ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

Rig Tour พาเที่ยวแท่นเจาะสำรวจนอกชายฝั่งอ่าวไทยไปกับ Nong Fern Daddy

Rig Tour พาเที่ยวแท่นเจาะสำรวจนอกชายฝั่งอ่าวไทยไปกับ Nong Fern Daddy …. ด้วยลูกบ้า(ยุ) ผมจะพาทัวร์ไปในที่ๆหลายคนอาจไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จัก แต่ที่เหล่านี้ได้เคยเป็นที่ทำมาหารัปทานเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง(อ้วนๆ)ของผมและครอบครัวมาถึง 26 ปี และก็คงจะเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกนาน (เพราะไม่มีปัญญาไปทำมาหารัปทานทางอื่น … ฮ่า

Rig Tour

++++++++++ อารัมภบท ++++++++++

Rig Tour นี้มันจะต้องยาวมาก อาจจะยาวที่สุด ใช้เวลาความตั้งใจ ความใส่ใจ และเตรียมการ มากที่สุดในประวัติศาสตร์การเขียนบล๊อกของผม รูปอาจจะไม่สวยเท่าที่เคยเอามาให้ดูนะครับ เพราะ … มันคือชีวิตจริงของพวกเรา

ถ้าจะซื้อของใน shopee อยู่แล้ว เข้าทางนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯ ถือว่าช่วยผมจ่ายค่าเช่า host server ไม่ใช่คลิ๊กดูดเงินแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล

เนื่องจากมีรูปและคลิปเยอะมาก ถ้าพบข้อขัดข้องทางเทคนิด พวกลิงค์ไม่ไป หรือลิงค์ไปแต่ไม่ได้ไปที่จะให้ไป (ไปไหนก็ไม่รู้พาไปเข้ารกเข้าพง) คลิปโหลดไม่ขึ้น รูปไม่ชัด ข้อความพิงพาดไปก้าวล่วง เหยียบตาปลาใคร หรือ อาชีพใด หรือ ว่าแนะนำติชม Rig Tour ก็สะกิดสะเกาเม้าส์-to-เม้าส์ กันมาได้นะครับ ฝากไว้ที่ความเห็น หลังไมค์ หรือ อีเมล์ nongferndaddy@hotmail.com ก็ได้ครับ จะได้แก้ไขโดยด่วน คนที่มาอ่านทีหลังจะได้ ไม่ตะกุกตะกัก

$$$$$$$ เงินๆทองๆ $$$$$$$

ก่อนจะออกเดินทาง Rig Tour มีรายการที่ต้องตรวจสอบกันหน่อย (Check list) เพราะคืบก็ทะเลศอกก็ทะเล จำไว้อย่างว่าคนที่พร้อมมักไม่เป็นอะไร คนที่เป็นอะไรมักจะเป็นคนที่ไม่พร้อม

1. กรรมธรรม์ประกันชีวิต ใครเป็นผู้รับผลประโยชน์ ลูก พ่อแม่ พี่น้อง เมีย จะให้คนล่ะเท่าไร (ยังเปลี่ยนใจทันนะ อิอิ) ส่งเบี้ยครบหรือยัง มีครบรอบจ่ายเบี้ยช่วงที่จะไม่อยู่ไหม จะได้ไม่ต้องมาบ่น(ตอนที่มะก้องด้องไปแล้ว)ว่า (ตู)น่าจะดูให้เรียบร้อยเสียก่อน

-------------------------------------------------------

ไม่พลาด ข่าวสาร บทความ ความรู้ ประกาศตำแหน่งงานว่าง และ อื่นๆ

กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ในแบบฟอร์มข้างล่าง จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ ... อ้อ ... อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น

จะมีอีเมล์กลับมาให้ "ยืนยัน" นะครับ การสมัครจึงจะสมบูรณ์ … อ้อ … อย่าลืมดูใน junk, trash, spam box นะครับ บางทีระบบมันเอาอีเมล์ตอบกลับไปไว้ที่นั่น แล้วอย่าลืม mark as not junk or spam ด้วยนะครับ เวลาส่งเตือนคราวหน้า จะได้ไปอยู่ใน in box :)

2. พินัยกรรม จัดการซะ  หรืออะไรยังไง ฝากใครเก็บ เก็บไว้ที่ไหน ก็บอกๆกัน เดี๋ยวจะกลายเป็นศึกสายเลือด อย่าให้คนข้างหลังต้องมาตีกันหน้าเมรุ

3. ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต (Statement) ใบไหนให้ส่งที่ไหน ก็จริงอยู่เราเช็คยอด จ่ายทางเน็ทได้จากบนโน้น แต่เน็ทบนโน้นมันก็ไว้ใจไม่ค่อยได้หรอกครับ เดี๋ยวจ่ายไม่ทันจะโดนดอกเบี้ยมหาโหด

## เออ ไปกันซะทีซิว่ะ ##

เอาล่ะ พร้อมกันหรือยัง มาเรามาเริ่ม Rig tour ที่จัดกระเป๋ากันเลย เอาเฉพาะแง่มุมที่ไม่เหมือนกับการเดินทางทั่วๆไปก็แล้วกันนะครับ อย่างแรกเลยคือ อย่าเอากระเป๋าไฮโซไป พวกอะไรน่ะ จี่ๆ เออ ไอ้แมงกุดจี่ ป้าดา หลุยติ้งต๊อง ยี่ห้อพวกนี้อย่าเอาไป เพราะมัน(หรือคุณ)จะโหยหวลเพราะทน(เห็นมัน)ถูลู่ถูกังไม่ไหว

แต่ก็ไม่ถึงกับถุงทะเลกระสอบผ้ายีนส์แบบทหารเรือ เอาพอประมาณ แบบในรูป (Offshore bag)ก็โอเค อย่างที่สอง อย่าเอาแบบมีล้อ เพราะมันไม่มีที่ให้คุณลากเฉิดฉายเฉิบๆ มีทางดีๆให้ลากอย่างเก่งก็แค่สนามบินดอนเมืองกับหาดใหญ่ จากนั้นก็โดนโยนขึ้นโยนลงฮ. ตุเลงๆอยู่บนแท่น ล้อมันจะพังเสียก่อน

ต่อมาก็เสื้อผ้า เอาชุดที่คุณคิดว่าจะปลดประจำการไปจะดีที่สุด เพราะที่นั่นไม่มีเปาแฮนด์ฟอร์ส ผมเคยคิดว่าถ้าเครื่องบดหมูที่บ้านผมเสีย จะไปเซ้งเครื่องซักผ้าที่นั่นมาบดหมูแทน (คิดดูเอาเองล่ะกัน) คุณภาพผงซักฟอกก็เกือบๆโซดาไฟเราดีๆนี่เอง

นี่ว่ากันแบบพื้นๆนะ แต่บางที่ก็ซักชุดหมีที่ใช้ทำงานกับชุดธรรมดาแยกกัน แต่ทางที่ดีอย่าไว้ใจดีที่สุด อีกอย่างแผนกซักที่นั่นจะเขียนหมายเลขห้องของท่านด้วยปากกาชนิดติดทนนานลงตรงไหนของเสื้อผ้าท่านก็ได้ ไอ้ที่จะเม้มๆตามตะเข็บตามสาบเสื้อแบบที่โรงแรมทำกันน่ะ ฝันไปเหอะ

สรุป อย่าเอาชุดเก่ง ตัวเก่งไป ส่วนตัวผมแล้ว ผมจะใส่ชุดที่ดีหน่อยเดินทาง พอไปถึงก็ถอดเก็บ ไม่ส่งซัก แล้วก็เอามาใส่อีกทีวันกลับ ระหว่างนั้นก็ซกมกๆกันไป (อิอิ) ไม่มีใครสนใจใครเรื่องเสื้อผ้า และถ้าคุณไม่เรื่องมาก ผ้าขนหนูกับสบู่ก็ไม่ต้องเอาไป เพราะที่นั่นมีให้ฟรีครับ กระเป๋าเบาไปอีกนิด ไม่ต้องบอกก็รู้นะครับว่าไอ้ขี้เกียจๆอย่างผมเนี่ย ไม่ขนไปแน่นอน

นี่ก็สนามบินกับเจ้าจำปีของเรา ไม่มีอะไรมาก คงเคยเห็นกันทุกคน เดินตามกันมาดีๆ อย่าหลงล่ะ ถ้าหลงก็ไปเจอกันที่ประตู 68 เลยนะ อะ อะ รู้ได้ไง แหม ไปบ่อยจำได้ซิ

เอกเขนกสักหน่อย แล้วก็เช็คเมล์ก่อนขึ้นเครื่อง อุตส่าห์ถือบัตรทอง ROP กินให้คุ้ม พุงแตกก็ไม่เป็นไร (ปรัชญาชูชก)

หนังสือมือสองล๊อตใหม่มาแล้ว สนใจคลิ๊กลิงค์ข้างล่างเลยครับ

https://raka.is/r/PP61Q

ขึ้นเครื่อง

นี่ครับ ลำนี้แหละ …

ก่อนเครื่องขึ้นไป Rig Tour ก็อย่าลืมนี่ครับ คู่มือความปลอดภัย อ่านซะหน่อย ผมบินมาเป็นร้อยเที่ยว ก็ยังอ่าน ชะโงกดูซ้ายขวาหน้าหลัง เล็งดูทางออกฉุกเฉิน ดูว่าประตูฉุกเฉินไหนเป็นทางเลือกแรก ทางไหนทางเลือกที่สอง จากตรงที่เรานั่งนับเก้าอี้ไปอีกกี่ตัวจึงจะถึง

ลองหลับตาซ้อมดูในใจก็ได้ว่า ถ้าไฟดับหรือมีควันหนาๆแล้วคุณมองไม่เห็นและคุณต้องเดินออกไปยังประตูฉุกเฉินที่คุณหมายตาไว้ ต้องคว้า(อะไร) ต้องจับ(อะไร) ต้องนับผนักเก้าอี้ไปกี่ตัว แล้วประตูฉุกเฉินจะอยู่ด้านไหน ซ้ายหรือขวา ส่วนเปิดมันยังไงก็ดูในคู่มือนั่นแหละ ใช้ดึง ดัน งัด กด กระแทก กระทุ้งยังไง ก็นึกๆไว้ล่วงหน้าซะ ใครนั่งอยู่ติดประตูฉุกเฉิน เด็ก คนแก่ คนเจ็บ(ไม่นับพวกอกหัก) คนพิการ หรือ คนอ้วน หรือเปล่า

ปรกติแอร์ฯหรือเคาเตอร์เช็คอินเขาจะเป็นธุระเรื่องนี้ให้อยู่แล้ว แต่เชื่อไหมครับ ผมเห็นอยู่บ่อยๆที่คนนั่งติดประตูฉุกเฉิน ดูดู๊ดูยังไงก็ไม่น่าจะเปิดได้เองได้ ถ้าเจอแบบนี้สะกิดแอร์ฯ

ไม่ใช่ซิ สะกิดชี้ให้ดู เธอก็จะรู้หน้าที่เธอดี ถ้าสะกิดแล้วเธอยังทำหน้างง จดชื่อฟ้องหัวหน้าเธอเลย เลย แหม ไม่โหดขนาดนั้น … ก็อธิบายให้เธอฟังให้เธอไปช่วยเปลี่ยนที่นั่งให้ซะ

รัดเข็มขัดกันให้ดีๆนะครับ เครื่องกำลังจอขึ้นแล้ว ป้าๆยายๆ (อิอิ มีมาทัวร์นี้ด้วยอะเปล่า) ยาหอม ยาลม ยาดม ยาหม่อง มีนะครับ ใครไม่ไหวอย่ามัวฟอร์ม ถุงใส่อ้วก (sick bag) อยู่ในช่องเก็บของข้างหน้านะครับ เอ้า คลิ๊กเลย จะได้ขึ้นบินพร้อมๆกัน

ไหงครับ วิวเหนือกรุงเทพแถวๆดอนเมือง บ้านใครอยู่แถวนี้ก็โบกมือทักทายเพื่อนบ้านข้างล่างกันได้นะครับ นั่นไง แม่น้ำเจ้าพระยาของเฮา คดเป็นงูเลย

แล้วเราก็ขึ้นมาอยู่เหนือเมฆ นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่า มาเหนือเมฆ คลิ๊กเลยครับ จะได้ตกหลุมอากาศไปด้วยกัน โยกเยกดี

จะลงแล้วนะครับ ถ้ามองออกไปข้างนอกตอนนี้ก็จะเป็นทัศนียภาพของจังหวัดสงขลานะครับ ใครจำคำขวัญเมืองสงขลาได้ครับ … จำได้บอกถูกมีรางวัลนะ

…. เอาล่ะใครปลดเข็มขัดเพราะพุงป่อง เอ๊ย ปลดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ ก็คาดซะนะครับ อย่าลืมรูดซิปด้วย เปิดม่านหน้าต่าง ปรับผนักเก้าอี้ให้ตั้งตรง เรากำลังจะนำเครื่องลงสู่ท่าอากาศยานหาดใหญ่

Landing

โห … ปั๊กๆๆๆๆ เอี๊ยด …. ยางล้อไหม้ ควันขึ้น หอมฉุยเลย … กัปปิตันเอาเครื่องลงได้นิ่มจัง กระแทกซะ

อะ อะ ไปเอากระเป๋าก่อน อยู่ไหนน้าาา ทำไมช้าจัง เอ้า นั่นไงมาแล้ว นี่ๆ อย่ายืนดูเฉยๆซิ ไปเอารถเข็นมา ไม่ต้องหันหน้าหันหลังไปมองใคร เรานั่นแหละ ที่กำลังอมยิ้มอยู่หน้าจอนั่นแหละ ไปเอามาเร็วๆ ช่วยๆกันทำมาหากินหน่อย ไหนๆก็มาด้วยกันแล้ว ยกให้ด้วย แล้วเข็นตามมา …. ฮิฮิ

เรามาถึงสนามบินมีก็คนชูป้ายด่า เอ๊ย ป้ายรับ จะไม่ค่อยเขียนชื่อกันนะ เอาโลโก้บริษัทชูๆไว้ ก็รู้กัน เห็นป่ะๆ นั่งไงบริษัทฯผม ที่เห็นลิบๆนะ แหม พี่นี่ชอบเล่นซ่อนหากันจัง

มีราชรถ(ตู้)ของแต่ล่ะบริษัทฯมาต้อนลูกหมู เอ๊ยไม่ใช่ซิ ขนพวกเราที่จะมาไฟล์ทเดียวกันไปเข้าโรงแรมขาประจำ 2-3 แห่ง

ถุงขยะยังชีพ

เดี๋ยวๆ มีถุงขยะกันหรือยัง แบบในรูปนี้น่ะ ลืมบอกให้พกมาจากบ้าน แบบใช้แล้วไม่ต้องเอามานะ ถ้ายังไม่เอามาหรือลืม เราแวะซื้อระหว่างทางไปโรงแรมก็ได้ … นั่นมีแม่น้องอะไรน่ะ จะถามล่ะซิว่าเอาไปทำไม บนนั้นไม่มีถังขยะหรือไง ติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ แล้วจะรู้เอง อิอิ … มีวางสนุ๊กด้วย

โรงแรมก็โรงแรมเดิมๆที่พวกเราจำกันได้เกือบทุกอย่าง คือ ส่วนมากโรงแรมพวกนี้ผูกปิ่นโตกับแต่ล่ะบริษัทฯกันมานานนม

ทุกๆวันตอนบ่ายๆ แต่ล่ะฐานที่อยู่นอกชายฝั่งที่ต้องใช้บริการฮ. จะส่งรายชื่อผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางกลับและเดินทางไปให้กับฐานฮ.ชายฝั่งที่เราเช่าของทหารเรืออยู่ที่สงขลา แล้วคนของแต่ล่ะบริษัทฯที่ฐานฮ.ก็จะปู้ยี่ปู้ยำรายชื่อเหล่านั้นกับเส้นทางบินออกมาเป็นตารางบินว่าใครจะอยู่ลำไหน บินออกกี่โมง แวะจอดซื้อ ส้มตำ ข้าวเหนียวไก่ย่าง ไม่ใช่ซิ แวะเติมน้ำมันที่ไหนบ้าง

ดังนั้นเราจะไม่รู้ล่วงหน้าเลยว่าเราจะอยู่ฮ.ลำไหน ฮ.ออกกี่โมงจนกว่าจะเย็นมากๆแล้วของแต่ล่ะวัน ฐานฮ.จะแฟกซ์ตารางบินของวันถัดไปมาที่บรรดาโรงแรมเจ้าประจำของพวกเรา

โรงแรมก็จะแปะไว้ที่ล๊อบบี้ ดังนั้นเราจึงต้องเดินทางล่วงหน้า 1 วันเสมอ ส่วนมากฮ.จะออกเที่ยวแรกสุด 6 โมงนิดๆ เที่ยวสุดท้าย บ่ายหนึ่งก่าๆ มีทั้งหมดราวๆ 6-7 เที่ยว ต่อวัน นี่แค่บริษัทฯน้ำมันเดียวนะครับ ที่นี่มีหลายบริษัทน้ำมัน กากี่นั้ง คงกังเองท้างน้าง เดินสวนกันก็ฝาก resume’ ส่งให้ HR กัน ฮ่าๆ

นี่คือเหตุผลที่ผมต้องมาโอ้ลัลล้าหน้าชื่นตาบานพุงปลิ้นที่สงขลา 1 คืน ฆ่าเวลาด้วยการนัดเพื่อนฝูงหรือลูกน้องเก่าๆ มาสรวนเสเฮฮาแบบไร้แอลกอฮอล์

เพราะก่อนขึ้นฮ.พรุ่งนี้ต้องเป่าปี่ เอ๊ย เป่าเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์เขาก็ไม่ให้ขึ้น กลับไปนอนเกาสะดือโบ๋ที่โรงแรมให้ส่าเหล้ามันจางก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาเป่าปี่กันใหม่ เอ … ว่าแต่คืนนี้จะชวนกันไปเกาหลังแบบไร้แอลกอฮอล์ที่ไหนดี 🙂 เอางบค่าแอลกอฮอล์ไปเกาหลังดีก่า อิอิ

ผมแอบถ่ายของจริงมาไม่สำเร็จ เอารูปนี้ไปดูก็แล้วกันครับ หน้าตามันประมาณนี้ครับ

โชคดีที่ผมได้ไฟล์ทออกสายๆ ไม่ต้องถ่อสังขารตื่นแต่เช้า ไชโย คืนนี้จะนอนแล้วตื่นสายๆให้สะดือโบ๋บานฉ่ำไปเลย เพราะโรงแรมกับฐานฮ.ห่างกันแค่ไม่ถึง 10 นาที ราชรถตู้เรารู้หน้าที่ เดี๋ยวพรุ่งนี้สายๆก็มารอต้อนขึ้นรถที่ล๊อบบี้

ตื่นๆ ออกกันได้แล้วครับ เร็วๆเดี๋ยวตกเครื่อง … นี่ไงครับ ฮ.เราจอดอยู่นี่ ดูแต่ข้างหน้าประตูไปก่อนล่ะกัน เนื่องด้วยเป็น “เขตทหาร(ห้ามถ่ายรป)” ผมจึงถ่ายรูปภายในไม่ได้ แต่ก็จะเอารูปในเน็ทมาประกอบเพื่อไม่ให้เสียความต่อเนื่อง โดยทั่วไปฮ.มันก็มีหลายประเภทหลายยี่ห้อหลายรุ่น แล้วแต่ว่าบริษัทฯน้ำมันแต่ล่ะที่จะเปิดประมูลกันมา ส่วนจะโปร่งใสแจ๋วแหว๋วขนาดไหนก็ไปว่ากันที่ศาล พ้มม่ายเกี่ยวววว

ก่อนขึ้น ฮ.

ในฐานฮ.ก็มีการตรวจอาวุธ เอ๊กซเรย์กระเป๋า อย่างที่ว่าไปแล้ว คล้ายๆก่อนเราจะขึ้นเครื่องบินนั่นแหละ (แม่อีหนูบอกว่า ผมไม่น่าเอาปากผ่านเครื่องตรวจอาวุธขึ้นฮ.ไปได้ เพราะว่ามันเป็น “ของมีคม”) มีเพิ่มจากที่เราขึ้นสายการบินพานิชย์ตรงที่ ต้องเป่าปี่ (เครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์) และ เขาจะให้เราดูวีดีโอเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางด้วยฮ.

ซึ่งจะคล้ายๆกับวีดีโอที่เราดูบนเครื่องบินพานิชย์แต่จะแตกต่างในรายระเอียดนิดหน่อย โดยเฉพาะเรื่องทางหนีทีไล่ การใช้แพชูชีพ แล้วก็อุปกรณ์ฉุกเฉินอีก 2-3 อย่าง ที่จะละเอียดกว่าที่เราเคยดูๆกันบนสายการบินพานิชย์ และไม่ว่าคุณจะเดินทางด้วยฮ.มาแล้วกี่ร้อยเที่ยวคุณก็ต้องนั่งดูมันจนจบ ส่วนจะหลับจะกรนหรือจะนั่งถอนขนจมูกรอให้มันจบนั่นเป็นอีกเรื่องนึง

นี่ไงครับห้องดูวีดีโอความปลอดภัย

(วีดีโอ 5 นาทีผ่านไป …อย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันได้กรนเลย)

อย่างไรก็ตาม พวกเราทุกคนต้องผ่านหลักสูตร การยังชีพในทะเล และ การหนีออกจากฮ.ใต้น้ำ (Sea survival and Helicopper Under water Escape Training – HUET) กันมาแล้วทุกคนก่อนที่จะได้รับอนุญาติให้เดินทางด้วยฮ.ออกไปนอกชายฝั่ง มันเป็นกฏครับ วันหลังถ้าว่างจะมาเล่าให้ฟังว่าหลักสูตรที่ว่านี่สนุกแค่ไหน ดูรูปข้างล่างไปพลางๆก่อน

มาเฉลยเรื่องถุงขยะกันดีกว่า เราก็เอาไว้เวลาเครื่องตก แล้วดวงเรา (เจือก) ดี ยังรอดมาพงาบๆลอยตุ๊บป่องๆ แต่(เจือก)จวย … แพยางฉุกเฉินที่มันควรจะเด้งดึ้งๆ ออกมาก็ดันไม่เด้งดึ้ง … หรือเด้งออกมาแต่ดันเป็นที่รังเกียจของเพื่อนร่วมชะตากรรมไม่ให้ตะกายขึ้นแพ แล้วบังเอิญอีกเสื้อชูชีพที่ติดคอก่อนขึ้นฮ.มีปัญหาดันไม่พองตู้มๆ

อ้าว ลืมไปเลยจะพูดถึง ไอ้คุณถุงขยะนี่นา ก็เอามาครอบอากาศแล้วขมวดปากให้แน่นๆ เอ๊ะ ถามอะไรนะ อ๋อ … เออๆ เอาเข้าไปผมหมายถึงปากถุง ไม่ใช่ขมวดปากคุณ ถามมาด้ายยยย เสร็จแล้วก็หนีบเอาไว้ที่หว่างขา นั่งทับมัยเลย มันจะเหมือนทุ่นให้เราขี่ลอยได้

พวกเราที่ผ่านหลักสูตรการยังชีพในทะเลเคยได้ทำทุกคน แต่ทำได้หรือเปล่าเป็นอีกเรื่องนึง เพราะมันก็ไม่ง่าย มันจะกลิ้งตกลงมาทุกที แต่ถ้าหมดหนทางกอดเอาไว้เฉยๆก็อุ่นใจดี ไม่ต้องเหนื่อยกระพือจั๊กแร้พับๆ

ถึงมันจะช่วยได้ไม่นานแต่ก็นานพอให้เราได้ตั้งสติหาจุดปลอดภัยและถนอมแรงอันมีค่า ข้อดีอีกอย่างของมันก็คือมันเบา เล็ก พกพาง่าย ราคาถูก จะมีอะไรสุดยอดไปกว่านี้แล้ว ในยามฉุกเฉินมันจะเหมือนของที่ประทานมาจากฟ้าเลย

ถึงจะมีโอกาสเกิดเหตุการณ์แบบนี้น้อยมากๆ แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว คนที่เตรียมพร้อมกว่าเท่านั้นที่จะไม่ต้องได้กล่องขนาดเท่าตัวเป็นของแถมติดไม้ติดมือกลับบ้าน

เอ้า … ใส่ที่ครอบหู คล้องเสื้อชูชีพ แล้วไปฟังนักบินสรุปการเดินทาง การใช้เครื่องมือฉุกเฉิน ตำแหน่งปลดการทำงานแพฉุกเฉินอีกรอบที่ตัวเครื่องแล้วก็ปีนขึ้นเครื่องได้เลย จริงๆแล้วนักบินจะเป็นคนจัดการแหละในกรณีที่ฉุกเฉิน แต่ก็เผื่อเอาไว้ถ้านักบินเกิดม่อยกระรอกไปซะก่อน … นี่ๆแม่คนนั้นนะ ไม่รู้หรือไงว่าไม่ให้ใส่ส้นสูงมา ไปแท่นขุดฯนะไม่ใช่ไปประกวดนางงาม .. เฮ้อ … มาๆเดินตามๆกันมาขึ้นเครื่อง …

ผับ ผับ ผับ … ชมวิวทะเลกับเมฆมาราวๆชั่วโมงนิดๆ เราก็มาถึงแล้ว … “แท่นปฏิบัติการขุดเจาะนอกชายฝั่ง” ซึ่งผมไม่ขอเปิดเผยว่าชื่ออะไร

เริ่ม Rig Tour จริงๆเสียที

ถึงแย้วววววววววววว

จะลงจอดแล้วนะครับ แหม แป้นให้ลงจอดเล็กนิดเดียว พลาดไปทำไงเนี่ย ยังไม่ได้เปียแชร์เลย … (คลิ๊กดูซิครับว่านักบินเขาเอาเครื่องลงยังไง)

เดินลงมาดีๆนะครับ เอาที่ครอบหูกับเสื้อชูชีพติดมาด้วยนะครับ เดี๋ยวเอาไปให้กับคนที่จะขึ้นเครื่องกลับฝั่ง พวกนั้นเขานั่งรอยิ้มระรื่นอยู่ในห้องบรรยายสรุป (Briefing room) แล้ว ซึ่งเดี๋ยวเราก็ต้องเข้าไปดูวีดีโอความปลอดภัยอีกเที่ยวในห้องเดียวกันนั่นแหละ บันไดมันวกไปวนใหน่อยนะครับ จับราวให้ดีๆ

ห้องแรกที่เราต้องมารวมกันเรียกว่าห้องบรรยายสรุป (Briefing room) ก็เรื่องเดิมๆ ใครจะมารอบที่ร้อยเที่ยวที่พันก็ต้องเข้าฟัง เรื่องความปลอดภัยครับ จะมีคนมาบรรยายสรุป และเปิดวีดีโอให้ดูว่า แท่นนี้ระบบความปลอดภัยต่างๆเป็นไง ไฟสัญญาณสีอะไรแปลว่าอะไร เสียงสัญญานดังอย่างไรแปลว่าอะไร ไม่ใช่สัญญาณไฟไหม้ดัง ดันนึกว่าเขาจะสละแท่นกัน ปุเลงๆหาจุดเหมาะๆพุงหลาวลงทะเล อะไรแบบนี้

เขาก็จะบอกด้วยว่าคุณอยู่เรือชูชีพ (Life boat) ลำไหน ไม่ใช่ตูจะลงลำไหนก็ได้ ถ้าเรือชูชีพมันพยศไม่ทำงานเพราะประท้วงอยากได้การเมืองใหม่ เอ๊ยไม่ใช่ เพราะมันเสีย แพชูชีพ (Life raft) ตรงไหนที่จะเป็นแผนสองของคุณ ปลดแพยังไง (ไม่ใช่ไปถึงแล้วมองแพตาปริบๆเป็นหมาเห็นปลากระเป๋อง) เสื้อชูชีพ (Life Jacket) ใช้มันยังไง (มันมีหลายยี่ห้อหลายรุ่นเหลือเกิน) ไม่ใช่แห่เฮโลสาระพากันไปเหมือนไททานิคตอนกำลังล่ม

นี่ครับบรรยากาศภายในห้องบรรยายสรุป ใช้วีดีโอบรรยาย ไม่มีคนเป็นๆมาบรรยายนะครับ

ถ้าที่แท่นกำลังทำงานที่มีความเสี่ยงที่จะมีก๊าซกำมะถัน (H2S – ก๊าซไข่เน่า) ปุดๆขึ้นมา ก็จะมีการสาธิตวิธีใช้หน้ากากกันก๊าซ

ทำเป็นเล่นไป เคยมีรายงานมาแล้วนะครับว่า ม่องกระเด่วๆในมือยังกำหน้ากากกันก๊าซ ทั้งๆที่หน้ากากใหม่เอี่ยมใช้งานได้ดี ก็เพราะอีใช้ไม่เป็นนี่แหละ แล้วก็อีกสารพัด ใช้เวลาราวๆ 20-30 นาที

แล้วก็จะพาเดินไปดูว่าไอ้ที่บอกๆในห้องตะกี้น่ะ ของจริงน่ะมันอยู่ตรงไหน ไม่ใช่เพราะของต่างๆมันเดินเล่นเปลี่ยนที่ได้หรอกนะครับ ของมันก็ยังอยู่ที่เดิมนั่นแหละ แต่เพื่อกระกระตุ้นความทรงจำหลังจากคุณขึ้นไปโอ้ลัลล้าบนฝั่งมาหลายสัปดาห์

ทำเป็นเล่นไป ถ้ามีเสียงดังหวอดังๆ แล้วก็มืดๆ ควันเยอะๆ ขึ้นมา คุณพึ่งสายตาพึ่งหูคนแทบไม่ได้เลยนะครับ คุณพึ่งได้อย่างเดียวคือ “สติ ความทรงจำ และ สัญชาติญาณ” ซึ่งคุณจะไม่มีเลยถ้าขาด “การฝึกอบรมและทบทวน” อย่างสม่ำเสมอ นี่คือเบื้องหลังการถ่ายทำที่เขาต้องพาคุณเดินดูอีกรอบ แม้ว่าคุณจะเคยมาที่นี่แล้วหลายครั้งก็ตาม

ฟังบรรยายเสร็จแล้ว (จริงๆดูวีดีโอนั่นแหละ) ไปดูจุดต่างๆเสร็จแล้ว ก็เดินตามมากันเลยครับ ตามกันมาให้ติดๆนะครับ ในนี้มันซอกแซก เดี๋ยวหลง เราเอาของไปเก็บกันที่ห้องนอนกันก่อนเนอะ …

นี่ครับห้องนอน มาถึงแล้ว …

บ้างก็ห้องล่ะ 2 เตียง บ้างก็ห้องล่ะ 4 เตียง ห้องล่ะ 1 เตียงมีไม่กี่ห้อง หนึ่งในนั้นเป็นของวิศวกรหญ่ายยย และที่เหลืออีกห้องสงวนไว้ให้กับคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ไม่ใช่ซิ หมายถึง แขกวีไอพี ที่จะมาเยี่ยมแท่นเป็นพักๆ (แน่นอนว่าช่วงนั้นเป็นฤดูที่เราปลูกผักชีกัน)

ใครอยู่ห้องไหนขึ้นกับชั้นไขมันรอบเอว เอ๊ย ขึ้นกับขั้นพนักงาน อย่างกระผมก็ 2 เตียง แต่เที่ยวนี้ไม่มีคนอยู่ด้วยก็เลยถือว่าเป็นของตูทั้งห้อง มีหลอดไฟให้อ่านหนังสือ มีปลั๊กไฟหัวเตียงเผื่อจะใช้เครื่องไฟฟ้าตอนนอน (เครื่องอะไรหว่า สมัยนี้ก็ใช้แบตเตอรรี่กันหมดแล้ว)

นี่ไงครับห้องนอนของเราบนแท่นฯ ….

อุ้ย .. ผิดๆ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าเราอยู่สบาย จริงๆต้องรูปนี้ อิอิ

แล้วที่ขาดไม่ได้คือห้องน้ำ นี่ไงครับ

อ้าว … ผิดอีก ต้องห้องนี้ เบสิกๆ ไม่มีอะไรหรูหรา มีน้ำอุ่นมีไฟ 24 ชม.

นี่ครับ โต๊ะทำงาน

แหม … เอาที่ไหนมาเนี่ย จะสบายมากไปล่ะมัง … ของจริงต้องอันนี้ ข้างหลังมีที่ให้ต่ออินเตอร์เน็ทด้วย แท่นนี้มีแต่ปลั๊ก ยังไม่เดินสาย มีทีวีด้วย ส่วนจะช่องอะไรนั้นต้องไปติดสินบนพนักงานวิทยุ คือเขาจะเลือกตั้งได้ว่าจะให้เป็นช่องอะไร มีราวๆ 8 ช่อง ทั้งไทยทั้งฝรั่ง เชื่อไหม เห็นพวกเราบนนี้ ดิบๆเถื่อนๆอย่างนี้นะ ติดละครตบจูบกันงอมแงม ฮ่าๆ สงสัยดูแล้วคิดว่าตัวเองเป็น เคน ธีรเดช … แหวะ

เก็บของเสร็จแล้ว ก่อนออกจากห้องก็ตรวจตราดูเรื่องความปลอดภัยสักนิดนะครับ ไปแกะเสื้อชูชีพที่อยู่ในถุงเขียวๆข้างบนดูซิว่า ใช้งานได้ดีไหม แล้วก็ทบทวนวิธีสวมใส่ซะหน่อย เขาอุตส่าห์มีติดไว้ให้ดูที่ด้านหลังประตูของทุกห้อง เห็นง่ายๆอย่างนี้ พอมืดๆ ควันไล่หลังมา หรือ แท่นโยกๆ พาลจะใส่ผิดใส่ถูกเอาง่ายๆ ทางที่ดี อย่าขี้เกียจ แกะออกมาลองใส่ซะหน่อย …

ออกมาข้างนอกกัน ดูซิว่ามีอะไรกันบ้าง … เดินตามกันมาดีๆนะ

นี่ก็ห้องดูดบุหรี ของบรรดาสิงห์อมควัน ไม่ต้องบอกก็รู้นะว่าทำไม ขนาดในปั๊มน้ำมันยังไม่ให้สูบบุหรี่เลย นี่บ่อน้ำมันนะย่ะ ไม่ใช่กระเป๋งน้ำมันสองลิตรครึ่ง

ปวดฉี่จัง แวะเข้าห้องน้ำคนงานแถวนี้ก่อน ขี้เกียจปีนกลับขึ้นไปข้างบน อะจ๊าก .. โอเคๆ ไม่แม่นๆ … ขยับเข้าไปอีกก็ได้

หมดทุกข์ ตัวเบาแล้ว ไปก่อนต่อ … ตามมานะ

มาต่อ … เดินตามกันมาดีๆนะครับ ทางมันแคบ ถ้าใครกลัวความสูงมองตรงไว้นะครับ อย่าก้มลงไปดู เดี๋ยวขาสั่นพับๆ

มาเป็นทัวร์แบบนี้นึกถึงมีคนแซวทัวร์พี่ไทยว่า “นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นแ_ก แยกเป็นหลง ลงเป็นซื้อ … ” ฮ่าๆ งั้นหมู่เฮาอย่าแยกกันเด้อ เดี๋ยวหลง

… จับราวดีๆนะครับ มันชัน

อ้าว … ใครก็ได้ไปปลุกทีซิ มานอนทำอะไรอยู่ล่ะนี่ ฮึ … ตื่นๆ ….

แล้วนี่อะไรเนี่ย อ้อ เขาเรียกว่า Flare Boom หรือ Burner คือเอาไว้เผาก๊าซหรือน้ำมันทิ้งตอนที่ ทดสอบปริมาณการผลิตเบื้องต้นของหลุม (Well testing)

เห็นๆแบบนี้ดูไม่มีพิษสง ต้องมาดูตอนมันเผาซิ แล้วจะหนาว เสียงจะดังมาก

เห็นแล้วน่าเอากุ้งหอยปูปลามาตั้งตะแกรงเผาเนอะ

รูปข้างล่างนี้ไม่เกี่ยวกับทัวร์เรา แต่เห็นว่าสวยดีเลยเอามาฝาก ผมถ่ายไว้ตอนไปทำงานที่ทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโด ที่ญี่ปุ่นนะครับ หนาวชมัดเลย ไว้จะมาเล่าให้ฟังวันหลังว่าผจญภัยเที่ยวนั้นยังไงบ้าง ขนไก่ไทยไปหลายตัว ปล่อยหมดเล้าเลย (ป่านนี้ผสมกับพันธุ์พื้นบ้านพี่ยุ่นไปเรียบโร้ยโรงเรียนพี่ไทย ฮ่าๆ)

อ้าว เดินทัวร์กันยังไงเนี่ย เดินไปเดินมาถึงเย็นเลยเหรอ … อิอิ …
งั้นเรามาเดินออกกำลังกาย ชมตอนพระอาทิตย์ตกกัน …
พระอาทิตย์ตกไปได้สักพักแล้ว
… เนอะๆ บรรยากาศน่าคิดถึงบ้าน

นี่ครับ อุปกรณ์แก้เหงา … หรือจะทำให้เหงามากขึ้นก็ไม่รู้

ตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะถ่ายรูปพระอาทิตย์กำลังตกเป็นช่วงๆ … พอดีงานยุ่งไปหน่อย โผล่ออกมาก็ได้แค่นี้แหละ เอาไงมากเนอะกับทัวร์ป๊องฉี่ๆ … เอ้า … แต่ก็สวยไปอีกแบบนึงนะ

จะมืดแล้วนะ

มืดลงอีก

เฮ้อ …. เงียบจังเลย

คงมองไม่เห็นอะไรแล้วล่ะ .. เข้าไปข้างในกันดีกว่า

เอ๊ะ เดี๋ยวมีเรือมาเทียบนี้นา ไปดูซิว่ามีอะไรมาส่ง นี่ครับ เราเรียกว่า Supply boat ส่งกำลังบำรุง สารพัดล่ะครับ อาหารต่างๆก็ส่งมาในนี้ด้วย มีตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นตู้เย็นในตัวด้วย ที่เห็นเป็นท่อยาวๆนั่นเอาไว้ต่อลงไปในหลุมกันดินพังลงมากลบหลุม เรียกว่า casing

ข้างนอกคงมืดแล้วล่ะ ไม่เห็นอะไรเท่าไร เราจะเข้าไปในตัวที่พักกัน ไปดูห้องอินเตอร์เน็ท สำหรับพนักงานที่ไม่มีโน้ตบุ๊คมาด้วย

ห้องอินเตอร์เน็ทรวม ไว้สำหรับพนักงานทั่วๆไปที่ไม่มีโน้ตบุ้คไม่มีคอมฯใช้ จะได้มาส่งอีเมล์ chat คุยกับครอบครัว คุยกับกิ๊ก เต้นโชว์เว็บแคม สมัครงานใหม่ อัพเดท resume’ (อิอิ) หรือ ส่งรายงานกลับบริษัทต้นสังกัดตัวเอง แม้กระทั่งจะดูซีดีก็มีให้ยืม คือยืมๆกันเองน่ะครับ

ที่ฮิตสุดๆตอนนี้ก็ซิทคอม “เป็นต่อ” ผมล่ะติดงอมแงม ถ้าไม่ติดว่าต้องมาพาพวกคุณทัวร์ป่านนี้ผมเอาโน้ตบุ๊คหนีบจั๊กแร้ไปกลิ้งๆ นอนดู (น้องพอใจ … น่าร้ากกกที่ซูดดดด) ในห้องผมแล้ว ส่วนถ้าใครจะโทรศัพท์ก็ต้องไปที่ห้องวิทยุ พนักงานบางส่วนบางระดับ ก็จะมี wifi กับ โทรศัพท์ให้ที่ห้องทำงาน

มาเดินไปดูห้องต่อไป

แล้วนี่ก็ห้องทำงาน จริงๆ ไม่ใช่ของผมหรอก ของหัวหน้าผม ผมเป็นแค่ผู้ช่วยตัวเล็กๆ(แต่พุงใหญ่ายยยย) มาขออาศัยนั่งทำงานด้วย พื้นที่บนนี้มันจำกัด ไม่มีใครมีห้องส่วนตัวกันหรอกครับ แบ่งๆกันไป

ห้องที่ผมทำงานตอนกลางคืน ห้องเดียวกันแหละ ถ่ายมาอีกมุมนึง

แล้วนี่ครับ เราก็มาถึงห้องสำคัญที่สุดห้องหนึ่งบนแท่น เราจะใช้เวลาที่ห้องนี้นานหน่อย สำหรับพี่ไทย(ที่องค์เอวอวบระยะสุดท้ายอย่างผม) เรื่องกินเรื่องใหญ่ครับ

ใช่แล้วครับ ห้องนี้ที่เราเรียกว่า Gally หรือ Canteen ก็ห้องกินข้าวนั่นแหละ เนื่องจากคนมาก เราจะต้องมีกฏกติกามารยาท มีเวลาเปิดปิดในแต่ละรอบ เรามีมื้อหลัก 4 มื้อ กับมื้อว่างอีก 4 ตะบี้ตะบันกินกันเข้าไป

เมนู … โอ้วแม่เจ้าาาาาาา (อุทานลากหางเสียงยาวววว แบบโน้ต อุดมฯ จะได้ความรู้สึกมากขึ้น) .. เห็นดูเมนูบ้านๆ โลๆ อย่างนี้น่ะ ฝีมือพ่อครัว(เดี๋ยวนี้มีแม่ครัวด้วย)ที่นี่ระดับพระกาฬเลยนะ สุดยอดๆ

… คนบนนี้เป็นคนท้องที่เสียเยอะ จึงมักมีเมนูเอาใจคนใต้อยู่บ่อยๆ ทำให้ผมรู้จักอาหารใต้มากขึ้นหลายเมนู และเนื่องจากมีฝรั่งซึ่งไม่ถูกปากอาหารไทยและไทยที่ไม่คุ้นกับอาหารฝรั่ง จึงมีเมนนูสองชุด เบื่อไทยกินฝรั่ง เบื่อฝรั่งกินไทย วนๆอย่างนี้สัก 2 อาทิตย์ผมก็กลับไปกินลาวที่ฝั่งแย้ววววววว ….

เครื่องชงดื่มร้อนเย็น ของว่างพวกคุ๊กกี้ คอนเฟรก น้ำอัดลม เค้ก น้ำผลไม้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2-3 ยี่ห้อ ของพวกนี้จะมี 24 ชม. เดินเข้ามาโซ้ยได้ตามอัธยาศัย ฟรีครับ ไม่ต้องสงสัยที่ถ้าคุณผู้ชายกลับจากที่นี่ไปแล้วจะพ่วงพีพอๆกับเจ้าหมูน้อย

อีกอย่างที่ทำให้เรากินกันอย่างลืมรอบเอวคือ พวกเราใส่ชุดหมีไงครับ มันไม่มีเข็มขัด ไม่มีขอบกุงเกง ที่จะจำกัดการขยายตัวของพุงกะทิ กินเข้าไปเท่าไรมันก็ไม่อึดอัด พุงมันเลยป่องเอาๆ จนบางทีกลับบ้านแม่อีหนูถามว่า ไปท้องกับใครมา รับมาซะดีๆ ว่าใครเป็นพ่อเด็กในท้อง (ฮ่า)

Follow me Please ………

ตามผมออกมาจากห้องอาหารก่อน เดินไปเรื่อยๆ ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนเลย เดี๋ยวถึงตรงไหนก็จะฝอยตรงนั้นก็แล้วกัน

ผมว่าเราจบวันนี้ไว้แค่นี้ดีกว่า เหนื่อยแล้ว … ใครจำเบอร์ห้องของเราได้มั่ง ที่เราเอาของไปเก็บตอนออกจากห้องบรรยายสรุปน่ะ

นี่ไงเจอแล้ว 212
ไม่อาบน้ำล่ะ นอนดีก่า
อืมมมม (บิดขี้เกียจ) ตื่นๆไปแปรงฟัน แล้วไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน รับประกันซ่อมฟรี
ว่าสวยมั๊กๆ …

นี่ไงๆ

เอ๊ะ ได้ยินเสียงอะไรดัง… อ๋อ เขาประกาศว่าจะมี ฮ. มาลงอีกลำนึง ไปรับเพื่อนๆกันหน่อยดีกกว่าเนอะ

