อมูลมาแชร์ให้ฟัง แต่ถ้าเป็นเรื่องการเรียนหรือความเป็นอยู่ ก็ยินดีจะแนะนำทุกๆคนที่อยากมาเรียนต่อที่นี่ครับ

หรือจริงๆถ้ามีใครสนใจมาเรียนต่อในScotland ไม่ว่าคณะไหน สามารถสอบถามที่พี่ๆ (ลิงค์ –>) Mcducation ได้โดยตรงเลยครับ พี่ๆใจดีน่ารักทุกคน ช่วยเหลือผมเยอะมาก ข้อมูลแน่นมากๆด้วยครับ

pitchayut.dejtaradon@gmail.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *