Site icon OIL MAN

โชติช่วงชัชวาล จากยุค “โชติช่วงชัชวาล” ถึงการแสวงหาพลังงานด้วยมือคนไทย

โชติช่วงชัชวาล

โชติช่วงชัชวาล … ผมได้ยินคำๆนี้ครั้งแรกตอนอยู่ ม. 3 ไม่รู้หรอกว่าความหมายมันคืออะไร จำได้แต่ว่า ผู้ใหญ่ และ ข่าวในทีวี ตื่นเต้นกันมาก กับคำว่า โชติช่วงชัชวาลนี่ จำได้ว่าบางข่าว ถึงกับบอกว่าเราจะเป็นโอเปกแห่งเอเซีย ซึ่งเด็ก ม. 3 ในปี พ.ศ. 2524 ก็ไม่รู้อีกว่า เจ้าโอเปค มันคืออะไร รู้จักแต่โอวัลติน เพราะตอนนั้น คุณแม่ผมยังไม่ให้กินกาแฟ เพราะเหตุผลที่แม่บอกว่า ทำให้เซลสมองเสื่อมเร็ว เดี๋ยวเรียนไม่จบ 555

ผมก็เรียนหนังสือไปเรื่อย ทำไรไปเรื่อย หัวหกก้นขวิดไปตามวัยตามกาล จนได้ไปทำงานกับบ.service ในวงการเมื่อเรียนจบ ถึงได้รู้ว่า อ๋อ โอเปคคืออะไร แล้วที่เราจะเป็นโอเปคนั้นมันก็นะ … หุหุ

บอกตรงๆว่าผมก็ไม่รู้เรื่องเบื้องหน้าเบื้องหลังของเรื่องราวในอ่าวไทยเท่าไร เพราะผมไม่ได้เริ่มต้นอาชีพนี้ในวงการฯจากในอ่าวไทย

ผมรู้จัก ชื่อชั้นหิน ชื่อแหล่ง และ อะไรต่างๆมาทั่วโลก แต่เพิ่งมารู้จักชื่อ แอ่งปัตตานี แอ่งพิษณุโลก ชั้นหินชุมแสง ชั้นหินบรรพต และ ชื่อ แปลกๆอื่นๆอีกมากมายของไทยเราเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง

และที่ผมเพิ่งมารู้ไม่นานนี้ (ไม่นานเมื่อเทียบกับเวลาที่ผมเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ตั้งแต่ปี 1989) คือ เบื้องหลังความสำเร็จของการผลิตก๊าซจากแหล่งที่มีความท้าทายมาก มีคนไทย (ที่เป็นคนไทยจริงๆ ไม่ใช่ ไทยที่สวมเสื้อใส่วิญญาณฝรั่ง) กลุ่มเล็กๆอยู่เบื้องหลังในช่วงบุกเบิก

ต้องเข้าใจภาพรวมก่อนว่า ในวงการนี้ ในสมัย 30+ ปีที่แล้ว มีคนไทยน้อยๆมากๆ และ ที่น้อยมากๆนั้น ส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการเรียนรู้จากฝรั่ง และ จบที่เป็นลูกจ้างฝรั่ง (รวมถึงผมด้วย) เพราะรายได้ที่จูงใจ

ดังนั้น คนไทยกลุ่มแรกที่ยอมลำบากกับภาระกิจขนาดที่จะได้อ่านต่อไปนี้ ด้วยค่าตอบแทนแบบไทยๆในสมัยนั้น นอกจากจะนับถือที่ ความเก่ง ความมุ่งมั่น แล้ว ผมยังนับถือ “ใจ” ของคนกลุ่มนี้ด้วย

คำว่า “ผม” ในบทความที่จะอ่านต่อไปนี้ ไม่ใช่ ผม นะครับ แต่หมายถึง พี่ช้าง พี่พงศธร ทวีสิน ที่พวกเราไม่ว่าบริษัทไหนทำอะไร ทั้งในอ่าวฯ และ บนบก เรียก พี่ และ ยกมือไหว้ ได้อย่างสนิทใจ

——————————————————

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/644031

โชติช่วงชัชวาล

หลายท่านคงเคยได้ยินคำว่า “ยุค โชติช่วงชัชวาล ” เมื่อ 30 ปีที่แล้ว หลังการค้นพบแหล่งพลังงาน“ก๊าซธรรมชาติ” ในอ่าวไทยและสามารถนำก๊าซฯ ดังกล่าว มาใช้ประโยชน์ทดแทนเชื้อเพลิงราคาแพงจากต่างประเทศได้เป็นครั้งแรก ในปี 2524 ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศ อันเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของไทย

รัฐบาลในสมัยนั้นตระหนักดีว่าการแสวงหาแหล่งพลังงานมีความเสี่ยง และค่าใช้จ่ายสูงมาก อีกทั้งประเทศไทยในขณะนั้น ยังขาดแคลนเทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความชำนาญด้านนี้ รัฐจึงมีนโยบายเชิญชวนบริษัทน้ำมันต่างชาติเข้ามาสำรวจและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในประเทศไทย

ผมมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์พลังงานของไทยในครั้งนั้น ด้วยการเข้าร่วมภารกิจพัฒนาแหล่งพลังงานไทยร่วมกับเพื่อนพนักงาน ปตท.สผ. อีก 7 – 8 คน ซึ่งเรื่องที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังนั้นคือการพัฒนา “แหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช” หนึ่งในแหล่งพลังงานหลักของไทยที่สร้างคุณูปการให้กับประเทศ รวมทั้งความภาคภูมิใจแก่คนไทยจนถึงทุกวันนี้

แหล่งบงกช

ย้อนกลับไปหลังจากที่แหล่งบงกชถูกค้นพบเมื่อปี 2516 โดยบริษัท เทเนโก ประเทศสหรัฐ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าไทยจะมีแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่อยู่ใต้พื้นทะเล รัฐบาลขณะนั้นเล็งเห็นถึงประโยชน์มหาศาลที่ประเทศจะได้รับจากการพัฒนาแหล่งบงกช จึงตัดสินใจซื้อสัมปทานคืนจากบริษัท เท็กซัส แปซิฟิคในปี 2531 และมอบหมายให้ ปตท.สผ. เปรียบเสมือน “ตัวแทนของรัฐ” เป็นผู้พัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ปตท.สผ. ได้คัดเลือกบริษัทน้ำมันระดับโลก 3 บริษัท คือ “โททาล” จากฝรั่งเศส “บริติช แก๊ส” จากอังกฤษ และ “แสตทออยล์” จากนอร์เวย์ เข้าเป็นผู้ร่วมทุนเพื่อพัฒนาแหล่งบงกช โดยให้โททาลเป็นผู้ดำเนินการ (Operator) จนสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้เป็นครั้งแรกในปี 2536 โดยมีข้อตกลงว่า ปตท.สผ. จะเข้าเป็นผู้ดำเนินการต่อจากโททาล หลังจากที่ผลิตไปแล้ว 5 ปี (2541) โดยระหว่างนั้น โททาลจะต้องถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับ ปตท.สผ.

นั่นเรียกได้ว่าเป็น “ภารกิจแรก” ของ ปตท.สผ. ในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการของคนไทยในการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานด้วยครับ

แน่นอนที่สุดว่า การโอนผู้ดำเนินการ (Operatorship transfer) แหล่งก๊าซฯ ขนาดใหญ่ ย่อมต้องมีกระบวนการในเตรียมการที่รอบคอบ รัดกุม เพื่อให้มั่นใจว่าการถ่ายโอนงานเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด โททาล และ ปตท.สผ. จึงได้ตั้งคณะทำงานร่วมกัน (Task force) เพื่อวางแผนและเตรียมความพร้อมในการโอน ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ ด้านปฏิบัติการ ด้านสำรวจ ด้านการผลิต ด้านบุคลากร

การโอนผู้ดำเนินการ (Operatorship transfer)

ตามแผนการโอนผู้ดำเนินการ ซึ่งเรียกกันว่า การปฏิบัติงานสมทบ (secondment) มีการส่งพนักงานไปเรียนรู้งาน ทั้งที่สำนักงานใหญ่ในฝรั่งเศส และ Operation site ในประเทศต่าง ๆ เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เยเมน  เป็นเวลากว่า 10 ปี ทำให้การทำงานต้องเจอกับความแตกต่างกันในด้านวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา ภูมิอากาศ และระบบการทำงาน ทำให้เราต้องเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เช่น วัฒนธรรมแบบ Western style ที่เราอยากรู้อะไรต้องถาม ขวนขวายเรียนรู้ด้วยตัวเอง

ซึ่งตอนนั้นบอกได้เลยครับว่า เป็นประสบการณ์ที่มีค่าของชีวิตครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนคิดเหมือนกันคือ เป้าหมาย ที่ต้องรับหน้าที่แทนชาวต่างชาติในการเป็นผู้ดำเนินการแหล่งบงกชให้ได้

Field Manager

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ผมกลับมาปฏิบัติงานที่แท่นผลิตก๊าซฯ บงกช โดยเริ่มจากเป็นผู้ช่วยหัวหน้าปฏิบัติการผลิต และขยับมาเป็นหัวหน้าการผลิต (Production Superintendent) ทำงานไปได้สักระยะ มาวันหนึ่งผมก็ได้รับข่าวดีจากผู้จัดการแท่นผลิต หรือ Field Manager ชาวฝรั่งเศส บอกให้ผมเตรียมตัวเป็น Field Manager ต่อจากเขาตอนนั้นผมทั้งตกใจ ดีใจ และภูมิใจ เพราะการเป็น Field Manager หมายถึงหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบการผลิตก๊าซฯ ให้กับประเทศ ต้องดูแลบริหารจัดการทุกอย่างบนแท่นผลิต รวมทั้งพนักงานกว่าร้อยชีวิตด้วย

นั่นคือสิ่งที่พิสูจน์ว่าเขายอมรับและเชื่อว่าคนไทยสามารถปฏิบัติงานได้เช่นเดียวกับเขา ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ยังมีพนักงานคนไทยอีก 10-20 คน ที่จะต้องรับหน้าที่ต่อจากพนักงานชาวฝรั่งเศสของโททาลในตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ

ในที่สุด การเข้าเป็นผู้ดำเนินการแหล่งบงกชในปี 2541 พูดได้ว่า เราไม่ใช่แค่ “ทำได้” แต่ต้องบอกว่าเรา “ทำได้ดี” ด้วย จากนั้นมาก็มีพนักงาน ปตท.สผ. ทยอยรับหน้าที่สำคัญๆ ในโครงการบงกชแทนโททาล จนปัจจุบัน พนักงานที่ปฏิบัติงานในโครงการบงกชเป็นคนไทยเกือบ 100%

ความสำเร็จในครั้งนั้น โททาลมีส่วนสำคัญอย่างมาก เขาเป็นทั้ง “พันธมิตร” และ “พี่เลี้ยง” ในเวลาเดียวกัน จนทุกวันนี้ก็ยังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ทั้ง การวางรากฐานการปฏิบัติงาน มาตรการความปลอดภัย ตลอดจนความรู้เชิงเทคนิคต่าง ๆ ในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับอีก 2 พันธมิตรของแหล่งบงกชในตอนนั้น ก็ให้ความร่วมมือในการทำงานด้วยดี แม้ว่าปัจจุบันนี้จะไม่ได้เป็นผู้ร่วมทุนในแหล่งบงกชแล้วก็ตาม

โรงเรียน

กระทั่งปีปัจจุบัน แหล่งบงกชกำลังจะครบรอบการผลิตปีที่ 25 ในเดือน ก.ค. ที่นี่เป็นเสมือนโรงเรียนต้นแบบของ ปตท.สผ. เป็นที่สร้างบุคลากรไทยอีกหลายต่อหลายรุ่น เป็นที่ฝึกฝนการดำเนินการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียมของบริษัทไทยในการทำภารกิจให้กับประเทศ

แม้วันนี้ ประเทศเรายังไม่สามารถผลิตพลังงานใช้เองได้ทั้งหมด และยังต้องนำเข้าพลังงาน แต่อย่างน้อย ปตท.สผได้สริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน สมความหมายของรัฐบาล ในการทำหน้าที่ ต่อรองและถ่วงดุลอำนาจบริษัทน้ำมันต่างชาติ สามารถลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ เพราะจากที่ผลิตก๊าซได้ 150 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในช่วงแรก แต่ปัจจุบันแหล่งบงกชเพิ่มอัตราผลิตขึ้นมาเป็นประมาณ 900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือเท่ากับ 1 ใน 3 ของก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ภายในประเทศ

ประสบการณ์

ประสบการณ์และความรู้ที่ได้จากแหล่งบงกช ได้ถูกนำไปใช้ในโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอื่น ๆ ของเรา ทั้งในและต่างประเทศ เช่น โครงการอาทิตย์ในอ่าวไทย นอกจากนี้ เรายังถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นให้ชาวท้องถิ่นของประเทศที่เราเข้าไปดำเนินการ เช่น โครงการซอติก้าในเมียนมา และอีกหลายโครงการ

แหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช” ไม่ได้เป็นเพียงโรงเรียนต้นแบบที่ทำให้คนไทยแสวงหาพลังงานได้ด้วยตัวเอง แต่ยังทำให้เรามีบริษัทสำรวจและผลิตของไทยที่มีความสามารถทัดเทียมกับบริษัทต่างชาติ เป็นที่ที่ทำให้เราเปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้รับ” เป็น “ผู้ให้” และที่สำคัญคือเป็นที่ที่สร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และต่อไปในอนาคตครับ

โดย…

พงศธร ทวีสิน

กรรมการผู้จัดการใหญ่ สำรวจและผลิตปิโตรเลียม

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

——————————————-

เป็นไงครับชีวิต และ การบุกเบิก แหล่งบงกช ของพี่ช้าง ถ้าอ่านแล้วติดลมก็สามารถคลิ๊กไปชม แท่นผลิตบงกช ต่อได้ — > เจาะชีวิตคนบนแท่น

Exit mobile version