อ้าว มาเร็วไปหน่อยลานยังว่าง …

ลานจอด ฮ. บนแท่น (เราเรียกว่า Heli-Deck) เป็นไงครับ อ้างว้างดีไหม มันจะดูน่าเกลียดน่าชังมาก ตอนเรามองลงมาจากฮ.ที่กำลังลงจอด (ในวันที่เรามาถึง) แต่ลานเดียวกันนี่แหละ มันจะดูน่ารักและสวยงามมาก (ในวันที่เราได้ “กลับบ้าน”)

นั่นไงๆ มาแล้ว

ไปแวะรับกันหน่อย เฮ้ย เป็นไงมั่ง .. ฮาวดูยูดู ยูไม่ดูเดี๋ยวไอดูเอง ว่าแต่ยูมีอะไรให้ดู … (ฝรั่งงง)

ดูรูปแล้วต้องฟังเสียงด้วย จะได้มีอารมรณ์ร่วม

เครื่องไปแล้ว …

ตกเย็น หรือ ตอนเช้าๆ จะมีคนมาเดินออกกำลัง นั่งชมวิว (เก่าๆที่ดูไม่รู้เบื่อ) มันเป็นที่เดียวบนแท่นที่เราจะทอดสายตาออกไปได้ไกลๆ รอบๆทุกทิศทาง ผมไปมา 7 ทวีป 5 มหาสมุทร

ผมรู้สึกว่าถ้าผมได้นั่งลงบนลานจอดฮ.นี่ ไม่ว่าที่แท่นไหน ในทะเลไหน ผมมองออกไปก็ภาพฟ้าผืนเดิมๆ ขอบฟ้าเส้นเดิมๆ แต่ผมก็ไม่เบื่อที่จะนั่งมองมัน และไม่เคยตั้งคำถามว่า เอ๊ะ มันจะเป็นขอบฟ้าเส้นที่ต่อจากเส้นที่ฉันเห็นที่บ้านฉันไหมน้าาาา

ป่ะ ไปกันต่อ …

นี่ๆ เวลาเดินไปเดินมานอกส่วนพักอาศัยน่ะ ต้องใส่ของสองสามอย่างที่พวกเราเรียกว่า PPE (Personal Protective Equipment) แปลว่าอะไรดีล่ะ กระแดะใช้ทับศัพท์มาตั้งนาน ไม่คิดว่าต้องแปล อืม … อุปกรณ์ป้องกันส่วนตั๊วส่วนตัว เอ เข้าท่าไหม ใครเป็นนักแปลช่วยหน่อย …

สังเกตุๆแว่นดีๆนะครับ (safety glasses) ไม่ธรรมดานะครับ ทำด้วยพลาสติกอย่างดี ใหญ่หนา ใส่ครอบแว่นไปได้เลย มีปีกกันซึมเปื้อนด้านข้างด้วย ทำให้ไม่ไหลย้อนกลับ เอ๊ย ผมหมายถึงมีขอบยื่นออกมากันสะเก็ดวัสดุกระเด็นเข้าด้วย

รองเท้านั่นไม่ใช่หนังอย่างเดียวนะครับ หัวเสริมเหล็กกล้าเชียว เราเรียกว่า (safety shoes) ถึงบุญหล่นทับหัวแม่เท้าได้เป็นนายกฯก็ไม่เป็นไร กิ๊กๆ หมวกนั่นทำด้วยพลาสติก (Hard hat)แข็งพิเศษแต่เบามากๆ

ผมแอบเอาไปใช้ที่บ้านเวลาทะเลาะกับแม่อีหนู อะไรลอยมาโดนก็ไม่เป็นอะไร และฟองน้ำอุดหู (Ear plug) มีอยู่ในชุดหมี๊หมี (Cover all)แล้ว (คือพอใส่แล้วมันดูเหมือนอ้วนพองๆเหมือนหมีมาก เลยต้องเป็นหมี๊หมี)

เรื่องชุดหมีๆสีต่างๆกันนี่ก็มีประวัตินะ ในสมัยก่อนแต่ล่ะบริษัทฯจะมีสีประจำตัวเอง เดี๋ยวนี้ก็ยังติดมา แต่ก็ไม่ค่อยจะแพร่หลายหนักเพราะเหตุผลเรื่องความปลอดภัย ลองคิดดูซิ ถ้าใส่ชุดสีน้ำตาล สีม่วงล่ะ จะเป็นไงตอนกลางคืน แต่พวกที่สีสว่างๆก็โชคดีไป ได้สีเป็นโลโก้ได้เป็นอย่างดี

พูดถึงสีแล้วคุยให้ฟังต่อว่าหมวกนิรภัยที่ผมฝอยไว้น่ะ ถ้าเป็นเด็กใหม่ของทุกบริษัทส่วนมากพอออกมาบนนี้จะถูกเจ้าที่ คือบริษัทเจ้าของแท่นฯนี่แหละ ให้ใส่สีเขียว เด็กใหม่เราเรียกว่า Trainee ไม่ใช่เอาไว้ประกาศให้รู้ว่ามือใหม่หัดขับและจะแตะก้นหรือจับตูดเล่นได้ หรือแบ่งชนชั้นศักดินาข้าทาสแต่อย่างใด

เป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัยอีกแหละ เพราะจะได้ช่วยดูแลกัน เพราะบนนี้มันมีของอันตรายอยู่เยอะมากๆ พวกมือใหม่หัดทำงานมักจะเอาชิ้นส่วนของร่างกาย(บางที่ก็ทั้งตัวเลยก็มี)ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา ทำให้บาดเจ็บได้ง่ายๆ พูดง่ายๆว่าวอนหาเรื่องนั่นแหละ บางทีก็เข้าขั้นสาหัส ส่วนพวกปกติจะใช้สีแดงหรือสีขาวแล้วแต่จะชอบ เหตุผลก็ง่ายๆอีกแหละ จะได้เอาค้อนขว้างกระบาลได้ชัดๆ เอ๊ย จะได้เห็นได้ง่ายๆตอนกลางคืน

มีคำถามขั้นรายการ Rig Tour … เห็นพ่อหนุ่มรูปหล่อนี้ไหม .. ถือถ้วยมาทำอะไรหว่า … อยากรู้ไหม … ติดตามต่อไปนะครับ (ยั่วกันจางงงงง)

“ในชุดหมีมีอะไร”

มีคนชอบถามผมอย่างนี้นะครับ แหม ไอ้จะตอบว่ามี “ไอ้นั่น” ก็กลัวจะโดนถามต่อว่าไอ้นั่นมันอะไรอีก เฉลยซะเลยดีก่า ในชุดหมีมันจะมีหมู หมา กาไก่ หรือไง ในชุดหมีมันก็ต้องมี “หมี” ซิว่ะ ฮ่วย …

อะอะ ตามรูปข้างล่างน่ะ… ที่พื้นๆไม่ต้องบอกก็รู้ก็พวก ปากกา สมุดโน้ต มีอะไรอีก .. ไฟฉายอันเล็กๆ อุปกรณ์ช่างเอนกประสงค์ หรือ ที่บางคนเรียกรวมๆว่า swiss army knife จริงๆแล้วอันนี้ไม่ใช่ แต่ก็ใกล้เคียง แล้วที่สีส้มๆก็เป็นฟองน้ำใช้อุดหูเวลาต้องเข้าไปทำงานที่ดังๆ ผมเผลอเอาไปใช้ที่บ้านบ่อยๆ เวลาขี้เกียจฟังทั้งยัยตัวใหญ่และยัยตัวเล็ก (ฮ่าๆ) ปรากฏว่าหูปลอดภัยดี แต่หัวโดนไม้กวาดเผ่นกะบาลโทษฐานเพิกเฉย ไม่รับฟัง ฮ่วย !

แท่งขาวๆเล็กๆก็ไม่ใช่ยางลบนะครับ memory stick ดีๆนี่เอง เอาไว้เวลาส่งรับรายงาน มี ถุงมือเอนกประสงค์ (Safety gloves) เพราะบนนี้อะไรๆมันก็เปื้อนไปหมดถ้าออกไปนอกส่วนพักอาศัย

ที่แฟนนานุแฟนชอบถามกันมาคือ ม ึ ง จาพก “หวี” ปายทามมาย แฮ่ๆ ก็ผมมันบางนี่นา พูดง่ายๆว่าหัวล้านนั่นแหละ พอเหงือออกผมเปียกๆ ไอ้ที่มันบางอยู่แล้วก็ยิ่งเกาะตัวกันเป็นแฉกๆ คราวนี้ล่ะชัดเลย เลยต้องมีหวีเอาไว้เกลี่ยๆไอ้ที่มันเกาะๆกันให้มันดูสม่ำเสมอ ฮ่าๆ …

แล้วก็กล้องขนาดเล็กติดตัวเอาไว้ถ่ายรูปอุปกรณ์ต่างๆทำรายงาน

Tally book

จะสังเกตุเห็นว่าสมุดโน้ตเราจะแบนๆยาวๆ เพราะเหมาะกับเอาไว้จดอะไรที่เป็นแถวนอนตรงๆลงมา กับเสียบไว้ที่กระเป๋าหลังที่ก้นชุดหมีได้สะดวก เราเรียกกันว่า tally book คนบนนี้แทบทุกคนมีติดก้น เอ๊ย เหน็บก้นเกือบทุกคน มันสารพัดประโยชน์ จดโน้นจดนี่กันลืม

บ้างก็จดโพยหวย กับรายชื่อเจ้าหนี้โต๊ะบอล จดรายการเปียแชร์ อยากรู้ไหมว่าผมจดอะไรมั่ง นี่ไงเอามาเปิดให้ดูกันจะจะจ๋าจ๊ะๆกันไปเลย นี่ไง

งานนี้นอกจากใช้จดเรื่องงานแล้ว สำหรับทริปนี้ดูดีๆ ยังใช้จดมุกกันลืมด้วยว่าจะเขียนเรื่องอะไรรับใช้พวกเรา

เดินไปเดินมาบนนี้จะสังเกตุเห็นว่า มีป้ายมากมาย

…. นี่ครับ แค่ตัวอย่างสารพัดป้ายบางส่วนบนนี้ ผมว่าน่าจะเรียกว่าเมืองแห่งป้าย เตือนโน้นเตือนนี่ไปหมด ถ้าหยุดอ่านหมดทุกป้ายคงเดินไปไม่ถึงไหน

เอ๊ะ ตะกี้เพื่อนบอกว่าจะมีเรือเข้าเทียบ ออกไปดูกันหน่อยดีไหม … มาตามมาครับ นั่งไง อ้าวแล้วนี่มันอะไร เหมือนไซดักปลา เขาเรียกว่า transfer basket ใครเป็นนักแปลช่วยหน่อย ผมก็ว่าแบบผมๆแหละว่า มันคือตะกร้าขนส่งคน เอาปั่นจั่น (เครนนั่นแหละ Crane) ขนคนจากเรือขึ้นมาบนนี้ ใครที่เคยดูกบนอกกะลาคงจะจำได้ …

ฮั่นแน่ … ยังนึกไม่ออกใช้ไหมว่ามันใช้งานยังไง คนที่เคยดูกบนอกกะลาหนที่แล้วคงจำได้ แต่ถ้าคนไม่เคยดูก็จะเอามาให้ดู ของกบฯนั่นเขามืออาชีพ นี่มือสมัครเล่น มาตามมาดูกันให้ชัดๆกันเลยดีกว่า …

นี่ไงเรือ …. น้ำนิ่งมากเลย มันมีปัจจัยความปลอดภัยอยู่นะ ไม่ใช่ว่าจะตะบี้ตะบันก็จะจับยัดใส่ตระกร้ากันลูกเดียว

เขาต้องดูด้วยว่า คลื่นสูงไม่เกินเท่าไร พัดไปทางไหน ลมเป็นไง พัดเข้าหรือพักออก คนขับปั่นจั่น (เครนนั่นแหละ) เรื่องเมาคงไม่เมา แต่ถ้าแกมีเรื่องอยู่กับพ่อคุณคนที่ต้องห้อยต่องแต่งอยู่นั่นล่ะก็ … ยิ่งกว่าละครเรื่อง อุ้งมือมารอีก …

เห็นเสียวๆอย่างนี้ ได้ขอได้ลองสักที จะไม่ลืมพระคุณ เอ๊ย ไม่ใช่ ได้ขอได้ลองสักทีจะติดใจ ลมมันโกรกดีจัง

นึกภาพออกหรือยัง … ถ้ายังนั่งตะแคงนอนตะแคงดูก็ยังคิดไม่ออกก็ดูวีดีโอนี่ดีก่า

หุๆ ไม่ต้องกลัวๆ เรามีไอ้นี่เอาไว้โยนให้ ถ้าร่วงจ๋อมลงไป … อิอิ … เราเรียกมันว่า Life ring (ห่วงชูชีพ)

เรือชูชีพ

ไหนๆก็ออกมาข้างนอกแล้ว มาดูเรือชูชีพกัน อยู่ไหนหว่า … นี่ไงๆ

นี่ครับที่เราเรียกว่า เรือชูชีพ (Life boat) ไม่อนาถาเหมือนที่เห็นในไททานิคนะครับ กันน้ำเข้า จะตะแคงหรือพลิกคว่ำพลิกหงาย ก็ไม่เป็นไร (เรือนะครับเรือ ที่พลิกคว่ำพลิกหงาย … คิดอะไรอยู่) ในนั้นมีอุปกรณ์ยังชีพ อยู่ได้สบายๆเป็นเดือนๆ รอบนอกเรือมีหัวฉีดละอองน้ำรอบลำเรือกรณีต้องฝ่าเปลวไฟลุยถั่วออกจากแท่นที่กำลังจะจม มีถังอัดอากาศกรณีที่ต้องแล่นฝ่ากลุ่มควันออกมา คนข้างในจะได้ไม่กลายเป็นหมูรมควัน

ระบบติดเครื่องก็มีถึงสามระบบ เผื่อไว้ไงครับ คือยังไงๆ(ตู)ก็ติดเครื่องเผ่นได้ว่างั้นเหอะ แต่ไม่อยากบอกเลยว่าในเรือมีใบพายสำรองอยู่ด้วย (อิอิ แหม เขาเอาไว้เผื่อลอยตุ๊บป่องๆนานๆยังไม่มีคนมาช่วยแล้วน้ำมันหมดต่างหาก) แล้วก็มีวิทยุสื่อสารฉุกเฉิน เอาไว้ตะโกน เมย์เดย์ๆแบบในหนังไง และที่ขาดไม่ได้คือ แชมเปนชั้นดี ไวน์รสเลิศ บริการ 24 ชม พร้อมบริการเกาสะดือฟรี (ไอ้ 2-3 อันหลังจะมีใครเชื่อไหมเนี่ย คิกๆ)

อันนี้ก็แผนสอง หรือที่ฝรั่งชอบเรียกว่า Plan B ครับ มันคือ แพชูชีพ (Life raft)(ดูๆเหมือนถังสีโดนถีบให้นอนตะแคงเนอะ) ไอ้นี่แหละคือแผนสำรองของเรา ถ้าเราถีบมันตกทะเล หรือ แท่นจมลง มันจะรู้งาน คือมันจะลอยโดยอัตโนมัติ พองลมแล้วก็กางออก เราก็ตะกายพงาบๆกระเสือกกระสนยัดตัวเองเข้าไปในแพ

แล้วเครื่องมือในแพ Radio Beacon (ออกเสียงคล้ายๆหมูเบคอนนั่นแหละ) จะส่งสัญญาณวิทยุคลื่นความถี่ฉุกเฉินไปถึงดาวเทียวดวงที่ใกล้ที่สุด ทำให้หน่วยกู้ชีพชายฝั่ง (Coast guard) รู้ตำแหน่งของพวกเรา ก่อนที่พี่ปอฯ กับพี่ร่วมฯ จะมาทึ้ง

อ้าว … ว่าไปนั่น งานนี้พี่ 2 พี่นั่นไม่เกี่ยว ดังนั้นรับรองว่าพวกคุณไม่มีเสียว พวกคุณจะได้พวกเรากลับไปบำเพ็ญกุศล และเป็นหลักฐานยื่นเคลมเงินประกันชีวิตแน่นอน เฮ้ย ไม่ใช่ ได้พวกเรากลับไปให้ใช้ซักผ้าถุงต่อแน่นอน (จากที่หนีมาแล้วยังซักไม่เสร็จก่อนมาที่นี่หนที่แล้ว เอิ๊กๆ)

รูปนี้ไม่ได้อยู่ในทัวร์เที่ยวนี้แต่เอามาแถม … คืนที่ถ่ายรูปนี้ เรากำลังโดนลาก (อีกแล้ว – โดนลาก หรือ ลากกันไป เราเรียกว่า Tow) จากที่หนึงไปอีกที่หนึ่ง จุดๆสองจุดในทะเลนั่นก็เรือลากของเรา กระดืบๆไปอย่างช้าๆ ราวๆ 3 น๊อต น๊อตนึงมันเท่าไรหว่า … อืมๆ … ราวๆ 1.852 กิโลเมตรน่ะ

พอโดนลาก เราก็ต้องยกขาขั้นใช่ไหม นี่ไง ขาเรายาวววววไหม เทียบกับรูปก่อนๆซิครับ จะเห็นว่า(ขา)ของเรายาวมากกกกก

พอมาถึงที่ใหม่ ก็ต้องปรับจานดาวเทียวซะหน่อย เดี๋ยวไม่มีเน็ทให้ทำงานทำการกัน (และโพสต์กระทู้กะเล่น chat) โลเทคดี โยกกันแบตั้งเสาอากาศโทรทัศน์เลยเนอะ ที่เห็นน่ะ ไม่ใช่ผมหรอกนะ ผมน่าอ้วนนนนก่าน้านนน

อ้าว นี้ก็มีอีกจาน ที่นี่มีหลายใบ เผื่อเหลือเผือขาด เผื่อล้างไม่ทัน (ตกลงมันจานอะไรของมันฟ่ะ) …. ที่เห็นเป็นจุดๆ นั่นก็เป็นเรือที่ใช้ลากเรามา

ปรับจานเสร็จก็โก้งโค้งโก่งตูดชะโงกไปดูกราบแท่นหน่อย ว่าเรือมันยังลากเราอยู่ดีหรือ เหวอๆ .. เสียวโว้ย …

มาต่อ … แวะมาดูตรงนี้ก่อน ผ่านมาพอดี ดูคลิปเพลินๆไปก่อน นี่เรียกว่า cementing unit เอาไว้ปัมปั๊มซีเมนต์ลงหลุม เอาลงไปทำไมนะเหรอ อย่าไปรู้เลย ขี้เกียจอธิบาย ส่วนคนที่ทำหน้าที่ปั่มปั๊ม ก็เรียกว่า cementer เห็นหมวกเขียวๆไหม นั่นแหละ มือใหม่หัดปั่มปั๊มปู๊ดๆ

ตรงนี้ก็เป็นมุมออกกำลังกายคลายเหงาของพวกเรา เครื่องมือพวกนี้ก็ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรทำเลย มาม่ะ มายืดแข้งยืดขากันหน่อย เอ้า … หนึ่ง สอง สั่ม … โอ้ยยยย หมดแรงแย้ววววว

ออกกำลังกายแล้วไงต่อล่ะครับ … ก็กินนะซิ … อิอิ

ตู้เย็น 24 ชม. กินได้กินดี … บอกซิเออเธอจะเอาเท่าไร เอาเท่าไร ไม่อ้วนเอาเท่าไร ………. แสลงหูจัง ไปแก้แสลงด้วยเค้กสักสองชิ้นดีก่าาาา อิอิ พ่อครัวที่นี่ทำชีสเค้กอร่อย แต่ล่ะแท่นก็จะมีเมนูเด็ดต่างๆกันให้พวกเราได้ร่ำลือ พ่อครัวที่นี่ใช่กระจอก แค่แบบทำตามสั่งข้างทางบ้านเรานะ ดีกรีเชฟกันทุกคน เพราะบริษัทเจ้าของสัญญาเป็นฝรั่ง ต้องมาทำให้ฝรั่ง แขก จีน สารพัดลิ้น ส่วนมากก็มาจากผู้ช่วยพ่อครัวมือหนึ่งตามโรงแรมต่างๆ

กลับมาเที่ยวกันต่อ ….

“ระวังโดนหนีบ” สติกเกอร์แบบนี้มีให้เห็นทั่วทั้งแท่นฯ ก็ช่วยได้นะ พิสูจน์ได้จากจำนวนนิ้วที่โดนหนีบลดลงจนไม่มีเลย จากที่วันหนึ่งๆ มีหลายกรณีต้องไปให้หมอเย็บอย่างนี้เรียกว่า Cost effective solution คือลงทุนน้อย ได้ผลมาก

… เฉลยพ่อรูปหล่อถือถ้วย …. นี่ก็เป็นกาแฟบริการ 24 ชม. ฮ่าๆ จ้วงเอาเลย … ไม่ใช่ครับมันเป็นน้ำโคลนที่ใช้ในการขุดหลุม เห็นสีแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ hi tech นะย่ะ ร่ำเรียนกันจะได้ด๊อกเตอร์ไปหลายคนแล้ว

คนที่ทำงานเกี่ยวกับน้ำโคลนบนนี้ เราเรียกเขาว่า Mud Engineer ถูกแล้วครับ แปลเป็นไทยว่า วิศวกรน้ำโคลน …. อย่าหัวเราะไป งานควบคุณคุณภาพน้ำโคลนบนแท่นเจาะนี่ยากมากนะครับ พวกนี้รายได้ดีจะตาย

เดินมาเมื่อยหรือยัง ออกมาพัก เกาะราวข้างๆแท่นชมวิวกันก่อน …โน้นไง … เส้นขอบฟ้า ผมคิดอยู่นานว่าจะตั้งชื่อหรือคิดมุกบรรยายใต้ภาพนี้ว่าอะไร ยากนะครับ กับภาพที่ไม่มีอะไรเลย แค่น้ำขุ่นๆกับฟ้ามอๆ ไม่มีนก ไม่มีปลา ไม่มีเดือน ไม่ตะวัน เป็นแค่ภาพชืดๆเฉยๆแบบนี้

… ดูใต้ภาพซิครับว่าผมจะบอกอะไรคุณ
ถึง “เธอ” จะไม่สวยมาก แต่ “เธอ” ก็สวยพอ นั่นก็พอแล้วที่ “ฉันจะรักเธอ”

แล้วก็มานั่งชมวิวเหงาๆกันอีกรอบ

พักกันพอแล้วปีนขึ้นไปดูบนแท่นหน่อยซิว่าเขาทำอะไรกันมั่ง … นี่ไงครับ กำลังขุดกันอยู่ ฝรั่งใส่เอี้ยมหันหลังให้เรา เขาเรียกว่า Driller (คนบังคับก้านขุด) คุยไปคุยมา พ่อนี่ได้เมียไทย บ้านอยู่ระยอง

ส่วนพ่อฝรั่งรูปงามหัวแดง เอ๊ย หมวกแดงที่หันหลังให้เรียกว่า Directional Driller (คนความคุมทิศทางการขุด) นี่ก็พอกัน พูดไทยได้ 30% แต่ให้ตายซิโรบิ้น (เกี่ยวอะไรด้วยว่ะ) อู้กำเมืองชัดกว่าภาษากลาง บ้านอยู่หางดง เจียงใหม่เจ้าาาา

ส่วนสามรูปล่างนั่นก็ Roughneck (คนต่อก้าน) พวกนี้ส่วนมากเป็นคนพื้นที่ครับ ใช้แรงงานเป็นหลัง แต่โทษที่ครับ ค่าแรงพวกนี้ จบป.ตรี ทำงานที่ฝั่งยังได้น้อยกว่าเลยครับ ดูดีๆ เห็นหมวกเขียวอีกแล้ว (ถ้าไม่เข้าใจเรื่องหมวกเขียว แสดงว่าคุณอ่านข้ามไปข้ามมา …)

ในคลิปนี่ เขากำลังต่อท่อ (casing) ลงไป คือว่าพอเจาะหลุมลงไปแล้วก็ต้องต่อท่อเหล็กลงไปเพื่อกันดินถล่ม อธิบายกันง่ายๆสั้นๆอย่างงั้นเถอะ

จะสังเกตุเห็นว่า ของแต่ล่ะชิ้น งานแต่ล่ะงาน ใช้เครื่องมือหนักหนักๆทั้งนั้น ยังดีที่สมัยนี้เครื่องจักรทุ่นแรงต่างๆมีเยอะกว่าสมัยผมทำงานใหม่ๆมาก

คนต่อก้าน (Roughneck) สมัยนี้จึงไม่ต้องขนาดอลังการมากนัก ใส่เสื้อเบอร์ M ก็ทำงานนี้ได้แล้ว สมัยผมทำใหม่ๆนะ ต้องใส่เบอร์ XXL ไซด์อเมริกัน เป็นอย่างต่ำ ดังนั้นอันตรายจากการใช้เครื่องมือเหล่านี้ย่อมมีมากตามไปด้วย การทำงานเป็นทีมก็สำคัญไม่แพ้กัน ดูดีๆ ถ้าส่งถ้ารับกันไม่ทันหรือพลาดก็เละเป็นโจ๊กล่ะครับพี่น้อง

คลิ๊กค้างไว้ดูเพลินๆ

แล้วนี่ก็ท่อ (tubing) ครับ … อะฮ่าๆ ไม่ใช่หลอดดูดโอเลี้ยงนะ เราใช้มันดูดจ๊วบๆเอาน้ำมันหรือก๊าซขึ้นมา นี่ก็ hi tech อีก ไม่ใช่สักแต่ว่าท่อ … ได้ด๊อกเตอร์ไปหลายคนเหมือนกันแล้วกับไอ้ท่อๆเกลียวๆนี่

ใครรู้จักส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์รถที่เรียกว่า “นมหนู” บ้าง คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมถึงเรียกว่านมหนู มันคงคล้ายนมหนูมัง แล้วกระจกมองหลังที่เรียกว่า “หูช้าง”อีกล่ะ มันก็คงเหมือนหูช้างใช่ไหม บนแท่นขุดนี้ก็มีศัพท์แสงอะไรพรรณนี้เหมือนกัน แต่ให้ตายซิผมว่าดูยังๆก็ไม่เหมือน แต่บางอย่างก็คล้าย มา ตามไปดูกัน

อุปกรณ์ต่างๆ

Cat Head (หัวแมว) … เป็นไง อึ้งกิ้มกี่ไปเลย แค่อย่างแรกนะเนี่ย มันคือแกนของกว้านที่ใช้ยกก้านเจาะ

Mouse Hole (รูหนู) … เห็นกระบอกแท่งยาวๆสองแท่งนั่นไหมครับ นั่นล่ะ เอาไว้ให้หนูๆ หรือ กิ๊กอยู่ก็ช่างเหอะ ขี้เกียจอธิบาย ไม่รู้จะบอกอย่างไง เรื่องมานยาววววว

Dog House (บ้านหมา) เอาไว้สารพัด ตั้งแต่ส้วม ห้องทำงาน ห้องปฏิบัติการ ห้องซ่อนกิ๊ก ห้องดูหนังโป๊ ไปยันห้องนอน แต่ที่เห็นเป็นห้องทำงาน

Poor Boy (เด็กชายผู้น่าสงสาร) เอาไว้แยกก๊าซที่ออกมาจากน้ำโคลนที่ขึ้นมาจากหลุมในขณะขุดเจาะ

Shoe (รองเท้า) เห็นสีแดงๆแหลมๆนั่นไหมครับ นั่นล่ะ เป็นส่วนที่ครอบปลายของท่อสุดท้ายของหลุม ส่วนมากมันจะทู่ๆ แต่รุ่นนี้แหลมแฮะ แต่โทษที ไม่มีรุ่นส้นสูง ฮ่าๆ สงสัยยังไม่มีคนออกแบบเป็นผู้หญิง

BOP (Blow Out Preventer) อ่านว่า บี โอ พี นะครับ เอาไว้ปิดปากหลุมกันก๊าซหรือน้ำมัน พุ่งขึ้นมาในกรณีฉุกเฉิน จะได้เผ่นหนีทัน จะเรียกว่าปราการณ์ด่านสุดท้ายก็ไม่ผิดนัก ตอนผมเข้าทำงานใหม่ๆสมัย 20 ปีก่อน ไปอ่านว่า บ๊อบ อย่างมั่นใจในภาษาอังกฤษ กะว่าเชิดหน้าชูตาสยามประเทศว่าตูก็อ่านออกนะเฟ้ย … เพล้งงงง หน้าแตกละเอียด … Bolw out Preventer นะครับ ไม่ใช้ Blow Job Preventer ถ้า BJP ต้องไปดูที่อื่น

พอดีของที่แท่นมันอยู่ในมุมอับ ถ่ายรูปมาไม่สะดวก เลยเอารูปของที่ลานกระบือมาให้ดู เหมือนกันเดี๊ยะเลย

Texas deck (แท่นเท็กซัส) เหอะๆ อธิบายไม่ถูกว่ามันคืออะไร แต่สงสัยคนออกแบบคิดค้นเป็นคนจากรัฐนี้ เสียดายผมเกิดทีหลัง ไม่งั้นไอ้ชิ้นนี้อาจจะชื่อว่า Thai deck, Saim deck หรือไม่ก็ Ubon deck ฮ่าๆ ที่เห็นเป็นรูๆอยู่ตรงกลางน่ะ ไม่ได้เอาไว้ตั้งวางโถส้วมหรือเอาไว้ให้แอ่นพุงยืนฉี่นะ จริงๆแล้ว เอาไว้เป็นที่ให้คนลงไปติดตั้งประกอบขุดหัวบ่อน้ำมัน (Well Head) พอดีว่ารูปชุดหัวบ่อ มันไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจ ก็เลยไม่ได้เอามาให้ดูกัน

Cat Walk (ทางแมวเดิน) ไหนๆ นางแบบท่านไหนอยากมาเดินบ้าง … ฮ่าๆ

Ramp (ทางลาดขึ้น) อันนี้ไม่ยาก ลาดๆชั้นๆขึ้นไปนี่แหละ เอาไว้ลากของขึ้นไปทำงานบนแท่น

V door (แปลไงล่ะ ประตูตัววี) เห็นป่ะ ใหญ่เบ้อเร่อเลย ตอนแรกผมก็หาไม่เจอ เพราะมันใหญ่ พอมีคนชี้ให้ดู ร้อง อ้อ … ถ้าเป็นงูก็โดนกัดตายไปนานแล้ว

Monkey Board (กระดานลิง) โน้น บนโน้น … อันนี้ค่อนข้างลงตัว ให้ลิงอยู่ แต่คนที่ทำงานบนนั้นดันเรียกว่า Derick man เป็นคนทำหน้าที่ประคองปลายท่อด้านบนเข้าเก็บที่

Rabbit (กระต่าย) เราเอามันยัดใส่ท่อปลายด้านหนึ่ง ดึงหรือปล่อยให้มันตกลงอีกด้านหนึง เป็นการให้แน่ใจว่า ขนาดภายในมันไม่เล็กไปกว่าตัวกระต่ายที่ผ่านได้ เห็นเวลาเราใช้งานแล้วจะเข้าใจ มันวิ่งปรู๊ดวิ่งปรู๊ด เหมือนกระต่ายจริงๆ

Chrismas tree (ต้นคริสต์มาส) เป็นชุดของวาว์ปากบ่อ รูปบนนี้ไม่มี ยืมเอารูปที่ถ่ายตอนไปลานกระบือมาแทนก็แล้วกัน

ยังมี Rat hole (รูหนู-อีกแบบนึง) Goose neck (คอห่าน) Donky dick (กระจู๋ลา) เสียดาย บนนี้ไม่มีสองอย่างนี้ ตอนผมเข้ามาทำงานใหม่ๆผมเคยสงสัยว่าตูมาสมัครงานสำรวจน้ำมันนะ กรอกใบสมัครผิดใบหรือเปล่า นึกว่ามาทำงานสวนสัตว์ หรือ สวนสนุก (ฮ่า)

เดินจูงมือกันตามกันมาอย่าให้หลง
เลี้ยวแล้วเดินตรงมาเลยครับ

ไปช่วยนักธรณี (Geologist) ส่องกล้องดูเศษหินที่ติดขึ้นมากับน้ำโคลน (Mud) กันดีก่า หน้าที่ส่วนหนึ่งของนักธรณีที่บนนี้คือการทำงานร่วมกันวิศวกรขุดเจาะ (Drilling Engineer) (อย่างผม)เพื่อบอกให้ได้ว่าตอนนี้เราเจาะถึงไหน เจาะชั้นหินอะไร ไปสุดแค่ไหน อะไรแบบนี้ เพราะไอ้ลูกอีช่างเจาะอย่างผม มีหน้าที่ตะบี้ตะบันเจาะ

นักธรณีจะเป็นคนบอกว่าเจาะไปทำไมที่ไหนอะไรยังไงแบบนี้ ไม่ใช่สักแต่ว่าตูจะเจาะ แต่ให้นักธรณีมาเจาะ แกก็เจาะไม่เป็น แต่ต่างฝ่ายต่างต้องเรียนรู้งานของอีกฝ่ายด้วย เพื่อที่จะร่วมมือและเห็นอกเห็นใจในการทำงานร่วมกัน …

อธิบายมายืดยาว มาช่วยกันส่องกล้องดูเศษหินกัน จริงๆก็รู้เรื่องธรณีงูๆปลาๆเก็กทำท่าทางส่องเป็นไปงั้นแหละครับ ภาพที่เห็นก็เหมือนเอาแว่นขยายไปส่องเศษดินเศษทรายคลุกน้ำโคลนนั่นแหละครับ เหมือนเด๊ะเลย

ขออกนอกเรื่องหน่อย มีรูปแถม ไม่เกี่ยวกับทริปนี้ แต่รูปนี้ก็ทำให้เห็นว่า คำว่า “เจ้าที่” และ “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” นั้น ยังใช้ได้ดีในทุกวงการ เชื่อป่ะ ผมได้ยินจากเพื่อฝรั่งว่าว่า ปล่อยกระสวยอวการ (Space Shuttel) นอกจากดูลมฟ้าอากาศแล้วยังดูฤกษ์ดูยามด้วย คือดูตามแบบตำราฝรั่งน่ะ เนอะๆ นับประสาอะไรเราจะขุดหลุมหาน้ำมัน ก็ต้องตั้งศาลพระภูมิซิ อันตรายและอุปสรรคมันเยอะ

ทำแล้วสบายใจ แถมยังได้กินเหล้าขาวฟรีอีกด้วย คือพอถวายเสร็จเย็นนั้นก็ขอท่านกลับคืนมาแกล้มมะขามเปียก ซดกันทั้งวิศวกรทั้งลูกน้อง แหม เขาเรียกว่าการบริหารแบบ เข้าใจ เข้าถึง พึ่งได้ อิอิ

พูดถึงไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ลองดูรูปนี้ซิว่า ถ้าคุณขับรถผ่านตอนโพลเพ้ลๆคนเดียวคุณคิดถึงอะไร … ปรื้อออออออ รูปนี้จอดรถถ่ายมาจากลานกระบือนั่นแหละ

ว่าแล้วก็เอามาให้ดูอีกรูป ครั้งหนึ่งเราไปเจาะใกล้ๆกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็เอาแท่นลำที่ผมอยู่ตอนนี้แหละไปเจาะ จีวรปลิวมาเลย นานๆได้เห็นพระจีวรปลิวสยายเดินลงจากเฮลิคอเตอร์ เป็นภาพหาดูยากนะ จริงๆมีภาพเป็นกะตั๊กเลย แต่มันชัดมากว่าใครเป็นใคร มีผู้หลักผู้ใหญ่ของเราเยอะแยะ

เป็นพระชื่อดังของเขาเชียวนา ฟังจากบรรยายสรรพคุณแล้ว ผมเทียบเอาเองว่าคงประมาณหลวงพ่อคูณฯของเราแหละ เอาล่ะซิ ไม่บอกก็รู้ว่าเลี้ยงพระเลี้ยงเจ้า อิ่มหมีพีมันแล้ว พี่ไทยเราทำอะไร ขอของขลัง ของเลขของหวย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ (อีกแล้ว) ได้ข่าวว่างวดนั้นโดนเต็มๆ ถูกกันรวยเละเลย พระแกให้ตรงๆเลย ผมนะเหรอ ไม่มีดวงทางนี้หรอก ไม่เคยซื้อ

มาทัวร์กันต่อ ออกมาข้างนอกหน่อยดีกว่า …
เอ๊ะ นี่ห้องอะไรเนี่ย รูปแปะหน้าห้องน่าสนใจดี แวะเข้าไปดูใกล้ๆดีกว่า

อ๋อ … แฮ่ๆ Sick Bay แปลว่าอะไร ไม่ได้แปลตรงๆตัวว่า อ่าวป่วยนะครับ มันแปลว่า “ห้องพยาบาล” .. แต่เห็น นางพยาบาลแล้า น่าป่วยจัง …

พูดถึงเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยใน Rig Tour หน่อยดีกว่า เผื่อพี่ป้าน้าอาจะเป็นห่วง ตามกฏหมายและกฏการทำงานของลูกค้าและบริษัทฯต่างๆที่ส่งคนงานมาที่นี่จะบังคับให้ที่นี่ต้องมี Midic แต่ไม่ถึงกับต้องเป็นหมอ แต่ก็ต้องมีทักษะมากกว่าพยาบาล ผมก็ไม่รู้ว่าเมืองไทยเรามีอะไรที่อยู่กลางๆแบบนี้

ห้องพยาบาลก็ต้องมีอุปกรณ์ต่างๆพร้อม ส่วนจะแค่ไหน ขึ้นกับระดับความยากง่ายในการอพยพเคลื่อนย้ายทางการแพทย์ (Medivac = Medical evacuation) ถ้าอยู่ในแหล่งผลิตที่มีทั้ง แท่นผลิตแบบอาทิตย์ที่เห็นในกบนอกกะลา ซึ่งมีฮ.บินไปมา แล้วก็ใกล้ๆ ก็อาจจะไม่ต้องมีอะไรมากนัก

แต่ถ้าไปขุดกันไกลๆ เดินทาง หรือ ฮ.บินลำบาก ก็จะต้องมีมาตราการความปลอดภัยเจ็บป่วยฉุกเฉินขั้นที่ทำให้ทุกคนที่มาทำงานอุ่นใจได้

พูดก็พูดเถอะครับ ผมว่าถ้าผมเป็นอะไรที่นี่แล้วต้องผ่าตัดไส้ติ่งด่วน ผมว่าผมถึงมือหมอเฉพาะทางได้เร็วกว่าที่กทม.อีก เพราะถ้าฉุกเฉินปั๊บ มันจะมีขั้นตอนมาตราฐานของมันเลยว่าระดับนี้ ใครต้องทำอะไร ใครต้องอนุมัติ

กี่ทุ่มกี่ยาม ฮ.ก็ต้องบินมารับ ไปส่งถึงรพ. หมอจะถูกปลุกขึ้นมาเตรียมเขียงผ่าเลย เพราะเขามีบริการด้าน Medivac มืออาชีพอยู่แล้ว พวกไม่งั้นพวกฝรั่งที่กังวลเรื่องนี้มากกว่าพวกเรา ไม่มั่นใจมาหรอก ค่าเบี้ยประกันก็เอาเรื่องอยู่ แต่ส่วนมากบริษัทฯต้นสังกัดจ่ายให้ทั้งนั้น

มีถามมาเยอะมากว่า รับน้องผู้หญิงไหมค่ะ อะไรแบบนี้ แหม ยินดีต้อนรับซิครับ เดี๋ยวนี้นี้มีเยอะกว่าสมัยผมทำใหม่ๆมาก นี่ไงหลักฐาน แจ่มๆเลย น่ารักมั๊กๆขอบอกๆ แต่ให้ดูชัดๆไม่ได้นะ เดี๋ยวน้องเขาอาย เดี๋ยว Rig Tour จะจบไม่สวย เพราะโดนน้องๆค้อนเอา

แหม กำลังดูปลาอยู่เชียว น่ารักจัง แต่ทำไมปลามันสีสดจัง เอิ๊กๆ

ที่นี่เหมือนโรงงานลอยน้ำขนาดใหญ่เลยครับ

พวกเราทำงานกัน (หนักบ้างอู้บ้าง) 2 กะ ตลอด 24 ชม. ไม่มีเสาร์อาทิตย์ คริสต์มาส ปีใหม่ วาเลนไทน์ หรือ เชงเม้ง บนนี้ไม่มีสุรา ไม่มีนารี สุขภาพ(กาย)พวกเราดีแน่นอน (เก็บสุขภาพเอาไว้ไปถลุงตอนกลับฝั่ง กุ๊กๆ)

ดังนั้นรับประกันด้วยเกียรติของลูกเสือว่าเราจะไม่ออกนอกลู่นอกทาง (เพราะมันออกไปไหนไม่ได้) ส่วนสุขภาพใจ … พวกเราคิดถึงคนที่บ้านนะ ….

เอ๊า … หาที่ลง หามุกจบไม่ได้ หักมุมลงตรงไหนดีหว่า เอางี้ … ไหนๆก็มากับผมแล้ว ติดอยู่บนนี้กับผมอีกสัก 10 กว่าวันแล้วค่อยกลับพร้อมกันนะครับ มาด้วยกันจะชิ่งกลับก่อนได้ไง … ส่วนถ้าคุณที่มีธุระจะต้องกลับไปทำที่ฝั่งจริงๆ ก็เอางี้ เห็นทางที่พระอาทิตย์ขึ้นไหมครับ วิชาลูกเสือป 4 ของผมบอกว่านั่นคือทิศตะวันออก คุณโดดลงทะเลตรงนี้นะ

(อืม … ผมว่าสูงราวๆ 45 เมตรนะจากตรงที่เรายืนถึงผิวน้ำ) ถ้าคุณไม่จุกแอ๊กๆจมก้นทะเลลงไปเป่ายิงฉุบกับนีโมเสียก่อน พอคุณโผล่ขึ้นมาแล้วคุณก็ว่ายไปทางตรงข้ามกับที่พระอาทิตย์ขึ้น ฝั่งจะอยู่ทางนั้น คุ้นๆว่าเป็นอำเภออะไรสักอำเภอของจังหวัดสงขลา แล้วโบกรถเข้าเมืองก็แล้วกัน

แต่คุณต้องว่ายน้ำนานหน่อยนะ เพราะมันราวๆ 300 กิโลเมตร ถึงฝั่งแล้วอย่าลืมหาร้านเน็ทส่งอีเมล์มาบอกด้วยนะครับ ส่วนคุณๆที่ไม่มีธุระอะไรต้องกลับฝั่ง ตามผมไปกินมื้อเย็นแล้วไปดูซิทคอม “เป็นต่อ” กัน

อันนี้ผมแถมให้ฟรีๆครับ … เอ .. เอากลับมาคืนก็ดีนะ 🙂

… จบ Rig Tour เสียที … สวัสดีคร้าบบบบบบ

ปล. Rig Tour นี้ผมเขียนเอาไว้นานแล้วนะครับ ตั้งแต่สมัยการบินไทยบินในประเทศที่ดอนเมือง ก็ราวๆปี 2008 มังครับ หลายอย่างอาจจะเปลี่ยนไป แต่หลักๆ สภาพแวดล้อมการกินอยู่หลับนอนก็ไม่ต่างไปจากนี้เท่าไรหรอกครับ

24 ชั่วโมงบนแท่นขุดเจาะ

24 ชั่วโมงบนแท่นขุดเจาะ กลางทะเล เราทำอะไรกันบ้าง

ถ้าจะซื้อของออนไลน์จาก 2 เจ้านี้อยู่แล้ว คลิ๊กลิงค์ หรือ โลโก้ ข้างล่างนี้เลยครับ ผมจะได้ค่าคอมฯเล็กๆน้อยๆสมทบทุนจ่ายค่าเช่า host server ขอบคุณครับ

(ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ใช่ลิงค์ดูดเงินแน่ๆ)

https://raka.is/r/qlzXR https://raka.is/r/gP7GV

--- มีคำถามเพิ่มเติม พูดคุย เม้าส์มอย ไปต่อกันได้ที่กระดานสนทนา (webboard) นะครับ

คลิ๊กเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

The Sweet Girl

ของมือสองของเฟิร์นค่ะ มีหลายชิ้นเลย ราคาดีสุดๆ (คลิ๊กที่รูปนะคะ ลิงค์จะพาไปที่ร้านค่ะ)

Fern shop

--------- คลิ๊ก - The Sweet Girl ----------